×

‘ซีอีโอ’ ในสหรัฐฯ ค่าตอบแทนปี 2021 พุ่ง 17% ผลสำรวจพบพนักงานระดับลูกจ้างราวครึ่งหนึ่งต้องทำงาน 186 ปีถึงได้เทียบเท่า

27.05.2022
  • LOADING...

สำนักข่าว AP เปิดเผยผลการศึกษาค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ของบรรดาผู้บริหารระดับสูง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทชั้นนำในตลาด S&P 500 สหรัฐฯ ภายใต้การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลโดย Equilar พบว่า ในปี 2021 ค่าตอบแทนและผลประโยชน์ของซีอีโอกว่า 300 คนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17.1% หรือราว 14.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

เรียกได้ว่าเป็นค่าตอบแทนเฉลี่ยที่สูงมาก ยิ่งกว่าพนักงานระดับพนักงานประจำทั่วไปจะได้รับโบนัสใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีก็ตาม

 

รายงานระบุว่า สำหรับค่าจ้างและผลประโยชน์ของพนักงานภาคเอกชนทั่วไปจนถึงปี 2021 มีการปรับขึ้นเฉลี่ย 4.4% ซึ่งนับได้ว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกย้อนไปจนถึงปี 2001 แต่ก็ยังเป็นการปรับเพิ่มที่ไม่เพียงพอต่ออัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ในส่วนของค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของซีอีโอ เป็นผลมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปี 2021 หลังจากที่ดิ่งลงอย่างแรงในปี 2020 เพราะการระบาดของโรคโควิด

 

โดยต้องไม่ลืมว่า ค่าตอบแทนของซีอีโอส่วนใหญ่ไม่ได้มาในรูปของเงินเดือน แต่จะขึ้นอยู่กับมูลค่าของหุ้นในตลาดเป็นหลัก ซึ่งหมายความว่า หากซีอีโอทำผลงานบริหารออกมาได้ดีจนทำให้หุ้นในตลาดเพิ่มสูงขึ้น ซีอีโอคนนั้นย่อมได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย

 

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะเกิดโรคโควิดระบาดในปี 2019 ผลตอบแทนของซีอีโอมีการปรับตัวลดลงเรื่อยๆ โดยกำไรจากการจ่ายเงินให้ซีอีโอลดลงจาก 8.5% ในปี 2017 มาอยู่ที่ 4.1% ในปี 2019 ก่อนจะขยับขึ้นมาเล็กน้อยที่ 5% ในปี 2020

 

จากนั้นก็มาถึงปี 2021 ด้วยเศรษฐกิจที่กลับมาเปิดใหม่ ควบคู่กับการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากจากธนาคารกลางสหรัฐ และปัจจัยอื่นๆ ขณะที่ราคาหุ้นก็พุ่งสูงขึ้น โดยดัชนี S&P 500 ตลอดทั้งปี พุ่งขึ้นทุบสถิติสูงสุดเกือบ 27% และกำไรต่อหุ้นพุ่งขึ้นประมาณ 50%

 

รายงานระบุว่า ในบรรดาค่าตอบแทนของซีอีโอในตลาด S&P 500 นี้ Expedia Group ได้รับการจับตามองมากที่สุด เพราะแพ็กเกจค่าตอบแทนสูงถึง 296.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ JPMorgan Chase ที่ 84.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในช่วงปี 2020 ทางบอร์ดบริหารของบริษัทต่างๆ ได้มีการปรับนโยบายมอบเงินช่วยเหลือก้อนใหญ่ หรือตัวเลือกหุ้นของบริษัทให้กับซีอีโอทั้งหลาย เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ซีอีโอเหล่านี้ทุ่มเทบริหารองค์กรอย่างเต็มที่

 

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาพบอีกว่า ไม่ว่าค่าตอบแทนของซีอีโอจะเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน แต่เงินเดือนของพนักงานระดับลูกจ้างทั่วไปกลับขยับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย หรือในบางรายกลับลดลง ส่งผลให้ช่องว่างความเหลื่อมล้ำของค่าตอบแทนระหว่างผู้บริหารกับลูกจ้างห่างออกจากกันมากขึ้น โดยมีการประเมินว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทที่เข้าร่วมในการสำรวจค่าจ้างของปีนี้ พนักงานต้องใช้เวลาทำงานมากถึง 186 ปี ถึงจะได้รับค่าตอบแทนโดยเฉลี่ยเทียบเท่ากับของซีอีโอ

 

ความไม่สมดุลดังกล่าวเริ่มสร้างความไม่พอใจในหมู่ชนชั้นกลางชาวอเมริกันที่มองว่าค่าตอบแทนของเหล่าซีอีโออยู่ในระดับที่สูงเกินไป และเริ่มเรียกร้องให้มีการทบทวนค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ของซีอีโอเหล่านี้อย่างจริงจัง ท่ามกลางวิกฤตการลาออกครั้งใหญ่ของแรงงาน ที่ทำให้หลายบริษัทต้องงัดมาตรการเพื่อดึงดูดแรงงาน โดยนอกจากการเพิ่มค่าตอบแทนให้พนักงานแล้ว ผู้เชี่ยวชาญแนะว่า การทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ก็เป็นแรงจูงใจที่สำคัญเช่นเดียวกัน

 

สำหรับการสำรวจเรื่องค่าตอบแทนครั้งนี้ จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักข่าว AP กับ Equilar โดยรวบรวมข้อมูลการจ่ายเงินสำหรับผู้บริหารหรือซีอีโอจำนวน 340 คนในบริษัทชั้นนำในตลาด S&P 500 ซึ่งดำรงตำแหน่งอย่างน้อย 2 ปีงบประมาณในบริษัทของตน ส่งผลให้ซีอีโอชื่อดังบางรายไม่มีชื่อปรากฏอยู่ในการสำรวจครั้งนี้ เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์ ยกตัวอย่างเช่น แอนดี้ แจสซี แห่ง Amazon และ พารัก อักราวาล แห่ง Twitter  อีกทั้งแบบสำรวจนี้ไม่นับการเปลี่ยนแปลงในมูลค่าผลประโยชน์บำเหน็จบำนาญของซีอีโอ และรายการอื่นๆ ในยอดรวมของค่าตอบแทน

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X