วันนี้ (7 กันยายน) ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน เห็นพ้องจุดยืนของสหประชาชาติ (UN) เรียกร้องให้พื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นเขตปลอดภัย ไม่มีกำลังทหารและการสู้รบในบริเวณดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดหายนะจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด
โดย UN ชี้ว่าทุกฝ่ายต้องยุติการสู้รบในบริเวณดังกล่าวทันที ซึ่งโรงไฟฟ้าซาปอริซเซียของยูเครนนับเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพรัสเซีย ซึ่งทีมตรวจสอบของทบวงปรมาณูเพื่อสันติ (IAEA) เพิ่งได้เข้าไปสำรวจและตรวจสอบความเสียหาย หลังจากที่รอคอยมาอย่างยาวนาน
ผู้นำยูเครนสนับสนุนข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยชี้ว่าการมีอยู่ของกองทัพรัสเซียในพื้นที่บริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะยิ่งสั่นคลอนความมั่นคง และสร้างแรงกดดันให้กับพนักงานภายในโรงไฟฟ้าที่เป็นชาวยูเครนถึง 907 ราย ซึ่งตกอยู่ในภาวะตึงเครียดอย่างหนัก จากรายงานของ IAEA
ทางด้าน อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการ UN ชี้ว่า ความพยายามก้าวแรกที่จะลดความเสี่ยงของการเกิดหายนะคือ กองกำลังทั้งจากรัสเซียและยูเครนจำเป็นจะต้องเห็นพ้องไม่ปฏิบัติการหรือดำเนินกิจกรรมทางทหารใดๆ ต่อพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งการสู้รบระหว่างสองฝ่ายยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง หลังผ่านมานานกว่า 6 เดือนแล้ว
ภาพ: Dimitar Dilkoff / AFP
อ้างอิง: