เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริได้ดำเนินการจองซื้อวัคซีนทางเลือก Moderna วัคซีนป้องกันโควิดชนิด mRNA ที่มีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสกลายพันธุ์จากโรงพยาบาลเอกชน จำนวน 5,000 โดส มูลค่า 8.5 ล้านบาท เพื่อเป็นวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับพนักงานทุกคนของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน), บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัทในเครือเรียบร้อยแล้ว
โดยคาดว่าจะเริ่มฉีดให้กับพนักงานได้ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 – มกราคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้รับมือการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะพนักงานทุกคนได้รับซิโนฟาร์มครบ 2 เข็มแล้ว และมีระยะห่างจากวัคซีนเข็มที่ 2 ประมาณ 3-4 เดือน
เศรษฐากล่าวต่อว่า สถานการณ์การระบาดของโควิดในประเทศไทยกำลังเป็นที่จับตาเพราะจำนวนผู้ป่วยโควิดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ วันนี้แม้ว่าพนักงานของแสนสิริและบริษัทในเครือ ตลอดจนครอบครัวพนักงานจะได้รับวัคซีนทุกคนแล้ว แต่การเตรียมพร้อมเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าต่อไปสถานการณ์จะเป็นอย่างไรหรือไวรัสจะกลายพันธุ์เป็นกี่สายพันธุ์
ดังนั้น การที่แสนสิริจองซื้อ Moderna ซึ่งเป็นวัคซีน mRNA ที่มีคุณภาพและป้องกันโควิดหลากหลายสายพันธุ์ใหม่ ทั้งสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) อัลฟา (อังกฤษ) และเบตา (แอฟริกาใต้) รวมถึงครอบคลุมการกลายพันธุ์อื่นๆ ต่อไปในอนาคต มาเป็นวัคซีนเข็มที่ 3 จึงเป็นเหมือนเกราะกำบังเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อของพนักงานได้อีกทางหนึ่ง
“ปัจจุบันการได้รับวัคซีนเร็วที่สุดและทั่วถึงที่สุดไม่เพียงพอ วัคซีนที่ได้จะต้องเป็นวัคซีนที่สามารถรับมือการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิดอย่างมีประสิทธิภาพด้วย”
เศรษฐามองว่า การฉีดวัคซีน mRNA จะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มั่นใจว่าพนักงานของแสนสิริจะปลอดภัยมากขึ้นและองค์กรจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างเต็มความเร็วและเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้แสนสิริบรรลุเป้ายอดขายปีนี้ให้ได้ 31,000 ล้านบาท และยอดโอน 31,000 ล้านบาท ที่ได้วางไว้