ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯ เผย มีความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างอาการอักเสบที่หัวใจในผู้มีอายุน้อยกับการรับวัคซีนชนิด mRNA แต่ยืนยันว่าพบได้ยาก

คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการสร้างภูมิคุ้มกันของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) เปิดเผยโดยอ้างอิงข้อมูลล่าสุดว่ามี ‘ความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้’ ระหว่างอาการอักเสบที่หัวใจซึ่งพบได้ยากในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดหลังการรับวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA โดสที่สองของ Moderna หรือ Pfizer-BioNTech

โดยข้อมูลจากเอกสารนำเสนอที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมาสำหรับการประชุมของคณะกรรมการที่ปรึกษาชุดดังกล่าวระบุว่า พบผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบรวม 1,226 กรณี จากการฉีดวัคซีนสองยี่ห้อดังกล่าวไปราว 300 ล้านโดส (ข้อมูลถึงวันที่ 11 มิถุนายน 2021) โดยมากเป็นผู้ที่มีอาการในสัปดาห์แรกหลังรับวัคซีนโดสที่สอง ข้อมูลยังระบุว่าผู้ที่มีอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี และส่วนใหญ่เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง

CDC ยังระบุ ‘ข้อมูลเบื้องต้น’ ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า ในกลุ่มผู้มีอายุน้อยกว่า 30 ปีจำนวนหนึ่งที่เข้ารับวัคซีนชนิด mRNA ดังกล่าวแล้วพบอาการข้างต้นอาการใดอาการหนึ่งหรือทั้งสองอาการตามเกณฑ์ที่กำหนด มี 309 รายที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และในจำนวนนี้ 295 รายออกจากโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่ 9 รายยังอยู่ในโรงพยาบาล และ 2 จาก 9 รายนี้อยู่ในห้อง ICU

อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าวยังถือว่าพบได้ยาก โดยสำหรับผู้มีอายุ 12-39 ปี หลังรับวัคซีนโดสที่สองภายใน 21 วัน พบกรณีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบอยู่ที่ 12.6 กรณีต่อ 1 ล้านโดสสำหรับวัคซีนทั้งสองชนิดรวมกัน และหากแยกชนิดวัคซีนจะพบว่าวัคซีนของ Moderna จะพบกรณีดังกล่าวได้มากกว่า โดยมีจำนวนกรณีอยู่ที่ 19.8 กรณีต่อ 1 ล้านโดส ส่วนวัคซีนของ Pfizer พบอยู่ที่ 8 กรณีต่อ 1 ล้านโดส

ด้าน ดร.ทอม ชิมาบุคุโระ รองผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัยในการสร้างภูมิคุ้มกันของ CDC ระบุว่า ในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากขึ้น อาการเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะไม่ปรากฏ เช่น ในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนเจ้าหน้าที่ของ CDC ยืนยันว่า ประโยชน์ของการรับวัคซีนยังคงมีน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยง

หลังการประชุมดังกล่าว กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ที่ลงนามโดย CDC และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายกลุ่ม เพื่อยืนยันว่าอาการทางหัวใจดังกล่าวนั้นพบได้ยากมาก และจะมีคนจำนวนน้อยมากที่พบกับอาการนี้หลังการรับวัคซีน และที่สำคัญคือในกลุ่มผู้มีอายุน้อยที่พบอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อย และหลายคนหายได้เองหรืออาศัยการรักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“นอกจากนี้ เรายังทราบว่าโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบนั้นพบได้มากขึ้นหากคุณติดเชื้อโควิด-19 และความเสี่ยงต่อหัวใจจากการติดเชื้อโควิด-19 อาจร้ายแรงมากกว่า” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ

อนึ่ง CDC ได้สอบสวนกรณีการอักเสบที่หัวใจที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในชายอายุน้อยมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยระบุว่ายังคงประเมินความเสี่ยงจากอาการดังกล่าว และไม่ได้ยืนยันความสัมพันธ์ในเชิงสาเหตุระหว่างวัคซีนและอาการกลุ่มดังกล่าวเป็นการเฉพาะแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม CDC บอกว่ามีชายอายุ 12-24 ปีที่พบกับอาการอักเสบที่หัวใจดังกล่าวหลังรับวัคซีนโดสที่สองมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ CDC กำลังประสานงานการสอบสวนกับสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ด้วย และล่าสุด FDA ก็ยืนยันว่ากำลังมีการวางแผนที่จะเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับอาการทางหัวใจดังกล่าวในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ตอนต้นในเอกสารข้อมูล (Fact Sheet) ที่กำกับวัคซีนของ Moderna และ Pfizer-BioNTech

ด้าน Pfizer ออกแถลงการณ์ว่าได้รับทราบรายงานการเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบหลังการรับวัคซีน mRNA แล้ว ข้อมูลด้านผลได้-ความเสี่ยงของวัคซีนของบริษัทยังคงอยู่ในเชิงบวก ขณะที่ Moderna ระบุว่าได้รับทราบรายงานการเกิดอาการกลุ่มดังกล่าวหลังการการรับวัคซีน mRNA แล้วเช่นกัน และกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแล

ภาพ: Thiago Prudêncio / SOPA Images / LightRocket via Getty Images

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง: