×

The Wall Street Journal ตีข่าว! ชื่อเธอคือเทนนิส พี่น้องชื่อโบว์ลิ่งและเบสบอล และเธอเพิ่งคว้าเหรียญทองในกีฬาเทควันโด

12.08.2024
  • LOADING...
เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ

The Wall Street Journal สื่อยักษ์ใหญ่ระดับโลก ถึงกับต้องยกให้เป็นข่าวใหญ่ เมื่อนักกีฬาสาวไทยนามว่า ‘เทนนิส’ คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเป็นสมัยที่ 2 สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการกีฬาไทย

 

‘Her Name is Tennis. Her Siblings are Bowling and Baseball. And She Just Won Gold in Taekwondo’ หรือ ‘เธอชื่อเทนนิส พี่น้องของเธอชื่อโบว์ลิ่งและเบสบอล และเธอเพิ่งคว้าเหรียญทองในกีฬาเทควันโด’ นี่คือฟาดหัวที่ชวนให้ขยี้ตาอ่านอีกครั้งอย่างตั้งใจ

 

จากความคลั่งไคล้สู่ความสำเร็จระดับโลก

 

ครอบครัวของ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นั้นรักกีฬามากกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ พ่อของเธอ สิริชัย เคยแข่งขันฟุตบอล กรีฑา และว่ายน้ำ ส่วนแม่ วันทนา เป็นครูสอนแอโรบิก ด้วยความหวังว่าลูกๆ จะรักกีฬาเหมือนพวกเขา จึงตั้งชื่อเล่นให้ลูกทั้งสามว่า โบว์ลิ่ง เบสบอล และเทนนิส

 

แต่ใครจะคิดว่า ‘เทนนิส’ กลับไม่ได้เก่งเทนนิสอย่างที่ชื่อบ่งบอก เธอเผยว่า “หนูลองเล่นเทนนิสแล้ว แต่มันไม่ใช่” ก่อนจะค้นพบว่าเทควันโดคือกีฬาที่ใช่สำหรับเธอ

 

เรื่องราวของเทนนิสสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนจากครอบครัวในการสร้างความสำเร็จในอาชีพ แม้ว่าเส้นทางอาจไม่ได้เป็นไปตามที่วางแผนไว้แต่แรก แต่การเปิดโอกาสให้ลูกได้ค้นหาตัวเองนั้นสำคัญยิ่ง

 

ในโลกของการทำงาน เราอาจพบว่าตัวเองไม่ได้เหมาะสมกับอาชีพที่เรียนมาหรือที่ครอบครัวคาดหวัง การกล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆ และค้นหาความถนัดที่แท้จริงของตัวเองอย่างที่เทนนิสทำ จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ

 

จากเด็กฝึกสู่แชมป์โลก: บทเรียนแห่งความมุ่งมั่น

 

เทนนิสเริ่มฝึกเทควันโดตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยได้แรงบันดาลใจจากคำแนะนำของพ่อที่ว่า “ลูกสามารถใช้มันป้องกันตัวเองในสถานการณ์อันตรายได้”

 

หลังจากนั้นไม่ถึง 10 ปีต่อมา เธอก็คว้าแชมป์โลกครั้งแรกในปี 2015 ตามด้วยเหรียญทองแดงโอลิมปิกในปี 2016 และเหรียญทองโอลิมปิกในปี 2021 และ 2024

 

นอกเหนือจากการเป็นนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติด เทนนิสยังคว้าแชมป์รวม 52 รายการตลอดอาชีพนักเทควันโด เป็นแชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์เยอะที่สุดในโลก (12 สมัย) รวมถึงนักกีฬาไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองในกีฬามหาวิทยาลัยโลก 3 ครั้งติดอีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม บทเรียนสำคัญที่เราสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานคือ ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและความมุ่งมั่นในระยะยาว

 

การตั้งเป้าหมายและวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน จากการเริ่มต้นเป็นมือสมัครเล่น สู่การเป็นมืออาชีพ และก้าวขึ้นสู่ระดับโลก เป็นแนวทางที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

บทส่งท้าย: เมื่อถึงจุดสูงสุดของอาชีพ จะก้าวต่อไปอย่างไร

 

เทนนิสประกาศว่าโอลิมปิกครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันรายการใหญ่ครั้งสุดท้ายของเธอ โดยเผยว่ามีอาการบาดเจ็บที่เข่า ข้อเท้า และสะโพก

 

“คิดว่าถึงเวลาต้องพักจากการแข่งขันแล้ว” เธอกล่าวอย่างอารมณ์ดี “แต่ฉันมียิมสอนเทควันโด ถ้าใครสนใจอยากเรียนรู้เพิ่มเติม เชิญมาที่เมืองไทยนะคะ” คำพูดนี้เกิดขึ้นในระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังจบการแข่งขัน และกลายเป็นประเด็นที่ผู้คนในโลกออนไลน์พูดถึงกันอย่างสนุกสนานว่าเป็น “คนไทยคนแรกที่ฝากร้านในโอลิมปิก”

 

ข้อมูลจาก Tennis panipak wongpattanakit ซึ่งระบุว่าเป็นแฟนเพจหลักของน้องเทนนิส นักกีฬาเทควันโดเหรียญทองโอลิมปิก เผยถึงยิมที่เปิดสอนโดยมี 2 แห่ง คือ โครงการ Little Walk กรุงเทพกรีฑา ชั้น 2 และ JAS Green Village Prawet ชั้น 2

 

แม้ว่าการประกาศเกษียณของเทนนิสจะทำให้แฟนกีฬาชาวไทยรู้สึกใจหาย แต่เชื่อว่าทุกคนต่างภูมิใจในความสำเร็จที่เธอสร้างไว้ตลอดเส้นทางการเป็นนักกีฬา เทนนิสมอบความสุขและแรงบันดาลใจให้กับคนไทยอย่างมากมาย

 

ขณะที่การเปิดยิมสอนเทควันโดก็ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการวางแผนอาชีพในระยะยาว แม้จะอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพนักกีฬา แต่การมองไปข้างหน้าและเตรียมพร้อมสำหรับบทบาทใหม่ในอนาคตเป็นสิ่งสำคัญ การถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้กับคนรุ่นต่อไป ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างมรดกทางกีฬา แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและโอกาสให้กับเยาวชนรุ่นใหม่อีกด้วย

 

เส้นทางใหม่ที่ เทนนิส-พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ กำลังจะก้าวเดินนั้น แม้จะต่างจากสังเวียนการแข่งขัน แต่เราเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และความมุ่งมั่นของเธอ จะสามารถสร้างความสำเร็จในบทบาทใหม่ได้อย่างแน่นอน เราจึงขอส่งกำลังใจและความปรารถนาดีให้กับเทนนิส ในการเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตอย่างราบรื่นและมีความสุข

 

ภาพ: ดิษยุตม์ ธนบุญชัย / THE STANDARD SPORT

อ้างอิง:

 
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising