บริษัทเอกชนญี่ปุ่นล้มละลายแตะ 3 พันกว่ารายในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นตัวเลขการล้มละลายที่เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากต้องเผชิญปัจจัยกดดดันเชิงลบที่ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงโควิดเมื่อปี 2021 จนถึงปัจจุบันที่กำลังผจญกับวิกฤตเงินเยนอ่อนค่า ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบต่างๆ สูงขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า บริษัทวิจัยด้านเครดิต Tokyo Shoko Research เปิดเผยรายงานพบจำนวนบริษัทญี่ปุ่นที่ล้มละลายในช่วงเดือนเมษายน-กันยายนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 6.9% มาอยู่ที่ 3,141 ราย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า นับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ร้านโอมากาเสะทั่วโลกขาดแคลน ‘เชฟซูชิชาวญี่ปุ่น’ แย่งตัวกันอุตลุด ยิ่งได้ภาษาจะถูกเสนอค่าจ้างสูงถึง 2.2 ล้านบาทต่อปี
- ญี่ปุ่นแทรกแซงค่าเงินแล้ว! ครั้งแรกในรอบ 24 ปี หลังเยนอ่อนค่าหลุด 145 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
- โปรดเช็กราคาก่อนจะช็อกตอนจ่ายเงิน! ‘โอมากาเสะ’ ในนิวยอร์กดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ 35,000 บาทต่อคน หลังค่าขนส่ง วัตถุดิบ และค่าแรงพุ่งสูงขึ้น
รายงานของ Tokyo Shoko Research ระบุว่า การล้มละลายที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากความยากลำบากของบริษัทต่างๆ ที่ต้องเผชิญในการหาทางจ่ายคืนความช่วยเหลือทางการเงินที่ได้รับจากรัฐบาลเพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ของโควิด
นอกจากนี้ การศึกษายังพบจำนวนบริษัทมีการล้มละลายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม โดยมีสาเหตุสืบเนื่องมาจากราคาวัตถุดิบที่สูง บวกกับแรงซ้ำเติมจากการอ่อนค่าของค่าเงินเยนเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินหลักอื่นๆ ซึ่งยิ่งทำให้ต้นทุนนำเข้าพลังงานและวัตถุดิบอื่นๆ ของญี่ปุ่นแพงมากขึ้น
ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณหนี้สินรวมของบริษัทล้มละลายในญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 เท่าเป็น 1.74 ล้านล้านเยน โดยได้รับแรงหนุนจาก Marelli Holdings Co. ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ ที่ยื่นเอกสารต่อศาลเพื่อขอคุ้มครองล้มละลายเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ภายใต้กฎหมายฟื้นฟูทางแพ่งของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ เมื่อจำแนกตามอุตสาหกรรม ภาคการขนส่งมีกรณีล้มละลายมากที่สุดถึง 162 คดี หรือคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 42.1% นับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาคอสังหาริมทรัพย์กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยมีจำนวนบริษัทล้มละลายในภาคอสังหาฯริมทรัพย์ 104 แห่ง ลดลง 5.4% นับเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดในรอบ 30 ปี
ขณะที่เมื่อพิจารณาเป็นรายจังหวัด มี 29 จังหวัด รวมถึงฮอกไกโด และเกียวโต มีจำนวนบริษัทที่ล้มละลายเพิ่มขึ้น ขณะที่พื้นที่จังหวัด 16 แห่ง รวมถึงโอซาก้า และฮิโรชิมา มีจำนวนบริษัทที่ล้มละลายลดลง ส่วนอีก 2 จังหวัด คือ ชิซึโอกะ และนางาซากิ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
เฉพาะในเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียว พบจำนวนบริษัทที่ล้มละลายในประเทศเพิ่มขึ้น 18.6% จากปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 599 ราย คิดเป็นยอดหนี้สินรวม 144,870 ล้านเยน
อ้างอิง: