หน่วยลาดตระเวนชายฝั่งฟิลิปปินส์ได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ให้รื้อถอนทุ่นลอยน้ำที่ติดตั้งโดยหน่วยลาดตระเวนชายฝั่งของจีนในพื้นที่ทะเลจีนใต้แล้ว หลังกีดกันไม่ให้เรือประมงของฟิลิปปินส์เข้าหาปลาในเขตพื้นที่ดังกล่าว
ทางการฟิลิปปินส์ระบุว่า การกระทำดังกล่าวของจีนละเมิดสิทธิในการทำประมงของฟิลิปปินส์ด้วยการติดตั้งทุ่นลอยน้ำที่มีความยาวราว 300 เมตร ในพื้นที่แถบสันดอนสการ์โบโรห์ (Scarborough Shoal) ในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า พื้นที่บริเวณสันดอนดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญของดินแดนฟิลิปปินส์
พลเรือจัตวา เจย์ ทาร์เรียลา สังกัดหน่วยลาดตระเวนชายฝั่งฟิลิปปินส์ เผยว่า กองเรือของจีนได้ติดตั้งทุ่นลอยน้ำดังกล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าเรือประมงฟิลิปปินส์ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายของจีน ก่อนที่จะแล่นเรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว หลังทราบว่ามีเจ้าหน้าที่สื่ออยู่บนเรือของฟิลิปปินส์
ด้านทางการจีนชี้ว่า มาตรการดังกล่าวของหน่วยลาดตระเวนชายฝั่งของจีนถือเป็น ‘มาตรการที่จำเป็น’ ในการปกป้องเขตอำนาจอธิปไตยของจีน
ขณะที่ทางการญี่ปุ่นระบุว่า ประเทศของเราต่อต้านการกระทำใดๆ ก็ตามที่เพิ่มความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ พร้อมกับเรียกร้องให้พื้นที่แถบนี้เป็นศูนย์กลางเสถียรภาพของภูมิภาค
โดยทางการจีนประกาศยึดและอ้างกรรมสิทธิ์เหนือสันดอนสการ์โบโรห์ในปี 2012 และบังคับให้เรือประมงของฟิลิปปินส์ออกไปหาปลาในเขตพื้นที่ที่ไกลขึ้นและมีปลาชุกชุมน้อย ก่อนที่จะอนุญาตให้เรือประมงฟิลิปปินส์ขยับเข้ามาหาปลาใกล้ๆ กับสันดอนดังกล่าวได้ เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและฟิลิปปินส์มีแนวโน้มดีขึ้นในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต
แต่อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศมีทีท่าว่าจะตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง นับตั้งแต่มาร์กอส จูเนียร์ ชนะการเลือกตั้งและนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีคนใหม่ของฟิลิปปินส์ ซึ่งมีการเดินหน้าสานสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา และเปิดทางให้กองทัพอเมริกันสามารถเข้าถึงฐานทัพของฟิลิปปินส์ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับจีนเป็นอย่างมาก
ภาพ: Philippine Coast Guard (PCG) / AFP
อ้างอิง: