วานนี้ (17 พฤศจิกายน) ศาลเนเธอร์แลนด์มีคำวินิจฉัยว่า เครื่องบินโดยสารพาณิชย์ของสายการบิน Malaysia Airlines เที่ยวบิน MH17 ถูกขีปนาวุธของรัสเซียยิงตกขณะกำลังบินผ่านพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อปี 2014 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 298 ราย
ศาลเนเธอร์แลนด์ยังได้ตัดสินจำคุกตลอดชีวิตแก่จำเลย 3 ราย ได้แก่ อิกอร์ เกอร์คิน ผู้นำกองทัพในแคว้นโดเนตสก์ของยูเครน มีความผิดฐานติดตั้งขีปนาวุธและร้องขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย, เซอร์เกย์ ดูบินสกี ผู้สั่งการและติดตั้งขีปนาวุธ และ ลีโอนิด คาร์เชนโก ผู้ปฏิบัติตามคำสั่งของดูบินสกี ขณะที่จำเลยชาวรัสเซียอีก 1 ราย พ้นผิดจากคดีดังกล่าวนี้ โดยจำเลยทั้ง 3 รายยังจะต้องจ่ายเงินค่าชดเชยแก่บรรดาครอบครัวผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 16 ล้านยูโร (ราว 118 ล้านบาท)
เที่ยวบิน MH17 บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 298 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กมากถึง 80 คน โดยเดินทางออกจากท่าอากาศยาน Schiphol ในกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ มุ่งหน้าสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2014 ก่อนที่จะถูกยิงตกลงในแคว้นโดเนตสก์ เสียชีวิตยกลำ โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวเนเธอร์แลนด์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และสหราชอาณาจักร
ทางด้าน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้แสดงความเห็นว่า อาชญากรรมสงครามทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยรัสเซียจะต้องได้รับการลงโทษ และการจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน เนื่องจากความรู้สึกที่ไม่ต้องได้รับโทษ (Impunity) อาจนำไปสู่การก่ออาชญากรรมครั้งใหม่
ภาพ: Peter Dejong / Pool / AFP
อ้างอิง: