แพม-สิตามนินท์ สุสมาวัตนะกุล สาวสวยและผู้บริหารจาก OH! RiCH บอกกับเราด้วยรอยยิ้มและแววตาอันเป็นประกายว่า ย่านชิดลมกับหลังสวนเป็นย่านที่เธอคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กจนโต
“แพมเติบโตในย่านหลังสวน แล้วใช้ชีวิตอยู่แถวๆ นี้มาตลอด จะมีช่วงที่เราอยู่ไกลออกไปหน่อย ก็รู้สึกว่าคิดถึงความร่มรื่น คิดถึงบรรยากาศของการอยู่ใจกลางเมืองที่มีต้นไม้ มีความร่มรื่นอยู่ รู้สึกว่าที่นี่เป็นที่ที่เรา Happy การอาศัยอยู่แถวนี้เราก็สามารถใช้ชีวิตอะไรที่เราจำเป็นได้ทุกวัน และเราสามารถมีความสุขแล้วก็ Enjoy Life ทุกวันได้”
แพมบอกว่า ย่านชิดลม-หลังสวนเป็นย่านที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กๆ ย่านนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ของร้านอาหาร คาเฟ่ และแหล่งกิน ดื่ม แฮงเอาต์ ที่ช่วยเติมเต็มความสุขและสร้างความรื่นรมย์ให้กับชีวิตของเธอได้ภายใน 4 ชั่วโมง ไปดูกันเลยว่าจะมีร้านไหนน่าสนใจบ้าง
Dolcetto Italian Café Bangkok
ร้าน Dolcetto Italian Café Bangkok เป็นร้านกาแฟเปิดใหม่ที่เพิ่งมาเปิดใกล้บ้าน ดีใจมากที่มีคาเฟ่ใหม่ๆ ให้เราได้มาลอง เมนูที่แพมชอบสั่งคือ Macchiato ที่เป็น Espresso แล้วก็มีฟองนมนิดหนึ่ง ปกติจะไม่ได้กินนมเยอะ เลยเลือกเป็นกาแฟนม แต่ว่าเป็นนมที่เรากินได้ ถ้ามาที่นี่บางทีแพมก็จะเลือกเมนูที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าวันไหนไม่ได้กินข้าวเช้าแพมจะเลือกเป็น Americano และที่นี่ก็มีขนมเยอะด้วยค่ะ ทั้งครัวซองต์และทาร์ตต่างๆ
เปิด: ทุกวัน
เวลา: 08.30-18.00 น.
ราคา: 140-1,000 บาท
แผนที่:
Craft
แพมเคยไปอยู่ที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok ในช่วงหนึ่งตอนที่รีโนเวตคอนโด ตอนไปอยู่ที่นั่นก็จะ Explore หลายๆ ร้านแถวนั้น ที่ชอบคือบริเวณข้างล่างโรงแรมจะมีคาเฟ่ Craft ที่เปิดพร้อมโรงแรมเลย ตอนนั้นก็ได้ไปลองบ่อยๆ จะมีทั้งกาแฟและอาหาร เมนูกาแฟที่ชอบคือ Piccolo ลาเต้ แล้วก็มี Breakfast Avocado Toast ที่อร่อย เวลาที่ไปนั่งดื่มกาแฟยิ่งในช่วงเช้าๆ บรรยากาศดีมากค่ะ มีพื้นที่สีเขียว มีแสงแดดตอนเช้า และที่นั่นก็เป็นโรงแรม Pet Friendly ด้วย ในช่วง Weekend ก็จะเห็นคนพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นกันเยอะเลย
Craft: Kimpton Maa-Lai Bangkok
เปิด: ทุกวัน
เวลา: 07.00-23.30 น.
ราคา: 110-500 บาท
แผนที่:
Peace Oriental Teahouse
Peace Oriental Teahouse เป็นอีกร้านที่ชอบไปกิน แพมเป็นคนชอบเครื่องดื่มที่หลากหลาย แล้วที่นี่คือเป็นเมนูชาเขียวที่เป็นร้านแรกๆ ที่ทำชาเขียวแบบญี่ปุ่นแท้ๆ รสชาติเข้มข้น เราสามารถเลือกได้ว่าอยากได้ชาเขียวรสจัดๆ หรือเลือกแบบผสมนมหรือผสมน้ำตาล อีกอันหนึ่งที่ชอบคือไม่ใช่ชาเขียว แต่เป็นยูซุคราวด์ ลักษณะจะเป็นยูซุใสๆ แล้วก็จะมีชีสอยู่ด้านบน เมนูขนมจะมียูซุอีกเหมือนกัน เป็นยูซุโฟโยะ ก็จะเป็นแบบผสมโยเกิร์ต กินแล้วรู้สึก Fresh สดชื่นดี รสชาติจะไม่ได้หวานมาก ก็จะมีความเปรี้ยวของยูซุผสานกับความหอมของยูซุ
Peace Oriental Teahouse (โครงการ Velaa Sindhorn Village Langsuan)
เปิด: ทุกวัน
เวลา: 09.30-18.00 น.
ราคา: 145 บาท
แผนที่:
BBQ Smokin’ Pug
ร้าน BBQ Smokin’ Pug อยู่ที่หลังสวน แม้ว่าแพมจะอยู่แถวหลังสวนมานานแล้วก็ยังไม่เคยเข้าไปลองกินสักที จนครั้งแรกที่ลองเป็นเพื่อนชาวต่างชาติชวนไป เพราะว่าเขาหาร้านอาหารที่เป็น BBQ ในแบบ American Style จริงๆ จนพบร้านนี้ รสชาติดีมากค่ะ อย่างเช่น ซี่โครงหมูก็จะมาเป็นซี่โครงทั้ง Rack เลย ตั้งแต่นั้นที่นี่ก็เป็นที่ที่ถ้าเกิดว่ามีเพื่อนๆ ชาวต่างชาติคนไหนคิดถึงอาหารบ้านเขา แพมก็จะพาเขามาที่นี่ บรรยากาศมันจะเป็นแบบ Easy Going ก็เหมาะจะมานั่งชิลกับเพื่อนฝูงหลังเลิกงาน เมนูที่ชอบสั่งที่นี่ก็จะมี Baby Black และขนม Pumpkin Pie ก็อร่อย
BBQ Smokin’ Pug
เปิด: ทุกวัน
เวลา: 17.00-22.00 น.
ราคา: เริ่มต้น 250 บาท
แผนที่:
Coda Bangkok
Coda Bangkok ชอบมาก เป็นร้านที่ไปบ่อยมาก คือทุกๆ ครั้งที่เปลี่ยนเมนู แพมก็จะไปลองทุกๆ ซีซัน คือถ้าเห็นพรีเซนเทชันจะนึกว่าเหมือนเป็นยูโรเปียน เป็นอาหารฝรั่ง แต่ว่าพอเราได้กินมันก็มีรสชาติบางอย่างที่มีความเป็นไทย มันก็จะมีอันหนึ่งที่เป็นส้มตำไก่ย่าง แต่มันไม่ใช่ส้มตำไก่ย่างแบบที่เราเห็น ด้วยวิธีการเทคนิคที่เขาทำแล้วเขาพรีเซนต์คือซอสส้มตำทำเป็นซอร์เบ มันก็จะมีความเย็นแล้วก็สดชื่น ตัวข้าวเหนียวไก่ย่างมันก็จะมาใน 1 คำ ซึ่งได้ทั้งข้าวเหนียวและไก่ย่าง มันก็มีความกลมกล่อมที่ลงตัว
Coda Bangkok
เปิด: ทุกวัน (ปิดวันอังคาร)
เวลา: 18.00-22.00 น.
ราคา: เริ่มต้น 3,450 บาท
แผนที่:
Shabu Baru
Shabu Baru ร้านนี้ไปบ่อยค่ะ คือจะไปกินทุกอาทิตย์ เพราะชอบกินซุปร้อนๆ แล้วก็เมนูชาบูเป็นชาบูที่ใช้เนื้อพรีเมียมอย่างดี น้ำซุปคอมบุหอมอร่อย เซ็ตที่แพมสั่งประจำคือเซตเนื้อ Yamagata Ribeye / Striploin เป็นเนื้อวากิวจากจังหวะยามากาตะ เนื้อชาบูที่ชอบแพมจะไม่ชอบแบบมันมาก คือมีติดมันนิดๆ เวลาที่ต้มลงไปก็รู้สึกว่านุ่มพอดี ไม่มันเกินไป ที่ชอบที่สุดคือน้ำจิ้ม น้ำจิ้มงาของเขามันเข้มข้น แล้วก็น้ำจิ้มพอนสึก็เป็นสูตรพิเศษที่มียูซุด้วย ถ้าเราไปกินคนเดียวก็จะมีหม้อส่วนตัว แต่ปกติไม่ค่อยกินคนเดียวค่ะ ส่วนมากก็จะไปสองคน จะได้นั่งคุยกันได้
Shabu Baru (โครงการ Velaa Sindhorn Village Langsuan)
เปิด: ทุกวัน
เวลา: 11.00-21.00 น.
ราคา: 1,300 บาท
แผนที่:
Ma Maison
Ma Maison ก็คือเป็นร้านที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด ร้านนี้เป็นร้านอาหารไทย ที่พอไปกินแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเรากินอาหารที่บ้าน เป็น Home Cook ในวันที่เราไม่ได้ทำเอง แต่ว่าเราอยากจะกินอาหารง่ายๆ ก็จะนึกถึงที่นี่ ชอบบรรยากาศที่นี่ เหมือนเป็น Glass House มันก็จะมีแสงสว่างธรรมชาติ แล้วก็ต้นไม้เยอะ มีสวน เหมือนเรามากินข้าวแล้วก็ได้นั่งพักผ่อนไปด้วย เมนูที่กินก็จะมีห่อหมก ข้าวห่อหมกปลา ที่เป็นเมนูพิเศษของที่นี่เลย ผัดวุ้นเส้นโบราณ และมีโรตีแกงเนื้อ แล้วก็กะเพราเนื้อ ที่นี่ผัดกะเพราอร่อย เขาสามารถทำให้ได้ทั้งกะเพราเนื้อสับและเนื้อชิ้น แล้วแต่ว่าชอบกินแบบไหน เสิร์ฟมาพร้อมกับใบกะเพรากรอบด้วย
เปิด: ทุกวัน
เวลา: รอบที่ 1 (11.30-14.30 น.) / รอบที่ 2 (18.00-22.00 น.)
ราคา: เริ่มต้น 500 บาท
แผนที่:
Crimson Room
Crimson Room ตอนแรกที่ไปเพื่อนเป็นคนแนะนำ เราก็แวะเวียนอยู่ตรงหลังสวนมานาน แต่ตอนแรกที่ไปที่นี่มันมองไม่เห็นว่าทางเข้าอยู่ตรงไหน มันแอบซ่อนไว้นิดหนึ่ง แต่พอเปิดเข้าไปก็จะเป็นแบบมีโซฟาสีแดง ด้านหน้าจะเป็นเวที แพมชอบไปฟังแจ๊สที่นี่ เขาจะมีแจ๊สบาร์ มีนักดนตรี มีนักร้องมาร้องสด ปกติถ้าไปที่นี่จะสั่ง Tom Collins ที่ดื่มได้นิดหน่อย ไม่เยอะ โดยปกติแพมไม่ได้ดื่มเยอะ แต่ละวันมันก็ขึ้นอยู่ที่อารมณ์ว่าเราอยากจะดื่มอะไร ถ้าเกิดว่าง่ายๆ รู้สึกว่าเบาๆ ก็จะเป็นแบบพวก Gin แล้วก็ถ้ารู้สึกว่าอยากดื่มอะไรที่หนักขึ้นมาหน่อยก็จะเป็น Single Malt
Crimson Room
เปิด: ทุกวัน
เวลา: 18.00-02.00 น.
ราคา: เริ่มต้น 500 บาท
แผนที่:
Destinare Spa
Destinare Spa ชอบไปผ่อนคลายค่ะ ที่นี่บรรยากาศดี มีต้นไม้ร่มรื่น แล้วที่ชอบคือวิธีการนวดของเขาจะเป็นศาสตร์การนวดแบบญี่ปุ่น ซึ่งจะนวดเพื่อกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองหรือนวดเพื่อขับของเสียในผิวเรา แล้วมีการใช้สมุนไพรและออยล์ที่เป็นสูตรของเขาเอง (ซาโตะออยล์) ที่ช่วยผ่อนคลายและบำรุงผิวไปในตัว แพมชอบไปนวดหน้าที่นี่ พอนวดเสร็จแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าของเราสดใสขึ้นเลย
เปิด: ทุกวัน
เวลา: 09.30-18.00 น.
ราคา: 2,950 บาท
แผนที่: