วานนี้ (18 กันยายน) ในการเดินทางเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติครั้งที่ 78 (UNGA78) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินพิเศษ TG8832 ซึ่งออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเติมน้ำมันก่อนเดินทางต่อไปยังสนามบินจอห์น เอฟ. เคนเนดี นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รวมเวลาเดินทางประมาณ 20 ชั่วโมง
โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เดินทางมาถึงสนามบินจอห์น เอฟ. เคนเนดี (นิวยอร์ก) สหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 19 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเดินทางครั้งนี้นายกรัฐมนตรีนั่งในชั้น Business Class ร่วมกับคณะที่มี ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมข้าราชการระดับสูง ไม่ได้นั่งในชั้น First Class อย่างที่ถูกกล่าวหา เนื่องจากเครื่องบินเช่าเหมาลำไม่ได้มีชั้น First Class มีแต่ชั้น Business Class ที่ต้องนั่งรวมกัน
“นั่งรวมกับทุกคนครับในชั้น Business Class ไม่จำเป็นต้องนั่งแยกกัน เอาที่ต้นทุนมีประสิทธิภาพที่สุด อะไรที่ช่วยกันได้ก็ช่วยกันครับ ก็สบายๆ ครับ” เศรษฐากล่าว
เศรษฐากล่าวย้ำว่า การตัดสินใจเช่าเหมาลำของการบินไทยราคาถูกกว่าส่วนราชการ ยืนยันว่ามีการเปรียบเทียบราคาโปร่งใส และการมาเครื่องของการบินไทยนายกรัฐมนตรีก็ต้องนั่งแค่ชั้น Business Class เหมือนข้าราชการระดับสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเดินทางนายกรัฐมนตรีนั่งเก้าอี้คู่ ไม่ได้นั่งเก้าอี้เดี่ยว โดยนั่งข้าง พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา และพบว่าต้องเหยียดขาจนสุด เพราะขายาวและเป็นคนสูง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า “สบายๆ ครับ ไม่อยากให้คิดว่าเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วต้องเลือกสิ่งที่สบายที่สุดให้ตัวเอง แต่อยากให้คิดว่าใช้งบประมาณอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด”
ทั้งนี้ หากเป็นที่นั่ง First Class จะมีนั่งเดี่ยว เก้าอี้สามารถปรับนอนได้ มีโต๊ะกินอาหารและโต๊ะทำงานได้ รวมถึงห้องน้ำแยกมาส่วนตัว แต่เมื่อนั่งในชั้น Business Class นายกรัฐมนตรีนั่งเก้าอี้เอนนอนได้ แต่ไม่สามารถเอนแบบเตียงนอนได้ รวมถึงไม่มีโต๊ะทำงานแยก จึงเห็นนายกรัฐมนตรีนั่งอ่านเอกสารเตรียมการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ UNGA ที่เก้าอี้ที่นั่ง
ก่อนหน้านี้ทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงแล้วว่า ตามระเบียบสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี การเช่าเครื่องบินใช้ระบบ e-bidding ประกวดราคาแบบเปิดเผย สามารถตรวจสอบในเว็บไซต์ได้ ซึ่งพบว่าราคาเช่าเหมาลำของการบินไทยถูกกว่าเช่าเหมาลำของกองทัพอากาศ อีกทั้งเครื่องบินกองทัพอากาศอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง มีที่นั่งชำรุดหลายที่นั่ง ทำให้ไม่มีความพร้อมในการเดินทางด้วย