เจ้าของกิจการทุกคนต่างทราบดีว่า กว่าจะสร้างร้านขึ้นมาเสร็จแต่ละร้าน ไม่ใช่เรื่องของอาหารเท่านั้น ตั้งแต่โลโก้ หน้าตาร้าน เมนูอาหาร ไปจนถึงเสื้อผ้าพนักงาน ต่างล้วนเป็นการสร้างแบรนดิ้งที่ก็อาศัยความพิถีพิถันทุกขั้นตอน ถ้าเจอใครที่ทำใกล้เคียงก็อาจจะทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนได้
เช่นเดียวกับกรณีของ In-N-Out แบรนด์ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสัญชาติอเมริกันที่ล่าสุดได้มีการยื่นฟ้องร้องต่อ Doll n’ Burgers ร้านเบอร์เกอร์จากมิชิแกนที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ด้วยเหตุผลที่ว่า Doll n’ Burgers มีการออกแบบเหมือนร้านตนเองมากเกินไป
In-N-Out เป็นฟาสต์ฟู้ดเชนขวัญใจมหาชน แต่ในด้านของเรื่องคดีความต่างๆ ทางแบรนด์ก็มีชื่อเสียงด้านนี้เช่นกันจากการฟ้องคู่กรณีต่างๆ ด้วยความต้องการที่จะปกป้องความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยครั้งนี้ทาง In-N-Out ให้เหตุผลว่า “ร้านคู่กรณีออกแบบด้วยชุดสีขาว แดง เหลือง รวมถึงภายนอกสีขาวแดงในสาขา Tecumseh บนถนน Eat Chicago Boulevard ด้านการตกแต่งภายในได้ใช้ผนังสีขาวคาดแดง เคาน์เตอร์สีเทา และเฟอร์นิเจอร์หลักเป็นสีแดง” นอกจากนี้ยังลงรายละเอียดไปถึงชุดพนักงาน หรือตัว ‘N’ กลางชื่อร้าน และเลย์เอาต์ของเมนู ซึ่ง In-N-Out แจ้งว่าเหมือนกันการออกแบบของแบรนด์ที่ได้จดทะเบียนไว้กับสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐฯ (U.S. Patent and Trademark Office)
ในตอนนี้ทนายความของทาง In-N-Out ได้มีการยื่นข้อเสนอให้ทาง Doll n’ Burgers เปลี่ยนภาพลักษณ์ของร้านแต่ทางผู้ก่อตั้ง Justin Dalenberg ได้ปฏิเสธ โดยกล่าวว่าชื่อร้านเป็นการเล่นคำแผลงมาจากนามสกุลของเขา และทั้งเขาและพ่อของเขาฝันมาตลอดว่าอยากเปิดร้านเบอร์เกอร์สไตล์คลาสสิก ที่มีบริการแบบ Drive-Thru และโฟกัสกับรสคลาสสิกมาตลอด
รายงานจาก The Daily Telegram บอกว่า การไต่สวนควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่ในเดือนพฤศจิกายน แต่ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน ความน่าสนใจคือทีมทนายของทั้งสองร้านได้มีการยื่นตัวเลขจากผลสำรวจว่าชาวอเมริกันกี่เปอร์เซ็นต์ที่สับสนกับทั้งสองแบรนด์เพราะมีความเหมือนกันมากเกินไป ปรากฏตัวเลขออกมาจากฝั่ง In-N-Out เท่ากับ 49.3% ในขณะที่ฝั่ง Doll n’ Burgers สำรวจได้ 0% ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป
ภาพ: Shutterstock และ https://www.facebook.com/dollnburgers/
อ้างอิง: