บรรดาประเทศหมู่เกาะในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกเดินหน้าเร่งหาพันธมิตรด้านความมั่นคง หวังป้องปรามการแผ่ขยายอำนาจและอิทธิพลของจีนในพื้นที่ดังกล่าว
ล่าสุด มานาสเซห์ โซกาแวร์ นายกรัฐมนตรีหมู่เกาะโซโลมอนที่ตั้งอยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ได้ส่งสัญญาณให้รัฐบาลออสเตรเลียภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลเบเนซี พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ออสเตรเลียและหมู่เกาะโซโลมอนจะกระชับและยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยเฉพาะในมิติด้านความมั่นคง ท่ามกลางยุทธศาสตร์การแข่งขันกันระหว่างประเทศมหาอำนาจอย่างจีนกับสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตร
ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก ริชาร์ด มาร์เลส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียเดินทางเยือนกรุงโฮนีอารา เมืองหลวงของหมู่เกาะโซโลมอนอย่างเป็นทางการ เมื่อวานที่ผ่านมา (28 มิถุนายน) หลังจากทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมายาวนานหลายทศวรรษ
ออสเตรเลียเคยส่งกองกำลังทหารไปยังหมู่เกาะโซโลมอนเมื่อปี 2021 ตามคำร้องขอของรัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนในขณะนั้น หลังรัฐบาลเผชิญกระแสประท้วงต่อต้านอย่างหนัก ซึ่งแนวทางการส่งกองกำลังไปยังเขตอำนาจอธิปไตยของหมู่เกาะโซโลมอนเป็นผลมาจากสนธิสัญญาด้านความมั่นคงที่ทั้งสองประเทศทำร่วมกันเมื่อปี 2017 โดยเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังทหารออสเตรเลียเดินทางเข้าประเทศหมู่เกาะโซโลมอนได้อย่างรวดเร็วหากมีความจำเป็นเร่งด่วน และเป็นไปด้วยความยินยอมของทั้งสองประเทศ
นอกจากหมู่เกาะโซโลมอนแล้ว ปาเลาก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ หลังทางการจีนแผ่ขยายอิทธิพลอย่างหนักในเขตภูมิรัฐศาสตร์ที่ตนตั้งอยู่ โดยซูรังเกิล วิปป์ จูเนียร์ ประธานาธิบดีปาเลาเผยว่า เรือของจีนมักจะรุกล้ำเขตน่านน้ำของปาเลาอยู่บ่อยครั้ง และรัฐบาลปาเลาต้องการความช่วยเหลือจากทางการสหรัฐฯ อย่างมากในการที่จะถ่วงดุลและป้องปรามการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนในแถบพื้นที่ดังกล่าว
วิปป์ จูเนียร์ ระบุว่า “สหรัฐฯ มีส่วนรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของเรา และเราจะแจ้งให้พวกเขาทราบด้วยว่าเราต้องการความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ
“ฝ่ายบริหารประเทศของเรามีจุดยืนชัดเจนว่าเราจะไม่เป็นศัตรูกับใคร และจะเป็นเพื่อนกับทุกประเทศ ตราบใดที่เราเป็นเพื่อนกับไต้หวัน เราก็เปิดรับเพื่อนทุกประเทศได้ แต่เพื่อนคนนั้นจะมาบอกเราไม่ได้ว่าคุณห้ามเป็นเพื่อนกับประเทศนั้นประเทศนี้ เพราะเขาไม่ใช่เพื่อนของเรา”
เมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ เองก็ได้บรรลุข้อตกลงด้านความมั่นคงกับอีกสองประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างปาปัวนิวกินีและไมโครนีเซีย เพื่อถ่วงดุลกับจีนที่กำลังพยายามเข้ามามีบทบาทในพื้นที่แถบนี้ ซึ่งทับซ้อนอยู่กับยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกที่สหรัฐฯ กำลังให้ความสำคัญอย่างมากในช่วงเวลานี้
ภาพ: Oliver Contreras / AFP
อ้างอิง: