ต้องยอมรับว่าช่วงหน้าร้อนของเมืองไทยนั้นเป็นช่วงที่อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเตือนทุกคนว่าช่วงนี้อาจเกิดภาวะขาดน้ำได้ ซึ่งมีการแนะนำให้คนในครอบครัวดูแลกัน และควรหมั่นดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และกระตุ้นให้ดื่มทุกชั่วโมงอย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องรอกระหาย โดยเฉพาะในวัยผู้สูงอายุที่มักจะดื่มน้ำน้อย มักเสี่ยงเป็นภาวะขาดน้ำมากที่สุด
นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย แนะนำว่าในช่วงหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้น อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายของผู้สูงอายุสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ผู้ดูแลจึงควรจัดหาน้ำสะอาดไว้ให้ผู้สูงอายุดื่มอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และกระตุ้นให้ดื่มทุกชั่วโมงอย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องรอกระหาย โดยสามารถจัดหาแก้วที่มีหูจับหรือสะดวกในการใช้ หรือให้ดูดจากหลอด ด้วยการวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะข้างเตียง ไม่ควรให้ผู้สูงอายุดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายขาดน้ำมากยิ่งขึ้น แต่ในกรณีที่ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว อาทิ ไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจ ควรดื่มน้ำตามปริมาณที่แพทย์ผู้รักษาแนะนำ
สำหรับการป้องกันความเสี่ยงของผู้สูงอายุจากความร้อน ทำได้โดยให้ผู้สูงอายุอยู่ในบ้านพัก อาคาร หรือสถานที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ หรือหากไม่มีเครื่องปรับอากาศ แนะนำใช้พัดลม เปิดให้ห่างจากตัว อย่าหันพัดลมเป่าเข้าตัวโดยตรง ให้เปิดพัดลมแบบส่าย เปิดประตู-หน้าต่างเพื่อระบายอากาศ หากอากาศร้อนจัดควรหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน แต่หากจำเป็นควรสวมหมวก เสื้อแขนยาวมีสีอ่อน กางเกงขายาว หลวม น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี กางร่มเพื่อป้องกันแสงแดด และพกน้ำดื่มติดตัวตลอดเวลา ทั้งนี้ ผู้ดูแลควรสังเกตอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับความร้อน หากพบอาการ เช่น ตะคริว หน้ามืด เป็นลม อ่อนเพลียมาก หรือซึมสับสน ให้รีบติดต่อสายด่วน 1669 แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือพาไปพบแพทย์ทันที
อ้างอิง: