ในช่วงนับถอยหลังสู่รอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2023/24 ที่คู่ชิงปีนี้เป็นการพบกันระหว่างเรอัล มาดริด กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย
โดยเฉพาะ The Last Dance ของ โทนี โครส และ มาร์โก รอยส์ สองนักเตะระดับตำนานของเยอรมนีและทั้งสองสโมสร ซึ่งต้องมาติดตามกันว่าใครจะเป็นฝ่ายปิดฉากกับสโมสรอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยแชมป์ยุโรปในเกมสุดท้ายของอาชีพนักเตะระดับสโมสรอาชีพ
แต่ก่อนที่จะไปถึงนัดชิงชนะเลิศ THE STANDARD SPORT มีโอกาสพิเศษพูดคุยกับผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์นั้นมาแล้วในฐานะแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อปี 1997 กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาคนนั้นคือ พอล แลมเบิร์ต นักเตะดอร์ทมุนด์ชุดแชมป์ UCL ปี 1997
โดยเราได้สอบถามถึงประสบการณ์กับสโมสร การคว้าแชมป์ และทำอย่างไรดอร์ทมุนด์ถึงจะไปถึงแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ
พอล ขอบคุณที่มาสัมภาษณ์กับเรา สิ่งที่ผมอยากจะถามคุณเป็นข้อแรกคือ คุณเล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหมเกี่ยวกับช่วงเวลาที่คุณเล่นที่ดอร์ทมุนด์
พอล แลมเบิร์ต: เมื่อตอนที่ผมย้ายไปดอร์ทมุนด์ มันเป็นการเปลี่ยนชีวิตไปเลยสำหรับผม สโมสรนั้นเปลี่ยนชีวิตผม ฟุตบอลที่นั่นเหลือเชื่อมาก ทีมก็น่าเหลือเชื่อมากๆ ทั้งทีมงานและคนอื่นๆ ก็สำคัญทั้งหมด การย้ายครั้งนั้นเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย ไม่ใช่แค่ในสนาม แต่นอกสนามด้วย มันเปลี่ยนทั้งชีวิตของผม มีฐานแฟนบอลที่น่าเหลือเชื่อ เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ เป็นสโมสรที่พิเศษ พิเศษมากๆ ทุกๆ คนมักจะอยากจะถามผมว่าตอนเล่นที่นั่นเป็นอย่างไร เพื่อที่จะรู้ความหมายที่แท้จริงของการได้รับการสนับสนุน
ผมคิดว่าผมเข้าใจบรรดาแฟนๆ เพราะมันคล้ายที่กลาสโกว์มาก ดอร์ทมุนด์กับกลาสโกว์มีความคล้ายกันจริงๆ เป็นคนที่ทำงานหนักและอยากเห็นเราทำงานหนัก ซึ่งผมเชื่อมโยงกับพวกเขาได้ และมันส่งผลต่อผมมากๆ ทีมที่ผมเล่นด้วยก็เป็นทีมที่พิเศษ เป็นคนดี และเราก็ได้แชมเปียนส์ลีกในปีนั้น เป็นทีมที่วิเศษมากๆ
อะไรคือกุญแจแห่งความสำเร็จของปี 1997 ที่พาทีมของพวกคุณคว้าแชมเปียนส์ลีก
พอล แลมเบิร์ต: ผมคิดว่าเรามีความเข้มแข็งและเป็นหนึ่งเดียวกันภายในทีมมาก มีโค้ชที่ฉลาด ออตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ เป็นคนที่ฉลาดมากๆ ในความคิดของผมเรามีนักเตะระดับโลกตัวจริง พวกเขาเคยคว้าแชมป์หลายรายการมาก่อน ดังนั้นการที่สโมสรมีนักเตะที่เคยคว้าแชมป์มาก่อนในระดับนั้น ผมคิดว่านั่นคือกุญแจของเรา เป็นปัจจัยที่ใหญ่มาก ผมคิดว่าความสัมพันธ์ในห้องแต่งตัวที่มีความแข็งแกร่งระดับนั้น แม้ว่าเราจะมีปัญหานักเตะได้รับบาดเจ็บ แต่คนอื่นๆ ก็เล่นได้ดีมากๆ มันไม่เคยเป็นปัญหา ผมคิดว่ามันคือกุญแจ
ออตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ กับถ้วยแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ปี 1997
ความรู้สึกและการปรับตัวก่อนเกมคือสิ่งที่ทำให้เราชนะ ผมคิดว่ามันคือกุญแจที่ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเราชนะได้ อย่างที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ เรามีโค้ชที่ฉลาดมาก และยังมีนักเตะระดับท็อปอีกมาก นอกจากนั้นยังเป็นคนดีมากๆ อีกด้วย
การทำงานกับโค้ชที่ยิ่งใหญ่อย่าง ออตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ เป็นอย่างไรบ้าง และเขาเป็นแรงบันดาลใจขนาดไหนในช่วงเวลาต่อมาที่คุณกลายเป็นโค้ช
พอล แลมเบิร์ต: มันตลกดีเหมือนกันที่เรายังติดต่อกันอยู่จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งมันดีทีเดียว ผมคิดว่าตอนที่ผมเจอเขาผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับความนิ่งที่เขาเป็น เขานิ่งมากๆ เป็นคนที่สงบนิ่ง เยือกเย็น ไม่โดนกดดันใดๆ และเขาสามารถรับมือกับนักเตะซูเปอร์สตาร์ได้ดี รับมือกับนักเตะระดับโลกได้ดีด้วย ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความฉลาดมาก หลังจากนั้นตอนที่ผมเริ่มงานผมก็เจอเขาโดยบังเอิญ แล้วเขาก็ให้คำแนะนำกับผมเกี่ยวกับการรับมือกับเสียงวิจารณ์ คุณถามผมเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ มันยิ่งใหญ่มาก เป็นชายที่ฉลาดมากๆ ฉลาดมากจริงๆ เป็นโค้ชที่ดีมากๆ ในความคิดผมเขาดีมากๆ ในการบริหารคน และผมคิดว่าเขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ห่วงใยคนอื่น และมีแบบแผน ตอนที่ผมจะมารับงานคุมทีมผมก็เรียนรู้จากเขาไม่น้อย
ในแชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ โดยเฉพาะโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นักเตะที่เล่นให้สโมสรเดียวอย่าง มาร์โก รอยส์ สำคัญกับสโมสรขนาดไหนที่จะมีนักเตะแบบนี้
พอล แลมเบิร์ต: ผมคิดว่ามาร์โกเป็นเหมือนนักเตะอย่าง ไมเคิล ซอร์ค ผมคิดว่าเหมือนกันนะ ซอร์คก็เป็น One Man Club ผมคิดว่าพวกเขาสำคัญ เพราะว่าพวกเขารู้จักสโมสรดีกว่าที่พวกเขาคิด พวกเขารู้จักสโมสรมาอย่างยาวนานและรู้ทุกอย่างที่เป็นไป ผมไม่รู้ว่ามาร์โกจะทำอะไรต่อหลังออกจากสโมสร
PARIS, FRANCE – MAY 07: Marco Reus of BVB celebrates victory after the UEFA Champions League semi-final second leg match between Paris Saint-Germain and Borussia Dortmund at Parc des Princes on May 07, 2024 in Paris, France. (Photo by Markus Gilliar – GES Sportfoto/Getty Images)
แต่ผมคิดว่าการได้อยู่ที่นั่นเสมอมา เขาเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับทุกคน ได้รับความเคารพจากทุกคนในห้องแต่งตัวและทุกคนในสโมสร สิ่งที่ผมได้เห็นเมื่อวันเสาร์ (18 พฤษภาคม) ไม่ได้ทำให้ผมเซอร์ไพรส์ เพราะแฟนๆ รักเขา และเขาจะได้รับการต้อนรับกลับมาที่ดอร์ทมุนด์อยู่เสมอ
มีนักเตะไม่เยอะที่จะทำอะไรแบบนั้นได้ ไม่มากเลย เขาเป็นหนึ่งในคนที่เป็นสัญลักษณ์และใส่เสื้อของสโมสรมาอย่างยาวนาน ผมไม่คิดว่าจะมีสโมสรไหนที่ดีกว่าเขานอกจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ดังนั้นมันจึงเป็นความเคารพอย่างสูง ผมคิดว่าเขาเป็นคนดอร์ทมุนด์ขนานแท้ ดังนั้นผมคิดว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่พิเศษมาก
ถ้าคุณมีโอกาสพูดอะไรก่อนนัดชิงชนะเลิศ คุณจะบอกว่าอะไรทั้งกับทีมและ มาร์โก รอยส์
พอล แลมเบิร์ต: ชนะ แค่ชนะ เพราะว่าพวกเขาจะต้องทำในสิ่งที่พวกเขาต้องทำ และการที่สโมสรฟุตบอลคว้าแชมป์ในแชมเปียนส์ลีกได้เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อสำหรับสโมสรอยู่แล้ว ผมคิดว่าย้อนกลับไปในปี 1997 ผมไม่เคยเห็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมแบบนั้นมาก่อน สิ่งที่แฟนๆ ทำมันบ้ามาก เป็นช่วงเวลาที่บ้าบอ หลังจากนั้น 27 ปีต่อมาผู้คนก็ยังพูดถึงมัน แฟนบอลในปัจจุบันก็เหมือนกัน ไม่มีใครลืมช่วงเวลานั้นลง
ผมคิดว่าพวกเขาอยากชนะในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลยุโรป คุณอาจจะมองว่ามันยาก แต่นั่นทำให้ผมบอกกับคุณว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชัยชนะ ไม่ว่าคุณจะเล่นดีแค่ไหน คุณก็มีโอกาสแพ้และไม่มีใครจำเราได้ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาเป็น นั่นอาจเป็นสิ่งที่พวกเขาได้เปรียบเมื่อมาเล่นกับทีมอย่างเรอัล มาดริด คุณมีโอกาสเดียวและเกมเดียวในสนาม โอกาส 50/50 ดอร์ทมุนด์จึงมีโอกาสที่ดีมาก นั่นเลยเป็นสิ่งที่ทำให้ผมบอกว่าแค่ชนะก็พอ เพราะพวกเขาอาจจะมีฟอร์มการเล่นที่แสนวิเศษ นักเตะอายุน้อยก็ดีด้วย นี่ก็จะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขา
ในฐานะนักเตะและเป็นโค้ชมาก่อน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะเอาชนะเรอัล มาดริด ได้อย่างไร
พอล แลมเบิร์ต: ผมคิดว่าคุณต้องโฟกัสอยู่กับตัวเอง จิตใจของคุณต้องแข็งแกร่งมากๆ ผมคิดว่านั้นคือกุญแจ จัดการกับโอกาสให้ได้ หากคุณจัดการกับโอกาสได้ คุณก็จัดการกับเกมได้ นั่นสำคัญมาก ในเกมอาจจะไม่มีโอกาสมาก ผมเลยคิดว่ามันสำคัญสำหรับเรา เพราะการ Built-up เกม, วันก่อนเกม หรือในเกม มันต่างกัน ในเกมคุณต้องจัดการมัน และถ้าคุณทำได้คุณก็มีโอกาสที่ดี เพราะผมคิดว่าถ้าเราเตรียมตัวมาถูกมันก็มีโอกาส เพราะในเกมนี้มาดริดมีเกมโต้กลับที่ดี มีนักเตะที่รวดเร็ว แต่ดอร์ทมุนด์ก็ไม่ธรรมดา พวกเขาถูกมองข้ามในเกมกับเปแอสเชหรือแอตเลติโก มาดริด มาแล้ว
ดอร์ทมุนด์เลยมีโอกาส แล้วผมคิดว่าคุณต้องรับมือกับเกมโต้กลับของมาดริดให้ดี เน้นการเล่นตามแผนไม่ให้พลาด ต้องรับมือกับ วินิซิอุส จูเนียร์ นักเตะระดับโลกให้ได้ ต้องรับมืออย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะ จูด เบลลิงแฮม ทุกคนในดอร์ทมุนด์รู้จักเขาดี เขาเล่นดีมากๆ ผมคิดว่าการเล่นเกมโต้กลับสำคัญมากสำหรับเกมนี้
ผมเห็นวิดีโอในโซเชียลมีเดียเช้านี้ของ Daily Mail ที่สัมภาษณ์แฟนๆ ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เกี่ยวกับความยากของพวกเขาในการบอกลา เจอร์เกน คล็อปป์ ว่าตอนนั้นดอร์ทมุนด์ทำใจกับความรู้สึกเศร้าอย่างไร มันพิเศษขนาดไหนกับตอนที่เขาเป็นโค้ชโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
พอล แลมเบิร์ต: โอ้ ผมไม่รู้ว่าคุณเห็นเหตุการณ์การร่ำลาของเขาในวันเสาร์ที่ลิเวอร์พูลไหม ผมคิดว่าเจอร์เกนทำในสิ่งที่เหลือเชื่อไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน เขาเป็นโค้ชที่วิเศษ เป็นผู้จัดการทีมที่วิเศษ เป็นคนดี การต้องบอกลากับ เจอร์เกน คล็อปป์ และใครที่ต้องมารับงานต่อจากเขาจะเป็นงานที่ยาก
ตอนที่เขาอยู่ดอร์ทมุนด์เขาแกร่งมากๆ ถ้าคุณเป็นผู้จัดการทีม มันยากที่จะทำได้เหมือนเขา นั่นคือสิ่งที่แฟนๆ ดอร์ทมุนด์มองเขา ทุกคนรักเขา สโมสรรักเขา ดังนั้นถ้าคุณอยากจะทำงานหลังจากเขามันจะเป็นงานที่ยากมากๆ เพราะเขาเป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่มากๆ
คุณคิดว่าทำไมทุกสโมสรที่เขาไปร่วมงานถึงตกหลุมรักเขา
พอล แลมเบิร์ต: ผมคิดว่าเป็นเพราะนิสัยส่วนตัว ผมคิดว่าเขาเล่นฟุตบอลกันจริงๆ เจอร์เกน คล็อปป์ แสดงออกถึงความบันเทิง เป็นร็อกแอนด์โรลฟุตบอล เฮฟวีเมทัลฟุตบอล ผมคิดว่านั่นมันเชื่อมโยงกับคนส่วนมากที่ลิเวอร์พูล อย่างที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ ลองมองไปที่ลิเวอร์พูล ดอร์ทมุนด์ และกลาสโกว์ เป็น 3 พื้นที่ที่มีผู้คนที่ทำงานอย่างหนักตลอดเวลา และเมื่อคุณพร้อมลงมือทำงานหนัก ทุกคนก็พร้อมที่จะทุ่มเทไปกับคุณ สิ่งที่เกิดขึ้นที่ลิเวอร์พูลจึงเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมากๆ
