แพทย์ทำเนียบขาวเผย ทรัมป์อาจออกจาก รพ. ได้วันจันทร์นี้, ภาคบริการญี่ปุ่นเริ่มฟื้น แม้ท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (5 ต.ค. 2563)

จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้สหรัฐฯ มีกำหนดประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมจากสถาบัน ISM (ISM Manufacturing PMI) ประจำเดือนกันยายน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 56.3 จุด ลดลงกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 56.9 จุด แต่ยังคงอยู่ในแดนขยายตัวที่ 50.0 จุดเป็นเดือนที่ 4 หลังผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

สำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเตรียมที่จะสอบสวนเวียดนามใน 2 ประเด็น อันประกอบไปด้วย ประเด็นการแทรกแซงค่าเงินดองให้อ่อนค่าลง เพื่อช่วยให้ได้เปรียบด้านการส่งออก หลังจากเวียดนามได้ดุลการค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และประเด็นการค้าไม้ผิดกฎหมาย ซึ่งกระทบต่อธุรกิจค้าไม้ของสหรัฐฯ ทางด้านเวียดนามตอบโต้ท่าทีดังกล่าวระบุว่า ธนาคารกลางเวียดนามยังคงทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพด้านค่าเงินตามปกติ และไม่มีอัตราแลกเปลี่ยนแบบจำเพาะที่จะทำให้เวียดนามได้ดุลการค้าแต่อย่างใด

นายแพทย์ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำทำเนียบขาว แถลงต่อสื่อมวลชนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาการดีขึ้น และคาดว่าจะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ภายในวันจันทร์นี้ หากอาการยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ช่วงเช้าที่ผ่านมา ญี่ปุ่นประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการจากสถาบัน Markit (Markit Services PMI) ประจำเดือนกันยายนออกมาที่ 46.9 จุด ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 45.6 จุด และเป็นระดับที่หดตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาวะการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว แต่เริ่มมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น หลังการปลดคนงานลดลงสู่ระดับปกติ

องค์กรการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ออกแถลงการณ์ว่า การปิดเมืองในช่วงที่ผ่านมา และการห้ามเดินทางระหว่างประเทศในปัจจุบันเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นกำลังส่งผลให้ยอดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศหดตัวลงถึง 60-80% ในปี 2020 ขณะที่ยอดส่งออกจะลดลงประมาณ 910,000-1.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ผู้ที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวกว่า 100 ล้านคนเสี่ยงที่จะตกงาน อย่างไรก็ตามวิกฤตที่เกิดขึ้นถือเป็นโอกาสในการปฏิรูปการท่องเที่ยว นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวและธุรกิจท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ สร้างระบบนิเวศการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ตลอดจนพัฒนาและลงทุนในการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ภาวะตลาดวานนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตรวจพบโควิด-19 ซึ่งสร้างความกังวลในความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ออกมาเพิ่มขึ้น แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แสดงถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังอ่อนแออยู่ สวนทางกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาอ่อนแอก็ตาม แต่นักลงทุนยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ จากตัวเลขเงินเฟ้อที่เข้าสู่แดนลบในเดือนกันยายน (YoY)

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากปัจจัยจำนวนผู้ติดโควิด-19 ที่ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลต่อปริมาณความต้องการใช้น้ำมัน และอาจทำให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ส่งผลให้ราคาทองคำแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น รวมทั้งปัจจัยที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ติดโควิด-19 ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน เพื่อจับตาดูสถานการณ์

สหรัฐฯ