×

สภาพัฒน์แจง อันดับแข่งขันไทยลดลงเนื่องจากรัฐใช้งบขาดดุล ส่วนโครงสร้างพื้นฐานปรับอันดับดีขึ้น

24.05.2018
  • LOADING...

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย หรือ TMA ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ แถลงผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศจาก World Competitiveness Center โดย International Institute for Management Development หรือ IMD ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประจำปี 2561 ซึ่งสำรวจและจัดอันดับความสามารถในการแข่งขัน 63 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเขตเศรษฐกิจสูงสุด 5 อันดับแรกยังเป็นกลุ่มประเทศเดิม อันดับที่ 1 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา รองลงมาคือฮ่องกง, สิงคโปร์, เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาเขตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอาเซียน สามารถเรียงลำดับได้ดังนี้

 

  1. สิงคโปร์ (อันดับที่ 3)
  2. มาเลเซีย (อันดับที่ 22)
  3. ไทย (อันดับที่ 30)
  4. อินโดนีเซีย (อันดับที่ 43)
  5. ฟิลิปปินส์ (อันดับที่ 50) 

 

สำหรับประเทศไทย เดิมปี 2560 อยู่อันดับที่ 27 แต่ปีนี้กลับตกลงมา 3 อันดับ อยู่อันดับที่ 30 โดยผลการจัดอันดับนี้แบ่งเกณฑ์เป็น 4 ด้าน ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจ, ประสิทธิภาพของภาครัฐ, ประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งประเทศไทยมีผลการจัดอันดับดีขึ้น 1 ด้าน ได้แก่ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (อันดับที่ 48) มีผลการจัดอันดับเท่าเดิม 2 ด้าน ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจ (อันดับที่ 10) และประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ (อันดับที่25) ขณะที่ด้านประสิทธิภาพของภาครัฐกลับมีอันดับที่ลดลง (อันดับที่ 22)


ปัทมา เธียรวิศิษฎ์สกุล รองเลขาธิการสภาพัฒน์ ให้เหตุผลว่าสาเหตุที่ด้านประสิทธิภาพของภาครัฐมีอันดับลดลงจากอันดับที่ 22 มาเป็นอันดับที่ 24 ในปีนี้เป็นผลมาจากการใช้จ่ายขาดดุลเพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรัฐบาลก็เฝ้าระวังและรักษาวินัยทางการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว

 

สำหรับอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยย้อนหลัง 5 ปี พบว่าอยู่ในช่วงอันดับที่ 27-30 โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

  • ปี 2556 อันดับที่ 27
  • ปี 2557 อันดับที่ 29
  • ปี 2558 อันดับที่ 30
  • ปี 2559 อันดับที่ 28
  • ปี 2560 อันดับที่ 27
  • และปี 2561 อันดับที่ 30   

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising