อาจเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ทำงานจากที่บ้าน จึงไม่ได้ซื้อกาแฟที่ร้านก่อนเดินเข้าไปในออฟฟิศเหมือนช่วงปกติ ทำให้ข้อมูลจากบริษัทวิจัยและที่ปรึกษา Allegra World Coffee Portal ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ได้ทำลายมูลค่าการซื้อขายในร้านกาแฟแบรนด์ดังเกือบ 1 ใน 4 ในปีผ่านมา และคาดว่าต้องใช้เวลา 3 ปี หรือในปี 2023 มูลค่าถึงจะกลับมาเท่ากับก่อนช่วงระบาด
มีการประเมินว่า ยอดขายที่ร้านกาแฟแบรนด์ดังในสหรัฐอเมริกาซึ่งรวมไปถึงแบรนด์ที่คุ้นหูอย่าง Starbucks, JDE Peet’s และ Dunkin’ Brands ลดลง 24% ในปีที่แล้ว เหลือราว 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.09 ล้านล้านบาท และในปีนี้คาดว่าจะเติบโตเป็น 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าปี 2019
ขณะเดียวกันมีการประเมินว่า มีร้าน 208 แห่ง จากทั้งหมด 37,189 แห่งที่มีแบรนด์ ที่ได้ปิดตัวลงอย่างถาวรในปีที่ผ่านมา
“ตลาดร้านกาแฟในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับสภาพแวดล้อมการค้าที่เลวร้ายที่สุดในความทรงจำของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป การฉีดวัคซีนจำนวนมาก และผู้ประกอบการต่างปรับตัวเข้ากับรูปแบบการซื้อขายใหม่อย่างรวดเร็ว ทำให้สถานการณ์มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว” เจฟฟรีย์ ยัง (Jeffrey Young) ซีอีโอของ Allegra Group กล่าว
“เราคาดว่าการซื้อขายจะเริ่มมีเสถียรภาพตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2021 อย่างไรก็ตามจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าผู้ประกอบการจะปรับตัวเข้าสู่ ‘ภาวะปกติใหม่’ ได้อย่างสมบูรณ์”
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
