วันนี้ (8 ตุลาคม) เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สะพานเคิร์ช สะพานสายหลักที่เชื่อมระหว่างแหลมไครเมียทางตอนใต้ของยูเครนกับรัสเซีย หนึ่งในสัญลักษณ์ของการผนวกรวมดินแดนไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2014
บางส่วนของสะพานพังทลายลงสู่ผืนน้ำบริเวณช่องแคบเคิร์ชที่อยู่เบื้องล่าง ขณะที่บางส่วนยังมีเปลวไฟลุกโชนพร้อมควันไฟสีดำลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของคนกลุ่มใด
ทางด้าน มิคาอิโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ทวีตข้อความระบุว่า “ไครเมีย, สะพาน, จุดเริ่มต้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่มิชอบด้วยกฎหมายจะต้องถูกทำลายลง ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกขโมยไปจะต้องกลับคืนสู่ดินแดนมาตุภูมิของยูเครน ทุกสิ่งทุกอย่างที่รัสเซียยึดครองจะต้องถูกขับไล่ออกไป”
นอกจากสะพานดังกล่าวจะมีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ต่อรัสเซียแล้ว ยังมีความสำคัญอย่างมากในแง่โลจิสติกส์ แรงระเบิดดังกล่าวสร้างความเสียหายอย่างหนัก ส่งผลให้ทางการรัสเซียอาจจะต้องพึ่งพาทางรถไฟสายใต้ที่เชื่อมระหว่างครัสโนดาร์ของรัสเซียและเมืองเมลิโตโปลในซาปอริซเซีย ซึ่งอยู่ในระยะโจมตีของกำลังยูเครนแทน
สะพานคู่เส้นนี้เริ่มสร้างขึ้นภายหลังจากการผนวกรวมในปี 2014 เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2018 ส่วนเส้นทางรถไฟเปิดให้บริการหลังจากนั้นอีก 2 ปี โดยเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดดังกล่าว
ภาพ: Stringer / Reuters
อ้างอิง: