ร้านนี้เกิดจากการจับมือกันระหว่าง คุณตี๋-นภัทร เลิศเสาวภาคย์ ทายาทของร้านนายโส่ย และคุณพึ่ง-ณัฐพร เทพรัตน์ หุ้นส่วนสาวผู้เติบโตขึ้นมาในละแวกย่านเจริญกรุงซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ เมื่อคุณตี๋คิดอยากจะทำร้าน ก็อยากที่จะทำตามแนวทางของตัวเอง นั่นคือการอนุรักษ์วิถีการกินและสูตรอาหารของที่บ้านรวมถึงคนสมัยก่อนเอาไว้ จึงทำให้ 26 ยี่ สับ หลก เกิดขึ้น ไม่ต้องแปลกใจเลย เมื่ออาหารส่วนใหญ่ที่ขายใน 26 ยี่ สับ หลก นั้นได้มาจากสูตรอาหารของคุณแม่ซึ่งทำให้คุณตี๋กินตั้งแต่สมัยยังเด็ก เพียงแต่บางเมนูนั้นไม่ได้เอาออกมาขาย

     ที่นี่จึงมีเมนูพิเศษซึ่งเป็นสูตรตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งใครที่เป็นแฟนร้านนายโส่ยอยู่แล้ว คงจะต้องมาลองกินที่นี่ เพราะไม่มีขายกันที่ร้านเดิมหรอกนะจะบอกให้

 

บรรยากาศภายในร้าน 26 ยี่ สับ หลก

 

The Vibe

     บรรยากาศภายในร้านไม่ได้ขรึมขลังเหมือนกับร้านก๋วยเตี๋ยวตำรับเก่าแก่โดยทั่วไป แต่ดูเท่แบบคนรุ่นใหม่สไตล์ฮ่องกงด้วยงานอิฐและปูนเปลือย ทั้งนี้คุณพึ่งเล่าให้ฟังว่า เนื่องจากเธอเคยใช้ชีวิตอยู่ที่ฮ่องกงมาระยะหนึ่ง จึงซึมซับบรรยากาศของสถานที่ซึ่งจากมา และแต่เดิมพื้นที่ของ 26 ยี่ สับ หลก เคยเป็นร้านทองมาก่อน เมื่อปรับปรุงพื้นที่ทำร้านจึงได้นำองค์ประกอบเก่าซึ่งมีอยู่แต่เดิมของร้านทองอย่างซี่ลูกกรงมาใช้เป็นลูกเล่นในการตกแต่ง ประกอบกับแสงไฟสีแดงเช่นนี้ยิ่งให้อารมณ์ ‘หว่อง’ แบบจีนฮ่องกงกันไปใหญ่

 

The Drinks & The Dishes

 

เหล้าจีนแช่บ๊วยอุ่นๆ

 

     เราได้รับการต้อนรับด้วยเซตเหล้าจีนแช่บ๊วยอุ่นๆ ซึ่งลูกค้าจะได้รับเป็นเวลคัมดริงก์ก็ต่อเมื่อสั่งอาหารชุดหม้อไฟโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มแต่อย่างใด เหตุที่ต้องอุ่นเหล้าก็เพราะจะช่วยให้แอลกอฮอล์อ่อนลง ทั้งทำให้ได้กลิ่นและรสเหล้าละมุนยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี ประเดิมจานแรกด้วย ‘ข้าวซี่โครงโกเบอบหม้อดิน’ (200 บาท) ใช้เนื้อส่วนติดซี่โครง นุ่มอร่อย ได้รสเนื้อเต็มปากเต็มคำ กัดนิดเดียวก็ขาด กินกับข้าวอบร้อนๆ ได้รสเนื้อตุ๋นฟินกันไป เราชอบจานนี้มาก จากการสอบถามจึงพบว่าเป็นสูตรเด็ดที่คุณแม่ของคุณตี๋ทำให้รับประทานที่บ้านตั้งแต่สมัยที่เจ้าของร้านยังเด็ก

ข้าวซี่โครงโกเบอบหม้อดิน 

 

เนื้อตุ๋นเอ็นตุ๋นหม้อดิน

 

ยำรวม

 

     ตามมาด้วย ‘ยำรวม’ (150 บาท) นำเนื้อทุกแบบที่มีมาทำเป็นยำรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดีแต่ไม่แซ่บจนเกินหน้าเกินตา ต่อด้วย ‘เนื้อตุ๋นเอ็นตุ๋นหม้อดิน’ (220 บาท) แต่ที่คนรักเนื้อฟินจนถึงขีดสุดจริงๆ คงต้องเป็นเมนู ‘หม้อไฟ’ (ชุดเนื้อ 350 บาท) ซึ่งประกอบไปด้วยเนื้อสันใน เนื้อตุ๋น ลูกชิ้น และผัก ซึ่งคุณจะสั่งเนื้ออย่างอื่น เช่น เนื้อกรอบ เอ็น ผ้าขี้ริ้ว หรือเนื้อโกเบ ฯลฯ  แยกมาเป็นจานเดี่ยวๆ เพิ่มก็ได้ ส่วนคนไม่กินเนื้อที่หลงติดสอยห้อยตามเพื่อนสายเนื้อมาที่นี่ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะเขามีหมูสไลด์ กับหมูตุ๋นให้รับประทานเช่นกัน ส่วนของหวานแนะนำคือ ‘กรานิต้า พุทราเชื่อม’ (50 บาท) หวานกำลังดี เย็นสดชื่น

หม้อไฟมีเนื้อหลายชนิดให้เลือก

เหมาะสำหรับมากินกันหลายคน