×

พาณิชย์ ตั้งศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย จับมือโรงงานผลิต 1 ล้านชิ้นต่อวัน แก้ปัญหาขาดแคลน

03.03.2020
  • LOADING...

เมื่อวานนี้ (2 มีนาคม) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง กระทรวงสาธารณสุข องค์การเภสัชกรรม สำนักงานอาหารและยา ผู้แทนโรงพยาบาลเอกชน ผู้แทนโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย และภาคเอกชนผู้ผลิตหน้ากากอนามัย 11 รายทั่วประเทศ หารือกับผู้บริหารจากกระทรวงพาณิชย์ เพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน 

 

โดยจุรินทร์เปิดเผยว่า ผู้แทนจากทั้ง 11 โรงงาน ได้แจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้กำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 36 ล้านชิ้นต่อเดือน และสามารถเร่งการผลิตได้สูงสุดอยู่ที่ 38 ล้านชิ้น โดยไม่หยุดทำการ ซึ่งปัญหาสำคัญในขณะนี้ คือการนำเข้าวัตถุดิบจากจีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย ซึ่งไม่สามารถนำเข้าจากจีนได้แล้ว ขณะที่การนำเข้าจากไต้หวันยังทำได้ แต่จำนวนลดน้อยลง และการนำเข้ามีปริมาณจำกัด ขณะที่อินโดนีเซียแม้ยังสามารถนำเข้าวัตถุดิบได้ แต่ก็มีการเลื่อนการส่งมอบ และมีราคาสูงขึ้นหนึ่งเท่าตัว 

 

ซึ่งในที่ประชุมได้มีการหารือร่วมกัน 5 ประเด็น ได้แก่ การผลิต การกระจาย การส่งออก การดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด และการให้ความช่วยเหลือในการผลิตหน้ากากอนามัย โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

 

1.เพื่อให้ได้ตัวเลขการผลิตที่ชัดเจนแน่นอน กระทรวงพาณิชย์จะส่งตัวแทนเข้าไปประจำแต่ละโรงงาน เพื่อรับแจ้งปริมาณการผลิต รวมทั้งกำกับดูแลสต๊อกเพื่อให้ตัวเลขมีความชัดเจน โดยทุกวันจะมีตัวเลขการผลิตส่งมาที่ศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย ที่กรมการค้าภายในและกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ร่วมกันบริหารจัดการ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทำงานร่วมกันมาตลอด จากนี้ไปการดำเนินการจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น สำหรับต้นทุนการผลิต กรมการค้าภายในจะเข้าไปดูแลเรื่องวัตถุดิบการนำเข้า และต้นทุนการผลิต เพื่อพิจารณาแนวทางให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้การผลิตหน้ากากอนามัยสามารถเดินหน้าได้ต่อไป

 

2.จะมีการจัดตั้งศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย โดยมีผู้แทนจากกรมการค้าภายในกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบริหารจัดสรรหน้ากากอนามัยให้กับหน่วยงาน และสถานพยาบาลของทุกหน่วย ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้อย่างยิ่ง โดยก่อนหน้านี้ได้มีการกระจายให้กับกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว 350,000 ชิ้นต่อวัน รวมแล้ว 3,450,000 ชิ้น เพื่อกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในสังกัด 

 

ขณะที่โรงพยาบาลเอกชนยังมีปัญหาประสบความขาดแคลน จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการทบทวนตัวเลข โดยหารือกับหน่วยงานสถานพยาบาลทุกสังกัด เพื่อนำตัวเลขมาบริหารจัดการร่วมกันในศูนย์การกระจายหน้ากากอนามัยให้เป็นที่ยุติต่อไป

 

3.จะมีการลงนามประกาศเรื่องการส่งออกหน้ากากอนามัย ซึ่งจะต้องผ่านการขออนุญาตทุกกรณี แม้จะนำออกชิ้นเดียวก็ต้องขออนุญาต ยกเว้นกรณีผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ และมีความจำเป็นต้องใช้หน้ากากอนามัย หรือเว้นแต่หน้ากากอนามัยที่โรงงานผลิตมีการผลิตอยู่แล้ว และไม่ได้ใช้สำหรับภายในประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจการค้าของภาคเอกชนเอง

 

4.ในส่วนของการจับกุมดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินสมควร ได้มีการดำเนินการไปแล้ว 31 ราย และไม่ติดป้ายแสดงราคา 20 ราย รวมทั้งสิ้น 51 คดี หรือแบ่งเป็นการจับกุมหน้าร้าน 46 ราย และทางออนไลน์จำนวน 5 ราย กรณีการขายเกินราคามีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

 

ทั้งหมดนี้ ได้ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนเพื่อนำส่งอัยการต่อไป สำหรับการจัดการกับคดีออนไลน์นั้น กระทรวงพาณิชย์จะขอความร่วมมือกับกระทรวงดีอี เพื่อทำการสืบสวนกรณีการโพสต์ขายของทางออนไลน์ กรณีขายในราคาสูงเกินสมควร รวมทั้งแพลตฟอร์มต่างๆ ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

 

5.มาตรการช่วยเหลือสำหรับกระบวนการผลิตหน้ากากอนามัยที่ผลิตกว่า 30 ล้านชิ้นต่อเดือน หรือเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านชิ้นต่อวัน เมื่อรัฐบาลประกาศควบคุมราคาสินค้าหน้ากากอนามัยอยู่ที่ 2.50 บาท ก็จะหาแนวทางช่วยเหลือเอกชนรับภาระส่วนเกิน เพื่อให้จำหน่ายได้ในราคา 2.50 บาท 

 

หากเอกชนประสงค์จะนำเข้าเครื่องจักรผลิตหน้ากากอนามัย หรือการผลิตฟิลเตอร์ตัวกรอง ก็สามารถหารือในการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือได้ 

 

สำหรับหน้ากากอนามัยทางเลือก กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการหน่วยงานสังกัดท้องถิ่นทั้ง อบต. อบจ. เพื่อเร่งการผลิต ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เน้นประชาสัมพันธ์หน้ากากผ้า เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับบุคคลทั่วไป สามารถใช้เพื่อเป็นการป้องกันได้ระดับหนึ่ง และให้ประชาชนเป็นทางเลือกในการใช้หน้ากากอนามัยด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้มีการหารือ และนำเรียนให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X