นอกเหนือจากจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งทำเลดีใจกลางแยกราชประสงค์แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เซ็นทรัลเวิลด์คือหมุดหมายปลายทางสำหรับทุกๆ วันของคนเมือง คือเหล่าบรรดาร้านอาหารรสเยี่ยม ที่ทางทีมงานได้รวบรวมไว้อย่างครบครันทุกประเภท ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกินสายไหน ที่นี่ก็มีทางเลือกให้คุณเสมอ
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563 เซ็นทรัลเวิลด์ได้จัดงานเปิดตัวคอนเซปต์ใหม่ Endless Discovery World of Food ชูจุดเด่นการเป็นศูนย์การค้าที่เป็น The Biggest Food Destination แหล่งรวมร้านอร่อยและใหญ่ที่สุดในโลก ที่รวบรวมร้านอาหารเอาไว้มากถึง 215 ร้าน ที่ทางทีมงานบอกว่าพื้นที่ของร้านอาหารภายในเซ็นทรัลเวิลด์รวมกันได้กว่า 46,000 ตารางเมตร หรือเทียบเท่า 3 สนามฟุตบอลเลยทีเดียว ซึ่งภายในงานได้มีการเปิดตัวเมนูจากร้านอาหารทั้งร้านเจ้าเก่าในตำนานสุดคลาสสิก ร้านสตรีทฟู้ดเจ้าดังการันตีความอร่อยโดยมิชลินไกด์ ไปจนถึงคาเฟ่น้องใหม่ และชานมไข่มุกในตำนานเจ้าแรกของโลก พร้อมให้สายกินได้เปิดประสบการณ์ได้อย่างเต็มอิ่ม โดยแบ่งประเภทร้านอาหารเอาไว้สำหรับ 8 สายกิน ส่วนไฮไลต์จะมีร้านไหนกันบ้าง THE STANDARD POP รวบรวมมาฝากกันแล้ว
- สายแข็ง ชาบู-ปิ้งย่าง
พูดถึงเรื่องของกินเราขอเริ่มกันที่สายแข็งก่อน อย่างร้านชาบู-ปิ้งย่าง ที่นี่มีมากถึง 14 ร้าน แบ่งเป็นชาบู-สุกี้ยากี้ 9 ร้าน และปิ้งย่างทั้งหมด 5 ร้าน ซึ่งในจำนวนร้านที่เลือกมายังตอบโจทย์ทุกทางเลือก ไม่ว่าคุณจะรักเนื้อ หรือเป็นสายสุขภาพ ก็พบกับร้านเด็ดๆ ได้เลย อย่างเช่น Shabushi, Charna, MK Live, Momo Paradise Gold, Tajima Yakiniku, Haidilao และล่าสุด Sukishi Prime ที่เปิดตัว Korean Omakase เป็นครั้งแรก
- สายมิชลิน (Michelin Star & Michelin Guide)
เมื่อไกด์บุ๊กปกสีแดงประกาศรางวัลในแต่ละปี ถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับสายกินว่า เราจะต้องไปตามชิมร้านอาหารที่ถูกแนะนำโดยไกด์เล่มนี้กันให้ครบ ซึ่งเซ็นทรัลเวิลด์ได้รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ และถูกแนะนำโดยมิชลินไกด์เอาไว้รวม 9 ร้าน ตั้งแต่ร้านอาหารจีนแสนยอด ร้านอาหารสมบูรณ์โภชนา กระทั่งสตรีทฟู้ด ‘จกโต๊ะเดียว’ สตรีทฟู้ดเจ้าดังที่ว่ากันว่าคิวยาวจองยากเย็นเป็นที่สุด แต่ไม่ต้องไปถึงเยาวราช เพราะจกโต๊ะเดียวมีสาขาแล้วที่เซ็นทรัลเวิลด์
และที่ห้ามพลาดเลยก็คือสองร้านระดับมิชลินสตาร์ ที่กำลังจะมาเปิดเป็นครั้งแรกในไทยอย่าง Tsuta (ซึตะ) ร้านราเมนร้านแรกของโลก และร้านแรกของญี่ปุ่น การันตีความอร่อยด้วย 1 ดาวมิชลิน เมื่อปี 2015 เตรียมเปิดวันที่ 22 ธันวาคมนี้ และ Kam’s Roast Goose ร้านห่านย่างเจ้าดังจากฮ่องกงระดับ 1 ดาวมิชลินถึง 5 ปีซ้อนที่เตรียมเปิดในเดือนมกราคม 2564
- สายคาเฟ่-ของหวาน (Cafe Society & World of Dessert)
สายคาเฟ่ไม่ควรพลาด ที่นี่รวบรวมแบรนด์กาแฟเอาไว้มากมายเยอะที่สุดถึง 100 ร้าน จากแบรนด์ดังๆ ทั้งนั้น อาทิ The Coffee Academics, Host & Amber, Roast, Pacamara, Red Diamond รวมถึง Starbucks Reserve Café สาขาใหญ่ที่สุดของไทย ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากจีน ส่วนหากใครไม่ใช่สายกาแฟ ต้องบอกเลยว่าเซ็นทรัลเวิลด์จริงจังเรื่องชานมมาก เพราะที่นี่มีร้านชานมไข่มุกมากถึง 18 ร้าน อย่าง Xing Fu Tang, GAGA, Fire Tiger by Seoulcial Club แต่ฮอตที่สุดในเวลานี้ต้องยกให้ TP TEA ร้านชานมไข่มุกเจ้าแรกของโลกจากไต้หวัน ที่มาเปิดสาขาแรกในเมืองไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมานี้เอง
สำหรับสายหวาน เซ็นทรัลเวิลด์มีร้านของหวานมากถึง 59 ร้าน และไม่มีทีท่าจะหยุดอยู่แค่นั้น หากใครเป็นสายขนม ไอศกรีม คุณมีทางเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Divana ForRest Cafe, After You, Quints Ice Cream รวมถึงของหวานรักสุขภาพอย่าง Yomie’s x Rice Cafe หรือ Acai Story
- สายอินเตอร์ (Asian Lifestyle & Inter’ Food)
ที่นี่รวบรวมอาหารเอาไว้หลากหลายสัญชาติ แถมลำพังแค่อาหารจีนยังมีให้เลือกหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารจีนจากหูหนาน กวางตุ้ง หรือเสฉวน โดยมีร้านดัง อาทิ La Meow กับเมนูไก่ทอดพริกเสฉวนรสเด็ด, เอี่ยวไถ่ อาหารจีนสไตล์หูหนาน หรือจะติ่มซำจาก Zheng Dou Grand นอกจากอาหารจีนแล้วยังมีร้านอาหารญี่ปุ่น เกาหลี และอิตาเลียน ให้เลือกเยอะมาก หรือใครชอบอาหารเอเชียที่ไม่ได้หาทานง่าย ที่นี่ก็ยังมีเมนูนาซิเลอมัก สไตล์มาเลเซีย-สิงคโปร์ ให้ลองชิมที่ Chuan Kitchen ด้วยเช่นกัน
- สาย Thai Taste
พูดถึงอาหารนานาชาติกันไปแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือร้านอาหารไทยบ้านเรา ที่มีให้เลือกแบบเหนือจรดใต้ ทั้งร้านสุดคลาสสิกอย่าง กัลปพฤกษ์ และตะลิงปลิง ไปจนถึงร้านอาหารใต้น้องใหม่ที่กำลังมาแรง เสือใต้ และร้านอาหารอีสานขวัญใจเด็กสยามอย่าง ส้มตำนัว ชอบภาคไหนเลือกได้เลย
- สายกินง่ายๆ กินเร็ว เน้นจานเดียว (Quick Service Restaurant, Food World, Live House)
เซ็นทรัลเวิลด์มีอาคารสำนักงานอยู่ด้วยกันถึงสองอาคาร คือบริเวณชั้นบนของ Zen และอาคาร The Office @CentralWorld ที่นี่จึงรวบรวมร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารจานไว เพื่อตอบโจทย์มื้อกลางวันสำหรับพนักงาน หรือใครก็ตามที่มีเวลาน้อย ซึ่งต่อให้เป็น Quick Meal อย่างไร แต่ละร้านก็เด็ดไม่แพ้กัน อย่าง Thai Terrace, ร้านกะเพรายอดฮิต Easy! Buddy, ร้านสำหรับสายปาร์ตี้ที่จริงจังเรื่องอาหาร O:T หรือแม้แต่อาหารอินเดียอย่าง MRS. Balbir’s
- สายปาร์ตี้แฮงเอาต์ (Everyday Hangout & Exquisite Bar)
นอกจากอาหารการกินแล้ว สำหรับสายปาร์ตี้ก็ไม่ต้องห่วง เพราะที่นี่รวบรวมร้านกินดื่มยอดฮิตเอาไว้มากถึง 15 ร้าน ตอกย้ำความเป็น Hangout Destination Landmark ที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยร้านอย่าง HOBS, ชงเจริญ, กิน+เฮ, Wine Connection, Wine I Love You, Everseoul O:T, Hiyaku และล่าสุดกับ The Cassette Music Bar, ร้านดังโค-ลิมิเต็ด และ Spanish Tapas Bar ที่เตรียมเปิดเร็วๆ นี้
- สายครีเอทีฟคุกกิ้ง (Creative Cooking)
เซ็นทรัลเวิลด์ยังเป็นที่ตั้งของสองโรงเรียนสอนทำอาหารอย่าง ABC Cooking Studio สตูดิโอสอนทำอาหารที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และ Le Cordon Bleu Dusit สถาบันสอนทำอาหารระดับโลก ระดับไอวีลีกของสายอาหาร เปิดสอน 20 ประเทศทั่วโลก โดยในเอเชียมี 9 สาขา ใน 8 ประเทศ และมีสาขาหนึ่งเดียวในไทยที่เซ็นทรัลเวิลด์
นอกจากนี้ภายในเดือนธันวาคม 2563 ถึงมกราคม 2564 คุณกำลังจะได้พบกับร้านอาหารใหม่กว่า 10 ร้านดังจากต่างประเทศ เท่านี้ก็ยืนยันได้แล้วว่า เซ็นทรัลเวิลด์คือตัวจริงเรื่องกิน เพราะเขาคือ The Biggest Food Destination จริงๆ
สแกนเพื่อรับไฟล์ CentralWorld Food Bible ตอบทุกคำถามเรื่องกินที่เซ็นทรัลเวิลด์
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์