วันนี้ (8 พฤศจิกายน) เมียนมามีกำหนดเปิดคูหาเลือกตั้งผู้นำประเทศอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นการเลือกตั้งสำคัญครั้งที่ 2 ภายหลังการปกครองภายใต้ระบอบเผด็จการทหารที่ปกครองเมียนมายาวนานกว่า 50 ปี เมื่อปี 2015 พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ที่นำโดย ออง ซาน ซูจี ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย เหนือ พล.อ. เต็ง เส่ง จากพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) จัดตั้งรัฐบาลพลเรือนได้สำเร็จในท้ายที่สุด คาดว่าในปีนี้ พรรค NLD ของออง ซาน ซูจี จะคว้าชัยได้อีกสมัย
ถึงแม้ว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลเมียนมาภายใต้การนำของออง ซาน ซูจีในฐานะที่ปรึกษาประเทศและรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาจะเผชิญกับการตั้งคำถามเรื่องประเด็นสิทธิมนุษยชน จากกรณีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุชาวโรฮีนจา จนเกิดเป็นกระแสธารมนุษย์อพยพเพื่อเอาชีวิตรอดและกลายเป็นวิกฤตด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่
ประกอบกับเมียนมากำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากที่มีผู้ป่วยรายใหม่ราว 100 รายต่อวัน เพิ่มขึ้นสูงสุดกว่า 2 พันรายภายในวันเดียว เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในเมียนมาพุ่งสูงขึ้นกว่า 60,300 รายแล้ว เสียชีวิตแล้วเกือบ 1,400 ราย แต่กระนั้นทางการเมียนมาก็ยังคงเดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไป โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนกระบวนการประชาธิปไตยภายในเมียนมาได้
และถึงแม้ว่า ออง ซาน ซูจี จะยังคงไม่สามารถก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำประเทศได้อย่างสมบูรณ์ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ เนื่องจากยังมีข้อจำกัดบางประการที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่หลายฝ่ายเชื่อว่ากระบวนการถ่ายโอนอำนาจจากกองทัพสู่พลเรือนและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในเมียนมาจะยังคงดำเนินต่อไป หากเธอและพรรค NLD ชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในวันนี้
ภาพ: Lauren DeCicca / Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2020/11/06/asia/myanmar-election-2020-suu-kyi-intl-hnk/index.html
- https://www.economist.com/asia/2020/11/07/aung-san-suu-kyi-was-supposed-to-set-burmese-democracy-free
- https://www.npr.org/2020/11/07/930731494/suu-kyis-party-expected-to-win-myanmar-election-amid-minorities-disenfranchiseme