×

เพราะอะไร BE@RBRICK และของสะสมหรูหราจึงเป็นเครื่องมือชั้นดีของการฟอกเงิน?

30.09.2023
  • LOADING...
be@rbrick

ถ้าพูดถึงข่าวใหญ่ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาคงหนีไม่พ้นการบุกค้นบ้านนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และนายตำรวจคนสนิทในข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ สิ่งที่สะดุดตานั่นคือของกลางที่ประกอบไปด้วยของสะสมหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นทรังก์ของ Louis Vuitton ตุ๊กตาของ Alex Face และ BE@RBRICK ส่วนในช่วงปลายเดือนสิงหาคมทางการสิงคโปร์ก็บุกยึดทรัพย์กลุ่มจีนเทาที่เข้าไปฟอกเงินจนได้ของกลางทั้งรถหรู นาฬิกา และคอลเล็กชัน BE@RBRICK กว่า 60 ตัว มูลค่ารวมมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ 

 

แล้วเพราะอะไรของสะสมเหล่านี้โดยเฉพาะ BE@RBRICK จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ธุรกิจผิดกฎหมายนิยมนำมาใช้ในการฟอกเงิน? 

 

BE@RBRICK ผลิตโดยบริษัท MediCom Toy เปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 เพื่อเป็นของขวัญแก่ผู้เยี่ยมชมงาน World Character Convention ที่โตเกียว ซึ่ง BE@RBRICK มีหลายขนาด เช่น 100%, 400% หรือ 1,000% เชื่อมโยงถึงความสูงของ BE@RBRICK แต่ละตัว 

 

ส่วนสิ่งที่ทำให้ BE@RBRICK มีมูลค่าเพิ่มขึ้นคือการทำงานร่วมกับแบรนด์ ศิลปิน และไอคอนวัฒนธรรมป๊อปที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น Chanel และ Supreme ศิลปินอย่าง KAWS และ Andy Warhol แฟรนไชส์ยอดนิยม เช่น Star Wars และ Marvel รวมทั้งตัวละครคลาสสิกอย่าง Hello Kitty, Sesame Street, เต่านินจา และโดราเอมอน เมื่อผนวกเข้ากับการจำหน่ายแบบ ‘กล่องซุ่ม’ ยิ่งทำให้ BE@RBRICK บางตัวนั้นหายาก 

 

รวมไปถึง MediCom Toy มักจะเปิดเผยการเปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ๆ เพียง 2-3 สัปดาห์ก่อนการเปิดตัวจริง โดยไม่เปิดเผยจำนวนการผลิต ทำให้ BE@RBRICK มีความเป็นลิมิเต็ดเอดิชันด้วยตัวของมันเอง จนทำให้ BE@RBRICK ในตลาดรีเซลมีราคาสูงลิ่ว 

 

ราคา BE@RBRICK ขึ้นอยู่กับความหายาก ขนาด 400% สามารถมีราคาสูงถึงหลักหมื่น หรืออาจถึงหลักแสนบาท ส่วน 1,000% อาจมีมูลค่าหลักแสนหรือหลักล้านบาท จึงกลายเป็นของสะสมที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน ซึ่งมีคนดังหลายคนที่นิยมสะสม BE@RBRICK เช่น Pharrell Williams, Seth Rogen, RM แห่ง BTS และ บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ 

 

ตัวอย่าง BE@RBRICK มูลค่ามหาศาลที่มักถูกนำมาพูดถึงบ่อยๆ ก็เช่น BE@RBRICK Coco Chanel 1,000% ที่ออกแบบในปี 2006 โดย Karl Lagerfeld ถูกประมูลที่ Sotheby’s ในปี 2020 ด้วยราคาประมาณ 60,000 ดอลลาร์ หรือราวๆ 2.2 ล้านบาท ส่วน BE@RBRICK ที่แพงที่สุดในโลกเป็นผลงานของ Yue Minjun ศิลปินร่วมสมัยชาวจีนออกแบบในปี 2008 มีราคาสูงถึงราวๆ 9.15 ล้านบาท เพราะเชื่อกันว่ามีเพียงตัวเดียวในโลกเท่านั้น 

 

สำหรับการเข้ายึดของกลางในสิงคโปร์ BE@RBRICK 60 ตัวมีราคารวมอยู่ที่ราวๆ 500,000-570,000 ดอลลาร์ หรือราวๆ 18.3-20.8 ล้านบาท ในจำนวนนั้นมีคอลเล็กชันที่โดดเด่นคือซีรีส์ BE@RBRICK Pinel et Pinel x Cyril Kongo สร้างสรรค์โดยศิลปินสตรีทอาร์ต Cyril Kongo และ Forward Fashion ในมาเก๊า โดยแต่ละชิ้นทำด้วยมือ ตัดเย็บจากหนังและผ้าใบเคลือบ 56 ชิ้น มีรูปแบบที่ต่างกัน 8 แบบ และทำออกมาเพียง 26 ชุดเท่านั้น โดยในการจับกุมครั้งนั้นมี BE@RBRICK ครบทั้ง 8 แบบ 1 ชุด ซึ่งเชื่อกันว่ามีราคาสูงถึง 343,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 12.5 ล้านบาทเลยทีเดียว 

 

ส่วนในไทย BE@RBRICK ขนาด 1,000% ตัวเด่นๆ ที่ยึดเป็นของกลางก็อย่างเช่น BE@RBRICK Tom & Jerry คู่ละประมาณ 100,000 บาท, BE@RBRICK Spider-Man ราคาประมาณ 99,800 บาท, BE@RBRICK Batman ราคาประมาณ 180,000 บาท, BE@RBRICK Joker ราคาประมาณ 100,000 บาท และ BE@RBRICK Van Gogh ราคาประมาณ 65,000 บาท ฯลฯ 

 

Jamie Ferrill หัวหน้าฝ่ายศึกษาอาชญากรรมทางการเงินของมหาวิทยาลัยชาร์ลส์ สเติร์ท ในออสเตรเลีย ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า หากเงินจำนวนมากถูกนำไปทำธุรกรรมแบบปกติก็อาจถูกตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ง่ายๆ แต่ถ้านำไปลงทุนในของสะสมก็ยากที่จะหาแหล่งที่มาของเงิน 

 

“หาก BE@RBRICK มีมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ ก็สามารถใช้เงินผิดกฎหมายซื้อได้ให้เหมือนกับนักสะสมที่ซื้อของพวกนี้ทุกวัน” เธอกล่าว และยังเสริมอีกว่าผู้ที่ฟอกเงินสามารถทำกำไรได้ถ้าหากสามารถสร้างคอลเล็กชันที่ดี 

 

“บริษัทการประมูลและผู้ค้าสินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ ไม่จำเป็นต้องรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยและเส้นทางการเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ของสะสมมักตกเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน” อีกอย่างเรื่องการขนย้ายทำได้ง่ายกว่าการซื้อบ้านหรือรถยนต์ ทำให้นักฟอกเงินยิ่งได้ประโยชน์จากการซื้อขายของสะสมเหล่านี้ 

 

ในขณะที่ Anton Moiseienko อาจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ที่ศึกษาเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ และอาชญากรรมทางไซเบอร์ ได้ให้ความเห็นว่า การฟอกเงินผ่านสินค้าหรูหราช่วยเลี่ยงการตรวจสอบ ซึ่งจะเห็นได้บ่อยๆ ที่ผู้ทำธุรกิจผิดกฎหมายมักจะนำเงินไปซื้อทองคำ อัญมณี เครื่องประดับเพื่อการขนย้ายได้สะดวก โดยเฉพาะ BE@RBRICK และกระเป๋าแบรนด์เนมยิ่งมีคุณลักษณะพิเศษเพราะมักไม่เป็นที่สังเกตของเจ้าหน้าที่ 

 

“ของสะสมเป็นสินค้าราคาแพงและมีสภาพคล่องสูง ซึ่งซื้อขายกันในตลาดที่ไม่ได้รับการควบคุมอีกด้วย”

 

อ้างอิง:  

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X