การใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศจีนยังชะลอตัวต่อเนื่อง ทั้งการใช้จ่ายเพื่อเดินทางท่องเที่ยว การซื้อรถยนต์และซื้อบ้าน บ่งชี้ว่าทางการจีนอาจต้องออกมาตรการกระตุ้นที่รุนแรงขึ้นเพื่อประคับประคองการเติบโตของเศรษฐกิจ
Lu Ting หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Nomura เปิดเผยว่า การใช้จ่ายเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุดเทศกาลเรือมังกร (Dragon Boat Festival) เมื่อเร็วๆ นี้ ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนโควิดถึง 16% ซึ่งสะท้อนถึงกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอลงหรือการจงใจใช้จ่ายลดลงของผู้บริโภคที่มีความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจลดลง
“ข้อมูลการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดบ่งชี้ว่า โมเมนตัมทางเศรษฐกิจหลังการเปิดประเทศของจีน โดยเฉพาะในภาคบริการกำลังอ่อนกำลังลง อุปสงค์ที่ถูกกักไว้หรือ Pent-up Demand ค่อยๆ หายไป โดยเราคาดว่าการบริโภคในประเทศของจีนจะชะลอลงอีกในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า” Lu กล่าว
นอกจากการใช้จ่ายเพื่อท่องเที่ยวที่ไม่สู้ดีแล้ว ยอดขายบ้านในเมืองใหญ่ของจีนก็ไม่มีการขยายตัวเช่นกัน แม้ว่าธนาคารกลางของจีนจะมีการปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วก็ตาม ขณะที่ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในเดือนนี้ก็ปรับลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ภาพของการบริโภคในประเทศของจีนที่ไม่คึกคักเหมือนเก่า ทำให้ดัชนี CSI 300 ในวันนี้ (26 มิถุนายน) ย่อตัวลงราว 1.6% โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและการเงินเป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุด
ภาวะที่เกิดขึ้นทำให้นักวิเคราะห์ออกมาคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ย และลดอัตราการดำรงเงินสำรอง (Reserve Requirement Ratio: RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ลงอีกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพื่อประคองการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
Louis Kuijs หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ S&P Global Ratings ประเมินว่า รัฐบาลจีนอาจมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีน้ำหนักมากต่อเศรษฐกิจจีนเพิ่มเติม เช่น การผ่อนปรนข้อจำกัดในการซื้อที่อยู่อาศัย และข้อกำหนดการวางเงินดาวน์ ควบคู่ไปกับการสนับสนุนทางการเงิน
อ้างอิง: