×

‘สตาร์ ปิโตรเลียม’ ทุ่ม 5.56 พันล้านบาท ซื้อกิจการ ‘ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์’ จากเชฟรอน พร้อมเข้าซื้อหุ้น ‘Thappline’ กับ BAFS ลุยธุรกิจน้ำมันครบวงจร

07.12.2022
  • LOADING...

บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ประกาศทุ่มงบ 5,562.5 ล้านบาท เข้าซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม หรือสถานีบริการน้ำมันแบรนด์ ‘คาลเท็กซ์’ จาก ‘บริษัท เชฟรอน (ไทย)’ รวมถึงซื้อหุ้นสัดส่วน 9.91% ในบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย (Thappline) และได้หุ้นสัดส่วน 2.51% ใน บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) 

 

โรเบิร์ต โดบริค กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SPRC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 มีมติอนุมัติการลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 31 มกราคม 2566 โดยวันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม 20 ธันวาคม 2565 ทั้งนี้ ซึ่งการลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมดังกล่าวประกอบด้วยธุรกรรมดังต่อไปนี้

 

  1. การเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 100% ของบริษัท เชฟรอน ลูบริแคนท์ (ประเทศไทย) จำกัด จาก Chevron Asia Pacific Holdings Limited (CAPHL) และ CT Nominee Holdings (I) LLC (CTN1) และ CT Nominee Holdings (II) LLC (CTN2) โดยบริษัทเป้าหมายเป็นบริษัทที่จัดตั้งในประเทศไทย ซึ่งจะเข้าซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ปัจจุบันดำเนินการโดยบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด (CTL) และทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องจาก CTL

 

  1. การเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 2,877,500 หุ้น และหุ้นบุริมสิทธิจำนวน 5,528,430 หุ้น ของบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (Thappline) คิดเป็นสัดส่วน 9.91% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจาก CAPHL โดย Thappline ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งและจัดจำหน่ายน้ำมันทางระบบท่อส่ง

 

  1. การเข้าลงทุนโดยการเข้าซื้อหุ้นและการให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทจำกัด ที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ภายใต้กฎหมายไทยสองบริษัท (บริษัทใหม่) โดยหนึ่งในบริษัทใหม่ดังกล่าวจะเข้าซื้อที่ดินจำนวนทั้งหมด 19 แปลง ซึ่งเป็นที่ดินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม จากบริษัท สตาร์โฮลดิ้งส์ จำกัด (SHC) ทั้งนี้การเข้าซื้อหุ้นบริษัทมีเป้าหมายและหุ้น Thappline จะเรียกรวมกันว่า ‘การเข้าซื้อหุ้น’ โดยเมื่อรวมการลงทุนในบริษัทใหม่จะเรียกรวมกันว่า ‘ธุรกรรมการลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม’

 

ทั้งนี้ ในทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมครั้งนี้ ได้แก่ ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน Caltex 427 สถานี แบ่งเป็นสถานีบริการน้ำมันแบบผู้ค้าปลีกเป็นเจ้าของและดำเนินการ 403 แห่ง และสถานีบริการน้ำมันแบบบริษัทเป็นเจ้าของและดำเนินงานโดยผู้ค้าปลีก 24 แห่ง และหุ้น 16 ล้านหุ้น หรือ 2.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS)


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


สำหรับมูลค่าทั้งหมดของธุรกรรมการลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจะเท่ากับผลรวมของ 1. เงินจำนวน 90 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 3,212.4 ล้านบาท 2. มูลค่าของเงินทุนหมุนเวียนสุทธิตามจริงของธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่จะดำเนินการโดยบริษัทเป้าหมาย ณ วันที่ธุรกรรมการเข้าซื้อหุ้นเสร็จสิ้น (Closing Date) ทั้งนี้เพื่อแสดงตัวอย่างประกอบการพิจารณาเงินทุนหมุนเวียนสุทธิของธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีมูลค่าเท่ากับ 2,350.1 ล้านบาท หรือเท่ากับ 65.8 ล้านดอลลาร์

 

ในกรณีนี้ หากมูลค่าของเงินทุนหมุนเวียนสุทธิของธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ณ วันที่ธุรกรรมการเข้าซื้อหุ้นเสร็จสิ้น (Closing Date) มีจำนวนเท่าเดิม 2 มูลค่าของธุรกรรมการลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจะเท่ากับ 155.8 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 5,562.5 ล้านบาท

 

ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับ SPRC มีดังนี้

 

  1. การครอบครองและรักษาฐานลูกค้าปลายทางในธุรกิจโรงกลั่นของบริษัท โดยบริษัทประกอบธุรกิจโรงกลั่นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยในปัจจุบันลูกค้ารายที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทคือ กลุ่มบริษัท Chevron ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 43.2% ของรายได้รวมของบริษัทในปี 2564 ดังนั้นการลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจึงถือเป็นกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจในแนวดิ่ง ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถครอบครองและรักษาฐานลูกค้าปลายทางในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมได้ และลดการพึ่งพารายได้จากลูกค้าที่เป็นกลุ่มบริษัท Chevron ลง

 

  1. การขยายธุรกิจและการบูรณาการในธุรกิจปลายน้ำ การขยายธุรกิจไปยังธุรกิจปลายน้ำดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจปิโตรเลียมปลายน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสของบริษัทในการขยายธุรกิจและเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เช่น ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ธุรกิจบริการเกี่ยวกับรถยนต์ และธุรกิจบริการเชิงพาณิชย์อื่นๆ

 

นอกจากนี้ การขยายธุรกิจดังกล่าวยังทำให้บริษัทสามารถได้ประโยชน์จากการประสานศักยภาพการดำเนินงานจากการรวมธุรกิจโรงกลั่น และธุรกิจการตลาดและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การบริหาร การจัดเก็บเชื้อเพลิง และการแบ่งปันต้นทุนในธุรกิจต่างๆ 

 

  1. การรับรู้ผลของรายได้และกำไรจากธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ภายหลังจากการเข้าลงทุนในธุรกรรมการลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมดังกล่าว บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้และกำไรจากธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและธุรกิจบริการอื่นที่เกี่ยวข้องได้ทันที

           

โรเบิร์ตกล่าวต่อว่า การเข้าลงทุนในธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในครั้งนี้เป็นไปตามพันธกิจของ SPRC เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันผ่านการลงทุนในเวลาที่เหมาะสม โดยการทำธุรกรรมดังกล่าวจะเพิ่มความหลากหลายและสร้างมูลค่าให้แก่ SPRC

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising