นอกเหนือจากความสามารถในการรองรับเทคโนโลยีการสื่อสาร 5G หลังๆ มานี้ ค่ายสมาร์ทโฟนชั้นนำทั่วโลกเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมรูปทรงตัวเครื่องให้มีความแตกต่างและฉีกกฎความเป็นมือถือมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งมือถือจอพับได้ (พับลงจากบนลงล่าง กางพับเข้าออกจากซ้าย-ขวา) หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนจอยืด-หด ซึ่งหลักๆ ก็เป็นเหตุผลในแง่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้ ที่ต้องการได้ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว
ฟาก OPPO ค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติจีน หลังจากที่ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนจอยืด-หดได้โมเดลคอนเซปต์ (Rollable Concept Phone) หรือ OPPO X 2021 ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มาวันนี้ (25 กุมภาพันธ์) OPPO ประเทศไทยก็ได้นำสมาร์ทโฟนตัวโปรโตไทป์ในโมเดลดังกล่าวมาจัดแสดงให้กับสื่อมวลชนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก
สำหรับ OPPO X 2021 เป็นสมาร์ทโฟนจอยืดได้ที่ทาง OPPO ได้พัฒนาขึ้นมา โดยสามารถยืดจากสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว เป็นสมาร์ทโฟนกึ่งแท็บเล็ตที่มีขนาด 7.4 นิ้ว ด้วยการสไลด์ปุ่มพาวเวอร์บริเวณด้านข้างตัวเครื่อง ผ่านการทดสอบการยืด-หดว่าสามารถทำได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 ครั้ง (รองรับการใช้งานเฉลี่ยที่ประมาณ 5 ปี 6 เดือน และใช้งานแบบหนักหน่วงที่ราว 2-3 ปี)
ชานนท์ จิรายุกุล ประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายบริหาร ออปโป้แห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า จุดเด่นของ OPPO X 2021 คือการที่ OPPO พบเพนพอยต์ของสมาร์ทโฟนจอพับที่มักจะมี ‘รอยพับ’ บริเวณกลางจอ ซึ่งทำให้เสียอรรถรสในการใช้งานเสพสื่อความบันเทิงต่างๆ ด้วยเหตุนี้ OPPO จึงแก้ปัญหาด้วยการหันมาใช้นวัตกรรมจอยืด-หดได้แทน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้พัฒนามานานกว่า 10 ปี
จากการเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นนั้น OPPO X 2021 จะใช้กลไกของมอเตอร์จำนวน 2 ตัวในการทำให้หน้าจอของตัวเครื่องยืด-หดได้อย่างลื่นไหล ซึ่งเป็นกลไกมอเตอร์ที่มีความเสถียรมากๆ (หากมอเตอร์ตัวใดตัวหนึ่งไม่เสถียร จออาจจะได้รับความเสียหาย) มีเทคโนโลยีหรือชิ้นส่วนยึดแบบ Wrap Track Laminate ยึดจอไม่ให้หักหรือย่น
อย่างไรก็ดี เนื่องจากยังเป็น ‘Concept Phone’ หรือตัวต้นแบบ OPPO จึงยังไม่สามารถลงลึกให้ข้อมูลใดๆ ได้มากกว่านี้ โดยบอกเพียงแค่ว่ามีแพลนจะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแน่นอนในรูปแบบของการเปิดให้ซื้อได้ทั่วไป ไม่มีการจำกัดจำนวนโมเดลที่ขาย หรือต้องสั่งจองล่วงหน้า เพียงแต่ยังไม่สามารถระบุกรอบเวลากำหนดการจำหน่ายที่ชัดเจนได้ เนื่องด้วยเหตุผลของการพัฒนา และการเกลี่ยเฉลี่ยแบ่งเทียร์สมาร์ทโฟนของบริษัทใหม่ซึ่งมีรายละเอียดซับซ้อน
โดยนอกเหนือจาก OPPO X 2021 ชานนท์ยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่ OPPO จะเปิดตัวโมเดลแรกในปีนี้จะเป็น OPPO Find X3 Series ซึ่งเป็นหนึ่งในความตั้งใจของแบรนด์ที่จะลุยตลาดสมาร์ทโฟน ‘แฟกชิป’ อย่างจริงๆ จังๆ หลังจากที่ได้รุกตลาดนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี เนื่องจากก่อนหน้านี้ กลยุทธ์หลักของ OPPO จะเน้นการทำตลาดในกลุ่มสมาร์ทโฟนฐานกลางและล่างเป็นส่วนใหญ่
“กลยุทธ์ของแต่ละแบรนด์ในการทำตลาดจะไม่เหมือนกัน อย่างของ OPPO เราไม่ได้เดินมาจากแฟลกชิป แต่จะเน้นการบุกฐานสมาร์ทโฟนกลุ่มกลางและล่างให้แน่นจนเกิดความพร้อม แล้วจึงเข้ามาทำตลาดแฟลกชิป ซึ่งตอนนี้ถ้าเราทำตลาดนี้ของเราให้แข็งแกร่งได้สำเร็จเมื่อไร เราก็จะขึ้นเป็นเจ้าตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศได้อย่างมั่นคง”
ปัจจุบัน สมาร์ทโฟนของ OPPO ที่จำหน่ายในไทยมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 7 โมเดล (ไม่นับรุ่นย่อยในซีรีส์) มีเรนจ์ราคาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่รุ่นที่เจาะตลาดฐานล่างที่ 4,000 บาท ไปจนถึงรุ่นแฟลกชิปที่สนนราคาราว 40,000 บาท ครองส่วนแบ่งในกลุ่มประเทศ SEA ในอันดับที่ 1 และ 5 เมื่อนับทั้งตลาดโลก
ส่วนภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนในปีที่ผ่านมานั้น แม่ทัพของ OPPO บอกกับเราว่า ‘หดตัว’ พอสมควร โดยทั้งในแง่ของจำนวนเครื่องที่ขาย และมูลค่าทั้งตลาดมีอัตราการหดตัวที่ราว 20% จากเหตุผลสองประการคือ ตลาดสมาร์ทโฟนไทยไม่โตมาสักระยะแล้ว ประกอบกับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งถึงแม้ปีที่ผ่านมา หลายแบรนด์จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G เข้าสู่ตลาด แต่ชานนท์ยืนยันว่า แรงสะท้อนของมือถือ 5G ในเชิงภาพรวมนั้น ‘ยังมองเห็นได้ไม่ชัด’ โดยเฉพาะในแง่การดันยอดขายในตลาด
“สำหรับ OPPO เอง ในปีที่ผ่านมายังไม่ถือว่าท็อปฟอร์ม เรียกว่าอยู่ในสเตจการรักษาตัวมากกว่า เช่นเดียวกับอีกหลายๆ เจ้า แต่โชคดีที่เราอยู่ในอุตสาหกรรมที่เป็นเทรนด์ ถึงจะได้รับผลกระทบ แต่ก็ไม่มากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น” ชานนท์กล่าว
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
