THE MASS SHOOTING WOUND
นับเป็นภาพสะเทือนใจคนทั่วโลก เมื่อนักเรียนชั้นมัธยมกว่าร้อยคนในเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย รัฐแมรีแลนด์และเวอร์จิเนีย รวมตัวประท้วงหน้าทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อให้มีการควบคุมอาวุธปืน หลังผู้นำสหรัฐอเมริกาเสนอให้ออกนโยบายสนับสนุนให้ครูติดอาวุธในโรงเรียน เพื่อควบคุมเหตุกราดยิง หลังเกิดเหตุ กราดยิงในโรงเรียนมัธยมที่รัฐฟลอริดา จนมีผู้เสียชีวิต 17 ราย เหตุการณ์ครั้งล่าสุดก่อให้เกิดการถกเถียงในวงกว้างว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ควรจะมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืน ขณะที่ข้อเสนอของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ให้ครูติดอาวุธ สร้างกระแสวิจารณ์ทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ประชาชนถือครองอาวุธปืนได้อย่างเสรี ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 เมษายน ปี 1999 เกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนมัธยมโคลัมไบน์ ส่งผลให้นักเรียนและครูเสียชีวิต 13 ราย เหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความหวาดผวาไปทั่ว 3 ปีให้หลัง ไมเคิล มัวร์ เปิดตัวสารคดี Bowling for Columbine ที่สะท้อนสภาพแวดล้อมในสหรัฐอเมริกาที่ผู้คนหาซื้ออาวุธปืนมาไว้ใน ครอบครองได้อย่างง่ายดาย บางรัฐ ธนาคารมอบของที่ระลึกเป็นอาวุธปืนเมื่อลูกค้าเปิดบัญชี สารคดีดังกล่าวยังวิพากษ์นโยบายอาวุธปืนที่หละหลวมของสหรัฐอเมริกาหลายจุด จากวันนั้นสหรัฐอเมริกายังเผชิญวินาศกรรมจากอาวุธปืนมาตลอด โดยเฉพาะเหตุกราดยิงในโรงเรียน มีสถิติมากถึง 219 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา หรือเฉลี่ยประมาณหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์
BYE PYEONGCHANG, SEE YOU IN BEIJING
การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เมืองพย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้ ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนที่ผ่านมา โดยมีพิธีปิดการแข่งขันอย่างตระการตา ไม่ว่าจะเป็นการแปรอักษรเป็นรูปธงชาติระหว่างนักกีฬาเดินเข้าสู่สนาม, ฝูงโดรนที่ เรียงตัวเป็นรูปมาสคอตเสือขาวซูโฮรัง, ชุดการแสดง Nextwave ในแสงสีนีออน โดยมีแขกรับเชิญเป็นผู้นำในเวทีโลกทั้ง อิวานกา ทรัมป์ ผู้ช่วยประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา, มุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ พร้อมภรรยา และพล.อ. คิมยองโซล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานข่าวกรองหลักแห่งเกาหลีเหนือ สถานที่จัดพิธีเปิดและปิดกีฬาคือพย็องชัง โอลิมปิก สเตเดียม ในพิธีเปิดมีการใช้โดรน 1,218 ตัว แปรเป็นสัญลักษณ์วงกลม 5 ห่วง อันเป็นผลงานของบริษัทอินเทล โดย Guinness World Records ยกให้เป็นการบิน ที่รวมอากาศยานไว้ด้วยกันมากที่สุด การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 ประจำปี 2018 ณ เมืองพย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-25 กุมภาพันธ์ ทั่วโลกต่างจับตาดูความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ โดยเกาหลีเหนือส่งนักกีฬาร่วมการแข่งขันครั้งนี้ 22 คน และในพิธีเปิดการแข่งขัน ตัวแทนทั้งสองชาติเดินลงสู่สนามด้วยธงรวมชาติเกาหลี ทั้งยังจัดตั้งทีมฮอกกี้น้ำแข็งหญิงเฉพาะกิจ เพื่อลงแข่งขันในทีมเดียวกันอีกด้วย นอกจากนี้สาวๆ เชียร์ลีดเดอร์จากเกาหลีเหนือยังโชว์ลีลาการเชียร์อย่างพร้อมเพรียงได้น่าประทับใจจนสร้างภาพจำไป ทั่วโลก ดาวเด่นในการแข่งขันครั้งนี้คือ ยูซุรุ ฮานิว เจ้าชายแห่งวงการสเกตน้ำแข็ง หนุ่มเลือดซามูไรเป็นนักกีฬาสเกตคนแรกที่ป้องกันแชมป์สเกตลีลาชายในการแข่งขันโอลิมปิกได้สำเร็จในรอบ 66 ปี ขณะที่มิราอิ นากาสุ นักกีฬาสเกตน้ำแข็งทีมชาติสหรัฐอเมริกา เป็นนักสเกตคนที่ 3 ที่สามารถทำท่า Triple Axel (กระโดดลอยกลางอากาศและหมุนตัวสามรอบครึ่งในการกระโดดหนึ่งครั้ง) ซึ่งยากและอันตรายได้สำเร็จในการแข่งขันโอลิมปิก การแข่งขันครั้งต่อไปจะมีขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในปี 2022
SNOW FILLED PARIS
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กรุงปารีสเผชิญกับ ภาวะอากาศหนาวเหน็บและถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวละลานตาจากพายุหิมะที่โหมกระหน่ำ จนเส้นทางสัญจรบนท้องถนนติดขัดอย่างหนักเป็นระยะทางกว่า 740 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า มีชาวปารีสเกือบ 2,000 คน ต้องนอนหลับในรถเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย หิมะสูงเกือบ 5.9 นิ้ว ยานพาหนะ ทั้งหลายไม่สามารถสัญจรได้
ขณะเดียวกันในช่วงปลายเดือน มวลอากาศหนาวจากไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย ที่สื่อตั้งฉายาว่า ‘The Beast from the East’ แผ่ปกคลุมทั่วทั้งยุโรป ส่งผลให้ฝรั่งเศสและหลายประเทศเผชิญกับภัยอากาศระลอกใหม่ อุณหภูมิลดฮวบในหลายเมือง ขณะที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี มีหิมะตกเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
THE RUNWAY DRONES
กองทัพโดรนทยอยหิ้วกระเป๋าลอยออกมากลางรันเวย์แฟชั่นโชว์ของ Dolce & Gabbana คอลเล็กชัน Autumn/Winter 2018 ที่รอบนี้ เต็มไปด้วยเสื้อผ้ายุค 80s ทรงใหญ่โต และงานปักเลื่อมสีสันจัดจ้าน โดยเฉพาะแอ็กเซสซอรีอย่างแว่นตากรอบใหญ่เป็นตัวอักษร DG และคำต่างๆ ณ กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี
ELEPHANTINE BATHING IN POLLUTED RIVER
ช้างนอนแช่น้ำเล่นอย่างเพลิดเพลินระหว่างที่ควาญช้างพามาขัดสีฉวีวรรณในแม่น้ำยมุนา กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย
ซึ่งกำลังประสบปัญหามลภาวะเป็นพิษอย่างหนักและต่อเนื่องยาวนาน เป็นผลจากท่อระบายน้ำกว่า 20 ท่อ ที่ปล่อยน้ำเสียและ
สิ่งปฏิกูลต่างๆ โดยไม่ผ่านการบำบัดลงสู่แม่น้ำ จนกระทั่งช่วงของแม่น้ำที่ไหลผ่านกรุงนิวเดลีแทบไม่มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่ได้
THE BLACK PANTHER SCANDAL
คดีนักธุรกิจใหญ่ลักลอบตั้งแคมป์และล่าสัตว์ป่าคุ้มครองที่เกิดขึ้นเมื่อต้นกุมภาพันธ์ สร้างกระแสตื่นตัวด้านการอนุรักษ์ในวงกว้าง THE STANDARD ย้อนเหตุการณ์ไปยังจุดเริ่มต้นของเรื่องอื้อฉาว
และการคลี่คลายรูปคดีที่เกิดขึ้นจนถึงสิ้นเดือนที่ผ่านมา
วันที่ 3 กุมภาพันธ์
- นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 4 คน เข้าไป ท่องเที่ยวเส้นทางทินวย-ทิคอง-มหาราช ระยะทาง 30 กิโลเมตร โปรแกรม 2 วัน 1 คืน
วันที่ 4 กุมภาพันธ์
- เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าพบคณะของนายเปรมชัยลักลอบตั้งแคมป์บริเวณห้วยปะชิ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ตรวจพบอาวุธปืน ซากสัตว์ป่าคุ้มครองคือ ไก่ฟ้าหลังเทาและเนื้อเก้ง
วันที่ 5 กุมภาพันธ์
- เวลา 02.40 น. ควบคุมตัวนายเปรมชัยและพวกมายังสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
- เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่เพิ่มเติม พบซากเสือดำ สัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ถูกชำแหละเนื้อ และหนัง พร้อมเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนมาก
วันที่ 6 กุมภาพันธ์
- สภ.ทองผาภูมิ แจ้ง 6 ข้อหาในเบื้องต้น
- ลงบันทึกจับกุมนายเปรมชัยกับพวกรวม 4 คน 9 ฐานความผิดจาก 3 พ.ร.บ. และยื่นคำร้อง ฝากขังครั้งแรก ทนายความยื่นขอประกันตัว 4 ผู้ต้องหา วงเงินคนละ 150,000 บาท
- นายเปรมชัยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และอ้างว่าตนเองหลงทาง รวมทั้งต้องการเข้าไปท่องเที่ยวสักครั้ง “เพราะจะแก่ตายอยู่แล้ว”
วันที่ 7 กุมภาพันธ์
- พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าค้นบ้านนายเปรมชัย พบงาช้างและปืน
- คลิปเสียงการต่อรองติดสินบนเจ้าพนักงานถูกเผยแพร่
วันที่ 9 กุมภาพันธ์
- พบ 8 รอยกระสุน บนร่างเสือดำ
- นายวิเชียร ชิณวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ร้องทุกข์นายเปรมชัยฐานติดสินบนเจ้าพนักงาน
วันที่ 13 กุมภาพันธ์
- ออกหมายเรียก 4 ผู้ต้องหา เพื่อเตรียมแจ้งข้อกล่าวหากระทำทารุณกรรมสัตว์ ฐานความผิดที่ 10
วันที่ 14 กุมภาพันธ์
- แจ้งข้อกล่าวหากระทำทารุณกรรมสัตว์ รวมเป็น 10 ข้อหา
วันที่ 15 กุมภาพันธ์
- นายเปรมชัยกับพวกไม่มารับทราบข้อกล่าวหาทารุณกรรมสัตว์ ทนายขอเลื่อนเป็นวันที่ 22 กุมภาพันธ์
วันที่ 16 กุมภาพันธ์
- อาวุธปืนลูกซองยิงตรงจุดสำคัญคือ บริเวณหัวของเสือดำ สอดคล้องกับอาวุธปืนของนายเปรมชัย
วันที่ 19 กุมภาพันธ์
- หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบกลุ่มพรานเปิบเมนู ตัวเดียวอันเดียว (อวัยวะเพศผู้) ของเสือดำ
วันที่ 21 กุมภาพันธ์
- ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี พิจารณานิยาม คำว่าสัตว์แล้วพบว่า ไม่เข้าตามคำนิยาม พ.ร.บ. ทารุณกรรมสัตว์ พนักงานสอบสวนจึงแจ้ง ข้อกล่าวหา 9 ข้อดังเดิม
วันที่ 22 กุมภาพันธ์
- นายเปรมชัยเบี้ยวนัดรอบสอง ทนายยื่นขอเลื่อนการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเป็นวันที่ 5 มีนาคม
วันที่ 27 กุมภาพันธ์
- ปปป. เผยพยานหลักฐานข้อหานายเปรมชัยติดสินบนเจ้าหน้าที่ ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เนื่องจากเสียงที่ปรากฏไม่ใช่เสียงของนาย เปรมชัย
วันที่ 28 กุมภาพันธ์
- สรุปผลสอบ นางสาวกาญจนา นิตยะ ผ.อ. สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และหัวหน้าวิเชียร ไม่มีความผิด กรณีอนุญาตให้คณะนายเปรมชัย เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ และไม่ได้ละเลยต่อหน้าที่แต่อย่างใด
วันที่ 5 มีนาคม
- พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกนายเปรมชัย มาพบที่ สภ.ทองผาภูมิ หากไม่มาและไม่มีการติดต่อ เจ้าหน้าที่จะประสานขอหมายจับต่อไป
วันที่ 26 มีนาคม
- ศาลจังหวัดทองผาภูมิกำหนดให้นายเปรมชัยมารายงานตัวครั้งแรก
THE AUNTS & THEIR AXE
เหตุการณ์คุณป้าบุญศรี, รัตนฉัตร และราณี แสงหยกตระการ ใช้ขวานทุบรถกระบะที่ จอดขวางหน้าบ้านของตนในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ศรีนครินทร์ ซอย 55 ใกล้กับสวนหลวง ร.9 เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สร้างแรงกระเพื่อมต่อ สังคมมากกว่าการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคุณป้า เพราะได้จุดประเด็นให้สังคมตั้งคำถามถึงเรื่องมารยาทของการ จอดรถหน้าบ้านคนอื่น รวมถึงการใช้อำนาจ ของเจ้าหน้าที่รัฐในทางมิชอบในการจัดสรรที่ดิน จนกลายเป็นปัญหาคาราคาซังมานานนับ 10 ปี
คุณป้าเผชิญกับคนจอดรถหน้าบ้านเป็นประจำ เพราะตัวบ้านถูกโอบล้อมด้วยตลาดสวนหลวงทั้งด้านซ้าย-ขวา ตรงข้ามหน้าบ้าน และด้านหลังยังทำเป็นที่จอดรถ ทั้งที่เป็นที่ดินจัดสรรเพื่ออยู่อาศัย จนต้องแจ้งความและนำ คำพิพากษาศาลถึงผลกระทบจากคดีสิ่งแวดล้อมที่ตลาดอยู่ติดบ้านและป้ายผลกระทบจากการ มีคนมาจอดรถมาติดไว้ที่ประตูบ้าน
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายธนะสิทธิ์ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศประกาศให้ตลาด 5 แห่ง คือ ตลาดสวนหลวง ตลาดเปิ้ล มาร์เก็ต ตลาดรุ่งวาณิชย์ ตลาดยิ่งนรา และตลาดร่มเหลือง ปิดกิจการทั้งหมด โดยทางเขตได้ ช่วยหาพื้นที่แห่งใหม่ให้
ฝั่งเจ้าของรถกระบะได้แจ้งข้อหาคุณป้า 3 ข้อหาคือ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ข่มขู่ทำให้ ผู้อื่นตกใจกลัว และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ด้านคุณป้าก็จ้างทนายความแจ้งดำเนินคดีแก่เจ้าของ รถกระบะกลับฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397
LET’S GET DRESSED TRADITIONALLY & TAKE A SELFIE
กลายเป็นงานที่คนรักการถ่ายเซลฟีไม่ควรพลาด ที่นานๆ ทีจะได้ใส่ชุดไทยย้อนยุคมาเดินเล่นถ่ายรูปในบรรยากาศย้อนยุค กับงาน ‘อุ่นไอรัก คลายความหนาว’ ซึ่งภายในงานมีจุดให้ถ่ายรูปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดริมกำแพง เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จำลอง สวนดอกไม้หน้าพระบรมรูปทรงม้า หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ซุ้มสตูดิโอถ่ายภาพบริเวณนิทรรศการรัชกาลที่ 5 ฯลฯ โดยสามารถเช่าชุดไทยที่บูธภายในงานได้เพียง 250 บาทเท่านั้น งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว เป็นพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานพระราชทานความสุขให้กับประชาชน และเผยแพร่ความเป็นไทยรูปแบบต่างๆ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักและเคารพยิ่งของปวงชนชาวไทย
TIMELY GRAFFITI
ภาพกราฟฟิตี้บริเวณสะพานลอยคนข้าม ระหว่างสุขุมวิท ซอย 56 กับซอย 58 พ่นโดย Headache Stencil ซึ่งเป็นภาพใบหน้าของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ล้อเลียนกรณีปมนาฬิกาหรู ถ่ายเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจลบออก ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ก่อนหน้านี้ พล.อ. ประวิตรได้เคยเปิดใจต่อสื่อมวลชนว่า “ถ้าประชาชน ไม่ต้องการ ผมก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้” หลังการประกาศดังกล่าว ก็เกิดกระแสเรียกร้องอย่างกว้างขวางจากประชาชนภาคส่วนต่างๆ ให้รองนายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง อาทิ ทิชา ณ นคร อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) นำรายชื่อที่รวบรวมผ่านเว็บไซต์ change.org จำนวน 80,010 รายชื่อ ยื่นถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกร้องให้รองนายกรัฐมนตรีลาออกตามที่ได้กล่าวไว้ และฝากถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้รักษาความเที่ยงตรง อย่าทำตัวเป็นผงฟอกขาว ล่าสุด ป.ป.ช. ส่งหนังสือให้ พล.อ. ประวิตรชี้แจงเรื่องนาฬิกาหรูรอบที่ 4 โดยชี้ว่า มีประเด็นเยอะ ต้องให้เวลาแจงพอสมควร ก่อนจะครบกำหนดกลางเดือนมีนาคมนี้