ภาพของ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือที่กล้าได้กล้าเสีย สั่งทดสอบอาวุธนิวเคลียร์มากกว่า 20 ครั้ง และลงสนามสงครามน้ำลายกับผู้นำประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนไปนับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ท่าทีที่อ่อนข้อ เป็นมิตร และยินดีที่จะเจรจาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในภูมิภาคเข้ามาแทนที่ภาพลักษณ์แบบเดิมๆ
ล่าสุด คิมจองอึนมีความต้องการที่จะเลิกบุหรี่ ตามคำแนะนำของนายชุงอุยยอง (Chung Eui-yong) ผู้แทนระดับสูงด้านความมั่นคงของเกาหลีใต้ ที่นำคณะผู้แทนจากเกาหลีใต้เดินทางเยือนกรุงเปียงยางอย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ภายหลังมหกรรมกีฬากระชับความสัมพันธ์ของเกาหลีทั้งสองประเทศอย่างโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ปิดฉากลง นับเป็นคณะผู้แทนจากกรุงโซลคณะแรกนับตั้งแต่คิมจองอึนขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ เมื่อปี 2011
“ลองหยุดสูบบุหรี่ดูไหม มันไม่ดีต่อสุขภาพ” คือประโยคที่สำนักข่าว Asahi อ้างถึงในการประชุมระหว่างตัวแทนรัฐบาลเกาหลีทั้งสองประเทศ ทางด้านสตรีหมายเลขหนึ่งของเกาหลีเหนืออย่าง ริซอลจู (Ri Sol Ju) รู้สึกประหลาดใจกับคำพูดดังกล่าว โดยเธอระบุว่า “ฉันบอกให้เขาเลิกบุหรี่ตลอด แต่เขาก็ไม่เคยฟังฉันเลย”
ภาพจำของคิมจองอึนที่มักจะสูบบุหรี่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นขณะเดินทางเยี่ยมชมโรงเรียน โรงพยาบาล หรือแม้แต่พื้นที่ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ชี้ให้เห็นว่าคิมจองอึนเป็นผู้นำประเทศคนหนึ่งที่สูบบุหรี่จัดมาก
นัมซองอุค (Nam Sung-wook) อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกาหลี ผู้เคยเป็นอดีตหัวหน้ายุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงแห่งชาติภายในหน่วยสืบราชการลับของเกาหลีใต้เผยว่า คิมจองอึนเคยตำหนิแฟนสาวของตนขณะที่เรียนอยู่ที่เมืองเบิร์น สวิตเซอร์แลนด์ หลังจากที่แฟนสาวขอร้องให้เขาเลิกบุหรี่ คิมโกรธและตวาดเธอด้วยถ้อยคำรุนแรง
ท่าทีดังกล่าวที่จะเลิกบุหรี่อาจจะเป็นความพยายามในการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่ดื้อรั้นและแข็งกร้าวมากเกินไปของผู้นำเกาหลีเหนือ ก่อนที่เขาจะมีกำหนดการพบปะกับนายมุนแจอิน ผู้นำเกาหลีใต้ และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมนี้ โดยทุกฝ่ายหวังว่าการเปิดพื้นที่ในการเจรจาจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีที่เรื้อรังมานานหลายทศวรรษ
อ้างอิง: