วันนี้ (5 สิงหาคม) วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี เมื่อวานนี้ (4 สิงหาคม) สั่งเลื่อนการประชุมร่วมรัฐสภาออกไปก่อน พร้อมกับปิดการประชุมทันทีนั้น ว่าการเปิดประชุมเมื่อวานนี้มีประชุมวาระอยู่ 2 เรื่อง คือการเลือกนายกฯ ซึ่งไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ และจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 16 สิงหาคม ส่วนเรื่องที่ 2 คือการเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ซึ่งตนตั้งใจให้มีการอภิปรายอย่างเต็มที่
และหากเลื่อนวาระที่ 2 ขึ้นมา สภาก็มีความพร้อมที่จะพิจารณา แต่ระหว่างการพิจารณาเพื่อเลื่อนวาระดังกล่าวขึ้นมานั้น รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้เสนอญัตติด่วนขึ้นมาเพื่อให้ทบทวนมติที่สภาได้พิจารณาไปเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม คือญัตติที่ไม่ให้โหวตนายกฯ ซ้ำ ซึ่งเรื่องได้พิจารณาตามข้อบังคับ 151 ไปแล้ว โดยข้อบังคับ 151 ในวรรคแรกได้ระบุว่า การลงมติของรัฐสภาถือว่าเด็ดขาด การที่จะมาทบทวนมติที่เด็ดขาดไปแล้ว ตนและสมาชิกหลายท่านเข้าใจว่าไม่สามารถกระทำได้
วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า โดยปกติที่ผ่านมา หากเรื่องอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ สภาก็ยังจะไม่พิจารณาเรื่องนั้น โดยรัฐธรรมนูญมาตรา 211 เขียนไว้ชัดเจนว่า คำวินิจฉัยและคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญถือว่าเด็ดขาด และมีความผูกพันกับรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และองค์กรอิสระ เพราะฉะนั้นการที่เราจะตัดหน้าไปพิจารณาวันที่ 4 สิงหาคม ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญระบุชัดเจนว่าจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 16 สิงหาคม หากเราพิจารณาก่อน อาจจะเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ เพราะเป็นการย้อนแย้งกับที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาเรื่องเดียวกัน
หากมีการพิจารณาและลงมติ และวันที่ 16 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่ตรงกับมติของสภา ท่านคิดว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นกับใคร หากเรารอให้ถึงวันที่ 16 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาจบแล้ว เราก็สามารถนำเรื่องดังกล่าวมาทบทวนได้ แต่เราต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน
วันมูหะมัดนอร์กล่าวอีกว่า ตนจึงเห็นว่าเรื่องนี้ ในประการแรก ญัตติที่จะทบทวนญัตติของเราเองตามที่ข้อบังคับพูดไว้ชัดเจนแล้วนั้นจะกระทำได้หรือไม่ สมควรจะกระทำหรือไม่ ประการที่สอง เรื่องที่เราจะพูดคือเรื่องมติโหวตนายกฯ กระทำซ้ำได้หรือไม่ มันเป็นเรื่องเดียวกันที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวันที่ 16 สิงหาคมนี้ และอำนาจศาลรัฐธรรมนูญถือว่าเด็ดขาด สภาจะพิจารณาอย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาแล้ว เราต้องปฏิบัติตาม ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร ในฐานะประธานรัฐสภาเราไม่สามารถนำองค์กรให้เกิดปัญหากับองค์กรที่จะตัดสินเรา เราพร้อมจะทำตามสมาชิกถ้าหากว่าข้อเสนอนั้นเป็นข้อเสนอที่ไม่ย้อนแย้ง
ส่วนจะทำให้ความเชื่อถือลดลง ต้องขออภัย ไม่ได้รีบปิดประชุมหนีเพื่อไม่ให้อภิปรายการแก้ไขมาตรา 272 ที่รอเวลาเกือบชั่วโมงเพื่อให้สมาชิกครบ เพื่อให้ได้ประชุม และเลื่อนวาระ 272 ที่พรรคก้าวไกลอยากจะอภิปรายขึ้นมาก่อน ตนก็อยากให้อภิปรายอย่างเต็มที่ แต่สมาชิกไม่ยอมที่จะให้เลื่อนเรื่องนี้มาพิจารณา และเสนอนำเรื่องด่วนที่ไม่ได้อยู่ในวาระขึ้นมาพิจารณาซึ่งสามารถเสนอได้ แต่เรื่องที่เสนอให้พิจารณาคือ เรื่องของวันที่ 19 กรกฎาคม ซึ่งคือเรื่องการโหวตนายกฯ โดยตามมาตรา 151 ถือว่าทำไม่ได้ ตนไม่ได้ปฏิบัติเพื่อฝ่ายใด หรือกีดกันฝ่ายใด ไม่อย่างนั้นควรจะรอเป็นชั่วโมง เพราะหากสมาชิกไม่ครบแค่ครึ่งชั่วโมงก็ไม่สามารถประชุมได้
และสำหรับกรณีการประชุมเมื่อวานนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ยังเหลือเวลาในการประชุม ทำไมถึงไม่ให้มีการลงมติ นำญัตติด่วนการเสนอชื่อนายกฯ ซ้ำขึ้นมาพิจารณา หรือเอามาตรา 272 ขึ้นมาพิจารณา วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า สมาชิกรัฐสภาไม่ยอมลงมติเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ถ้ารัฐสภาพิจารณาแล้วขัดแย้งกับคำวินิจฉัยจะมีความเสียหายเกิดขึ้น สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดศาลฯ ผู้ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือประธานรัฐสภา มองว่าจะกระทบต่อบุคคลที่เสนอและวิธีการด้วย ซึ่งจะทำให้สภาเกิดความสับสนต่อบุคคลภายนอก ในวันที่ 16 สิงหาคม ถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยทุกอย่างก็สามารถเดินหน้าได้ และรัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เราจะบอกว่าศาลฯ เป็นใหญ่กว่าสภา มองว่าไม่มีใครใหญ่กว่าใคร แต่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้แบบนั้น
ทั้งนี้ วันมูหะมัดนอร์กล่าวต่อว่า ตนทำงานในสภามากกว่า 40 ปี ไม่เคยมีการนำญัตติที่ตกไปแล้วขึ้นมาทบทวน ยืนยันไม่ได้ปิดประชุมหนี เพราะการเลื่อนประชุมสภาเมื่อวานนี้ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดของบ้านเมือง ในที่สุดแล้วก็ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดของประเทศนี้
เมื่อถามว่าในวันที่ 17 และ 18 สิงหาคม จะมีการประชุมรัฐสภาหรือไม่ วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ต้องดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ถ้าศาลมีคำวินิจฉัยออกมาจะเรียกประชุมรัฐสภาภายใน 3 วัน คือวันที่ 18-19 สิงหาคม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย และเพื่อความสง่างามของที่ประชุมรัฐสภา หากมีการทบทวนหลายรอบจะทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้นมาอีก และเกิดความไม่สง่างามของรัฐสภา พร้อมย้ำว่าไม่มีคนอยู่เบื้องหลังเสนอให้เลื่อนการประชุม