×

การเมืองไทย(อาจ)ไม่เหมือนเดิม 3 เกมเสี่ยงก้าวไกล หลังคดีล้มล้างการปกครอง

โดย THE STANDARD TEAM
05.02.2024
  • LOADING...

นับตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค และพรรคก้าวไกล หาเสียงด้วยนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง พร้อมสั่งยุติการกระทำ ส่งผลต่อบริบทการเมืองของพรรคก้าวไกล และภาพรวมเปลี่ยนไปโดยฉับพลัน

 

ความตึงเครียดเข้าปกคลุม ฝ่ายสนับสนุนก้าวไกลบางฝ่ายออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วย พรรคก้าวไกลก็มีท่าทีต่อมาตรา 112 ที่เปลี่ยนไป ตั้งแต่การแถลงของพิธา และ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล การลบนโยบายออกจากเพจ แม้กระทั่งคำให้สัมภาษณ์ของ ชัยธวัช ตุลาธน ที่ไม่ตอบโต้ใดๆ บอกเพียงแค่รอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับเต็มที่จะประกาศออกมาเท่านั้น 

 

เนื่องด้วยคำสั่งศาลที่ให้ผู้ถูกร้องเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมาย โดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีก ทั้งไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย แล้วคำสั่งนี้กระทบต่ออะไรบ้าง 

 

สส. ก้าวไกลรอฟังคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ
ภาพ: ฐานิส สุดโต

 

3 แดนเสี่ยงที่ก้าวไกลต้องเจอ

 

ผลกระทบแรกคือความพยายามทำให้มาตรา 112 คุ้มครองประมุขของรัฐให้สมดุลกับการคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น นอกจากจะเป็นนโยบายเรือธงของพรรคก้าวไกล ไม่เพียงเป็นจุดที่สกัดกั้นการเดินหน้าเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลของพิธาในช่วงที่ผ่านมา แต่มาตรา 112 กำลังกลายเป็นความเสี่ยงครั้งใหญ่ของพรรคนับตั้งแต่ก่อกำเนิด หลังยุบพรรคอนาคตใหม่

 

เสี่ยงยุบพรรค: การนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขตามมาตรา 92 (1) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 เรื่องการกระทำล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ที่ กกต. จะต้องรับเรื่องไปพิจารณายุบพรรคก้าวไกล

 

กรณีนี้นายทะเบียน (เลขา กกต.) จะต้องมอบหมายให้พนักงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและหลักฐานว่ามีข้อมูลเพียงพอจะรับไว้ดำเนินการหรือไม่ ภายใน 7 วัน หากรับเรื่องต้องแต่งตั้งบุคคลหรือคณะบุคคลอื่นขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พร้อมทั้งมีความเห็นเสนอต่อนายทะเบียนภายใน 30 วัน ก่อนส่งให้คณะกรรมการ กกต. วินิจฉัย เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนความถึงจะไปสู่ขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ 

 

เสี่ยงผิดจริยธรรมร้ายแรง: การนำคำวินิจฉัยดังกล่าวไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดจริยธรรมร้ายแรง พิธา และ สส. ก้าวไกล จำนวน 44 คน ที่ลงชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112 ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 219 วรรค 2 และมาตรา 235 ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ ที่มีผลบังคับใช้กับ สส., สว. และรัฐมนตรีด้วยนั้น

 

ป.ป.ช. จะส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลฎีกาวินิจฉัย หากเห็นว่าฝ่าฝืนจริยธรรม มีโทษสูงสุดคือให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ซึ่งคล้ายกรณีของ พรรณิการ์ วานิช อดีต สส. บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ 

 

 

เสี่ยงสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ไม่ทัน: หากพรรคก้าวไกลโดนยุบ 10 กรรมการบริหารพรรคขณะนั้นจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง และหากศาลฎีกาวินิจฉัยว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง สส. แกนนำหลักของพรรคที่ร่วมลงชื่อแก้ไขมาตรา 112 จะหายไป เช่น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ศิริกัญญา ตันสกุล, ณัฐวุฒิ บัวประทุม และ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร 

 

แม้ไม่อาจบอกได้ว่าศาลจะตัดสินให้ทั้ง 44 สส. ขณะนั้น (ปัจจุบันเป็น สส. 33 คน) มีความผิด หรือเลือกเป็นรายบุคคลที่เห็นการกระทำชัดเจน แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่ยังต้องลุ้น ว่าพรรคก้าวไกลจะตกแต่งบ้านหลังใหม่ไว้รอได้สมบูรณ์แค่ไหน แค่เริ่มก่อสร้าง หรือพร้อมเข้าอยู่ และที่สำคัญใครคือเจ้าบ้านคนถัดไป

 

รังสิมันต์ โรม, ศุภณัฐ มีนชัยนันท์, พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ และ ธีรัจชัย พันธุมาศ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. กรุงเทพฯ เขตจตุจักร ที่พรรคก้าวไกล 

 

 

พรรคก้าวไกลขยับตัวลำบาก 

 

ไม่เพียงการแสดงความคิดเห็นที่ถูกศาลสั่ง แต่ปมความขัดแย้งภายในย่อมเกิดขึ้น มีทั้งฝั่งที่สนับสนุนให้เดินหน้าแก้ไขมาตรา 112 กับฝั่งที่ไม่อยากให้เคลื่อนไหว เพื่อให้ไม่กระทบต่อฉากทัศน์ถัดไปที่นักร้องทั้งหลายต่างดาหน้ายื่นฟ้อง กกต. และ ป.ป.ช. ให้ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมือง การตัดสินใจไม่ว่าทิศทางใดของพรรคจึงเต็มไปด้วยความหนักใจ

 

การผลักดันมาตรา 112 

 

แม้ไม่มีคำสั่งห้ามแก้ไขมาตรา 112 อย่างชัดเจน แต่การที่ศาลระบุว่า การเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฉบับก้าวไกล “มีเจตนามุ่งหมายที่จะแยกสถาบันพระมหากษัตริย์กับความเป็นชาติไทยออกจากกัน ซึ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐอย่างมีนัยสำคัญ” 

 

เพราะมีการยกมาตรา 112 ออกจากความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักร เป็นพฤติการณ์ที่แสดงออกว่าต้องการลดทอนการคุ้มครองสถาบันฯ ลง โดยผ่านร่างกฎหมายและอาศัยกระบวนการทางนิติบัญญัติเพื่อสร้างความชอบธรรม โดยซ่อนเร้นด้วยวิธีการกระบวนการทางสภา 

 

ทำให้อนาคตการแก้ไขมาตรา 112 เป็นไปได้ยากจนถึงขั้นจบสิ้น

 

ประชาชนชูสามนิ้วร่วมกิจกรรมเดินหยุดขัง 1.12 กิโลเมตร เพื่อร่วมกิจกรรม ยืน หยุด ขัง 112 ชั่วโมงในวันสุดท้าย
ภาพ: ศวิตา พูลเสถียร

 

 

ร่างกฎหมายนิรโทษกรรม หยุดชะงักหรือไม่ 

 

ปัจจุบันมีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้งหมด 4 ร่าง ซึ่ง 3 ร่างเสนอโดยพรรคการเมืองคือ พรรคก้าวไกล พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งยื่นต่อประธานสภาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการบรรจุ โดยที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาเพื่อพิจารณา ศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้งในสภายังถกกันเดือด เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลไม่ต้องการให้มีการนิรโทษกรรมคดีที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 

 

วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ขอดูรายละเอียดคำวินิจฉัยทั้งหมดของศาล และให้ฝ่ายกฎหมายของประธานสภาเสนอความเห็นต่อประธานรับทราบ หลังถูกถามว่า สมาชิกจะสามารถพูดถึงมาตรา 112 ในสภาได้อีกหรือไม่ รวมถึงสถานะของร่างกฎหมายนิรโทษกรรมซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 จะเป็นเช่นไร

 

ขณะที่อีก 1 ร่างเสนอโดยประชาชน ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจะต้องนิรโทษกรรมให้กับผู้ที่ต้องคดีมาตรา 112 อยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อประชาชนตั้งแต่วันที่ 1-14 กุมภาพันธ์ ให้ครบ 10,000 รายชื่อ เพื่อยื่นร่างต่อประธานสภาในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมเชิญหัวหน้าพรรคทุกพรรคมารับหนังสือจากประชาชน

 

ภาคประชาชนรณรงค์เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชน
ภาพ: ณาฌารัฐ ภักดีอาสา

 

 

พรรคเพื่อไทยมีเอี่ยวมาตรา 112 หรือไม่

 

งานนี้กระทบไปถึงพรรคเพื่อไทย หลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่นาน โซเชียลมีเดียขุดคลิป เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในขณะนั้น ในการให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ก่อนการเลือกตั้ง เป็นการถาม-ตอบแสดงหลักการและจุดยืนทางการเมืองหลายประเด็น แต่ประเด็นการเห็นด้วยกับการแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ถูกตัดและถูกแชร์อยู่ในโซเชียลมากที่สุด พร้อมตั้งคำถามว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เคยหาเสียงแก้มาตรา 112 จะถูกสั่งหยุดการกระทำเช่นเดียวกันหรือไม่

 

ล่าสุดมีคำชี้แจงโดย สรวงศ์ เทียนทอง สส. สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า มาตรา 112 เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เราพูดกันมาโดยตลอด ต้องระมัดระวัง คนในพรรคมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่สิ่งที่เป็นจุดยืนของพรรคจริงๆ คือเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ หากเป็นสิ่งไม่สมควรก็จะไม่ยุ่ง และกรณีของเศรษฐาเป็นการตอบคำถามของสื่อ การแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้เป็นแคมเปญหลักของพรรค ไม่ได้เป็นนโยบายในการหาเสียง พรรคเพื่อไทยมุ่งเน้นไปที่เรื่องปากท้องของประชาชน จึงไม่หวั่นว่าจะมีคนไปร้องให้ยุบพรรค

 

 

 

โอกาสรอดของก้าวไกล 

 

รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้สัมภาษณ์โดยช่วงหนึ่งระบุว่า พรรคก้าวไกลอาจมีข้อโต้แย้งว่าการกระทำเพิ่งถูกพิสูจน์เมื่อวันที่ 31 มกราคม หากก้าวไกลยืนยันจะไม่แก้ไขมาตรา 112 ในลักษณะเดิมอีก ศาลก็อาจไม่สั่งยุบพรรคก็ได้ เพราะคำวินิจฉัยคือ การสั่ง ‘เลิกการกระทำ’ ยังไม่มีความผิด หากฝ่ายผู้มีอำนาจประเมินแล้วว่า การยุบพรรคไม่มีประโยชน์ และยิ่งทำให้พรรคก้าวไกลขยายฐานความนิยมได้มากกว่าเดิม

 

แต่ดูแล้วโอกาสหลุดพ้นจากบ่วงกรรมของพรรคก้าวไกลจะยากขึ้นทุกที สถานการณ์ตั้งรับขณะนี้ทำได้เพียงสู้คดี และเตรียมคนรุ่นใหม่ไว้รอ 

 

รุ่นที่ 1 อนาคตใหม่บางคนยังคงมีคดี 

รุ่นที่ 2 ก้าวไกล 151 สส. มี 33 คนที่มีรายชื่อในการเสนอแก้ไขมาตรา 112 รวมถึงบางคนเป็นกรรมการบริหารพรรคที่อาจถูกตัดสิทธิลงสมัครทางการเมืองตลอดชีวิต 

 

นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า หากเกิดเหตุการณ์ยุบพรรคก้าวไกล จะยุบแล้วยิ่งโตกว่าเดิม เพราะหากลองดูเงินสนับสนุนพรรคก้าวไกลจากภาษีในปีที่ผ่านมาได้ไปถึง 53 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความนิยมที่ไม่เสื่อมคลาย กรณีการยุบพรรคจากอนาคตใหม่มาเป็นก้าวไกลก็ได้เสียงถล่มทลายมาเป็นอันดับ 1 

 

แต่สิ่งเหล่านี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัย ว่ารุ่นที่ 3 ใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำ พรรคปูทางรุ่นต่อไปไว้อย่างไร พรรคการเมืองแบบก้าวไกล ไม่มีนายทุน ไม่มีบ้านใหญ่ ไม่ต้องเคาะประตูแจกเงิน แต่ลงไปทำการบ้าน และยึดมั่นอุดมการณ์ หลังจากนี้จะยังมีมาตรา 112 เข้ามาอีกหรือไม่ คงต้องติดตามต่อไป 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X