สุภาษิตการทำงานสำหรับคนหนุ่มสาวในออฟฟิศยุคนี้ (หรือยุคไหนก็ตาม) คือ ‘ได้ เจ้านาย หรือ หัวหน้า ดี คือลาภอันประเสริฐ’ เพราะในชีวิตการทำงานแล้วหากได้เจ้านายที่ดีทั้งความสามารถและดีทั้งนิสัยนั้นจะช่วยทำให้ทุกอย่างนั้นผ่านไปได้อย่างราบรื่น
ในทางตรงกันข้ามหากต้องเจอกับเจ้านายที่ไม่ดี ไม่ไหวจะเคลียร์ขึ้นมา การตื่นเช้าไปทำงานก็ไม่ต่างอะไรจากการเดินทางไปสู่นรกภูมิที่กัดกร่อนบั่นทอนจิตใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่ก็นั่นแหละในมุมของคนที่เป็นเจ้านาย หรือคนที่กำลังจะมีโอกาสได้เป็นเจ้านายก็คงไม่มีใครอยากจะเป็นเจ้านายผู้ไม่น่ารักหรอกใช่ไหม?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ที่ทำงานเก่าที่โปรด! พฤติกรรม ‘พนักงานบูมเมอแรง’ ที่ลาออกและกลับมาใหม่อีกครั้ง และรับเงินเดือนแบบยิ่งใหญ่กว่าเดิม
- ทำงานจนตาย เดี๋ยวไม่ได้ใช้เงิน! รับเงินเดือนน้อยลง แต่ได้เวลาชีวิตมากขึ้น เทรนด์ใหม่มาแรงในหมู่พนักงานทั่วโลก
- ใครไม่ได้เรื่องก็ออกไป! บริษัทใหญ่เตรียมนำการประเมินเข้มงวดกลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อรอรับวิกฤตในอนาคต
นั่นคือเหตุผลที่ บิลล์ จอร์จ (Bill George) ผู้เชี่ยวชาญจาก Harvard Business School และอดีตซีอีโอของ Medtronic ที่ทำธุรกิจเรื่องเทคโนโลยีทางการแพทย์ซึ่งมีประสบการณ์กว่า 20 ปีในการศึกษาภาวะผู้นำที่ล้มเหลวในที่ทำงานได้ช่วยจัดประเภทของเจ้านายที่ไม่น่ารักออกมาผ่านผลงานหนังสือที่ชื่อ ‘True North: Leading Authentically in Today’s Workplace, Emerging Leader Edition’ ซึ่งเขียนร่วมกับ แซค เคลย์ตัน (Zach Clayton)
คนเป็นเจ้านายอยู่แล้วก็อ่านเพื่อทบทวนตัวเองได้ หรือคนที่มีโอกาสจะเป็นเจ้านายในอนาคตก็อ่านแล้วทดไว้ในใจได้เหมือนกัน
1. ของปลอมทำเหมือน
เจ้านายประเภทนี้ใช้วิธีการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุดขององค์กรด้วยการใช้บุคลิกที่มีเสน่ห์และแนวคิดที่สวยหรู แต่ปัญหาคือเมื่อขึ้นสูงแล้วกลับไม่รู้วิธีที่จะเป็นผู้นำที่ดี เพราะคนเหล่านี้จะขาดสิ่งที่เรียกว่า Sense-Awareness หรือความสามารถในการมองเห็นตัวเองและตระหนักถึงสิ่งต่างๆ
ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา เพราะคนเหล่านี้จะไม่รู้เลยว่าอะไรทำไปแล้วถูก อะไรทำไปแล้วผิด อะไรที่ทำแล้วดีต่อลูกน้องหรืออะไรที่ทำแล้วทำร้ายลูกน้อง หรืออะไรที่จะสามารถช่วยพัฒนาลูกน้องให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จอร์จ ยกตัวอย่างของ อดัม นอยมันน์ (Adam Neumann) อดีตผู้ก่อตั้งและซีอีโอ WeWork ที่มีเสน่ห์และบุคลิกที่น่าเชื่อถือจนทำให้ดึงดูดนักลงทุนมาร่วมทุนได้ แต่กลับไม่มีความสามารถที่จะบริหารกิจการแบบวันต่อวันได้ สุดท้ายสไตล์การเป็นผู้นำที่ทำให้ไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย และการพยายามจะขยายกิจการโดยแทบไม่มีแผนเตรียมไว้ (เพราะมีแต่เปลือก)
2. ฉันถูกเสมอ
อันนี้หลายคนน่าจะเคยเจอกับเจ้านายประเภทที่ ‘ฉันถูกเสมอ’
เจ้านายแบบนี้จะเป็นปรมาจารย์ของการปฏิเสธ ไม่เคยรับผิด เพราะความผิดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นของคนอื่นเสมอ และเรื่องนี้เองที่จะเป็นปัญหาเพราะเขาหรือเธอนั้นจะไม่เคยได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
บนโลกนี้ไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยทำผิด เจ้านายก็ผิดเป็นจำไว้
3. ทำงานเอาโล่
การทำงานบริษัทนั้นเปรียบเป็นเหมือนกับการเล่นกีฬาประเภททีม ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบ เวลาแพ้เราแพ้ด้วยกัน เวลาชนะเราชนะด้วยกัน
แต่สำหรับเจ้านายบางคน ความสำเร็จส่วนตัวคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ คนพวกนี้จะสนใจแค่ ‘รางวัล’ หรือ ‘เกียรติยศ’ ที่จะได้รับเท่านั้น เช่น จะได้เงินมากเท่าไร จะมีสื่อเขียนชื่นชมสดุดีเท่าไร ไปจนถึงจะได้ขึ้นเวทีไปรับรางวัลอะไรบ้าง
เรื่องที่แย่คือเจ้านายประเภทนี้มักจะไม่เคยพอใจกับความสำเร็จ (ส่วนตัว) ที่ได้รับด้วย และที่แย่ที่สุดคือบางคนยึดติดกับชัยชนะจนไม่เลือกวิธีการ
4. ข้ามาคนเดียว
เจ้านายบางคนอาจจะชอบให้มีลูกน้องห้อมล้อม แต่สำหรับเจ้านายประเภทนี้แล้วพวกเขาไม่ต้องการใครในชีวิตเลย เพราะคิดว่าสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวของตัวเอง
นั่นทำให้เจ้านายในแบบนี้จะไม่มีการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทีมหรือคนที่ทำงานร่วมด้วยที่เป็น Support Network เด็ดขาด พวกเขาจะทำอะไรด้วยตัวเองและไม่คิดที่จะรับฟังใคร อย่าว่าแต่ลูกน้องเลย บางทีบอร์ดบริหารหรือที่ปรึกษาก็ไม่ฟัง
จุดจบของเจ้านายในแบบนี้คือมีโอกาสจะก่อความผิดพลาดสูง และความผิดพลาดนั้นอาจร้ายแรงถึงทำให้องค์กรล้มเหลวได้เลยทีเดียว
5. ฉันคือดารา
ประเภทสุดท้ายของเจ้านายที่ไม่น่ารักคือเจ้านายประเภท Shooting Stars หรือดาวเด่นซึ่งดูเฉิดฉายกว่าคนอื่น มักจะเป็นคนที่ดูมีความพิเศษบางอย่างและเติบโตอย่างรวดเร็วในสายงาน
ส่วนใหญ่แล้วคนประเภทนี้มักจะเปลี่ยนงานเพื่อขยับตำแหน่งของตัวเองให้สูงขึ้น ซึ่งมองในแง่ดีก็คือโตไว แต่ในแง่ร้ายที่ร้ายมากๆ ด้วยก็คือจะกลายเป็นเจ้านายที่โตไวเกินกว่าวัยวุฒิและคุณวุฒิจะถึง
เมื่อต้องทำงานในตำแหน่งระดับสูงจริงๆ เป็นเจ้านายจริงๆ บางครั้งความรู้ความสามารถอย่างเดียวไม่เพียงพอ มันต้องมีอะไรอีกหลายอย่างประกอบกันยันถึงเรื่องการบริหารจัดการคน ซึ่งคนที่มาทางลัดแบบนี้มีโอกาสจะไปไม่รอดสูง
สุดท้ายถึงดาวจะรุ่งได้ ก็ร่วงได้เหมือนกัน
ทั้งหมดคือตัวอย่างของเจ้านายที่ไม่น่ารัก 5 ประเภทที่ผู้เชี่ยวชาญฮาร์วาร์ดได้บอกไว้ อ่านแล้วเห็นหน้าใครลอยมาหรือเปล่า แชร์เข้ากลุ่มที่ทำงานได้นะ (ถ้ากล้าพอ :P)
อ้างอิง: