หากเปรียบเส้นทางตลอดหลายปีในวงการบันเทิงเกาหลีของ ONE หรือ จองแจวอน เป็นการเดินทาง จุดเริ่มต้นของเขาเริ่มจากการเป็นแรปเปอร์ใต้ดินที่มีคนรู้จักเพียงกลุ่มเล็กๆ ก่อนจะค่อยๆ เดินทางไปถึงหมุดหมายต่างๆ มากมาย ทั้งการเดบิวต์ในฐานะดูโอนาม 1Punch, เข้าร่วมรายการ Show Me The Money ซีซัน 4 เพื่อพิสูจน์ตัวเอง, แสดงศักยภาพในฐานะศิลปินและนักแสดงภายใต้สังกัด YG Entertainment กระทั่ง ณ ปัจจุบันเขาเดินทางมาถึงหมุดหมายใหม่อย่าง Private Only บริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง และเดินหน้าเติมเต็มความฝันด้านการทำเพลงที่เขารักในปัจจุบัน
ในวันที่ ONE เดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกเพื่อเข้าร่วมเป็นหนึ่งในไลน์อัพงาน Bangkok Block Party ณ Central Chidlom Parking Space ทาง THE STANDARD POP มีโอกาสได้สัมภาษณ์และพูดคุยกับเขาถึงก้าวใหม่บนเส้นทางดนตรีที่เพิ่งเริ่มต้น ไปจนถึงอนาคตและเป้าหมายในชีวิตที่หลอมรวมให้เขากลายเป็น ONE ในวันนี้
คุณเพิ่งปล่อยอัลบั้ม PRVT 01 เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในวันที่ทุกกระบวนการของอัลบั้มนี้เสร็จสิ้น ความรู้สึกของคุณในตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
ผมเพิ่งปล่อยอัลบั้ม PRVT 01 ออกมา ซึ่งจริงๆ ก็ไม่เชิงเป็นอัลบั้มนะครับ เพราะเป็นรูปแบบของมิกซ์เทปมากกว่า ซึ่งผมรู้สึกว่านี่เป็นก้าวแรกของผมที่เพิ่งจะเริ่มต้น รู้สึกว่าในที่สุดก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว ประมาณนี้ครับ
Hard To Love ไตเติลแทร็กจากอัลบั้ม PRVT 01
จากทั้งหมด 16 เพลงในอัลบั้ม PRVT 01 คุณชอบเพลงไหนมากที่สุด เพราะอะไร
จริงๆ ผมชอบหมดทุกเพลงนะครับ แต่เพลงที่ผมฟังบ่อยที่สุดคือ I Don’t Know Anything ซึ่งจริงๆ แล้วหลังจากปล่อยอัลบั้มออกมาผมก็ไม่ค่อยได้ฟังเพลงในอัลบั้มตัวเองมากเท่าไรครับ เพลงนี้เป็นเพลงเดียวที่ผมฟังเลย ไม่รู้เพราะว่าค่อนข้างอินกับเนื้อเพลงหรือเปล่า แต่เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงที่ผมฟังบ่อยที่สุดครับ
คุณเคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Nylon (ฉบับเดือนตุลาคม 2019) และ Marie Claire (ฉบับเดือนมกราคม 2020) ถึงการออกมาทำค่ายเพลงด้วยตัวเองและความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิต หลังจากได้ลงมือทำแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
ก่อนอื่นเลยคือมันยากมากจริงๆ ครับ แต่ข้อดีก็คือผมสามารถมาร่วมงาน Bangkok Block Party ที่กรุงเทพฯ แบบครั้งนี้ได้ และถ้าผมต้องการ ผมก็สามารถไปพบกับทุกคนที่ประเทศไหนก็ได้ แต่ถ้าอยู่กับบริษัทจะมีขั้นตอนระหว่างนั้นเยอะ และการจะออกอัลบั้มบ่อยๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เพราะผมใช้เงินตัวเอง ก็เลยสามารถออกอัลบั้มได้เยอะ และสามารถจัดงานแสดงได้บ่อยๆ ด้วยครับ เป็นข้อดีที่ผมสามารถมาพบกับทุกคนที่รอคอยและชอบผมได้ใกล้ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ
ปัจจุบันเกาหลีมีอิทธิพลทางดนตรีต่อโลกเพิ่มมากขึ้น คุณมองปรากฏการณ์นี้อย่างไร
เพลงเกาหลีก็ค่อนข้างมีอิทธิพลอยู่ครับ การมียูทูบยิ่งทำให้โกลบอลมากขึ้น และเพราะทุกอย่างเข้าถึงง่ายขึ้น จึงทำให้ทั่วโลกค่อยๆ กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นดนตรีหรือแฟชั่น ทุกอย่างดูเหมือนกันมากขึ้น ซึ่งนี่น่าจะเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียครับ คือถ้าเราทั้งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและรู้ว่าโลกกำลังมีกระแสอะไรก็คงเป็นสิ่งที่ดีใช่ไหมครับ เพราะอย่างนั้นเพลงเกาหลีก็มีทั้งให้อิทธิพลและรับอิทธิพลจากที่อื่นมาเหมือนกันครับ
ตอนนี้มีศิลปินหลายคนที่มาทำเพลงร่วมกัน ถ้าสามารถเลือกได้ คุณอยากร่วมงานกับศิลปินคนใดมากที่สุด เพราะอะไร
ผมอยากลองร่วมงานกับ IU ครับ เพราะ IU เท่มาก ไม่ว่าจะเรื่องของคอนเซปต์ เนื้อเพลง ฯลฯ และผมคงได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างถ้าได้ร่วมงานกันครับ
ถามเรื่องงานแสดงบ้าง หลังจากซีรีส์ Her Private Life และภาพยนตร์ Goodbye Summer ในปีที่ผ่านมาแล้ว ปี 2020 เราจะมีโอกาสได้เห็นคุณรับงานแสดงอีกไหม ถ้ามีโอกาสคุณอยากท้าทายตัวเองกับบทบาทไหน
ปี 2020 ผมอยากลองแสดงภาพยนตร์นอกกระแสดูสักเรื่องครับ เพราะถ้าพักงานแสดงนานเกินไป ด้วยเซนส์ของผม ผมกลัวว่าความรู้สึกจะหายไปด้วย
ผมมีแผนอยู่เสมอว่าอยากจะมีผลงานการแสดงให้ได้สักเรื่องในปีนี้ ส่วนบทบาทนั้น ผมอยากลองแสดงบทที่ไปสุดครับ แบบฉลาดสุดๆ อะไรแบบนี้ แต่ไม่ใช่คาแรกเตอร์แบบหนุ่มดอกไม้นะครับ ผมอยากแสดงคาแรกเตอร์ที่สามารถโชว์รอยสักออกกล้องได้ เพราะมันค่อนข้างลำบากที่จะต้องซ่อนรอยสักเวลาแสดงครับ
นอกจากงานเพลงและงานแสดงแล้ว มีบทบาทไหนในวงการบันเทิงที่คุณอยากท้าทายความสามารถของตัวเองอีกไหม
ผมอยากลองกำกับมิวสิกวิดีโอของตัวเองดูครับ ไม่รู้ว่าจะได้ทำเมื่อไร ถ้าเป็นในปีนี้ก็จะดีมากเลย แต่ว่าตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการวางแผนครับ
เป้าหมายในชีวิตของคุณคืออะไร
การที่ผมพอใจ ได้สนุกและอยู่กับงานที่ผมทำอยู่ตอนนี้นานๆ ครับ ผมอยากเป็นคนที่ทั้งเท่และเฉลียวฉลาดครับ
สุดท้ายนี้อยากให้กล่าวอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยที่ติดตามคุณมาตลอด
ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่มอบความรักมากมายมาให้ผม ถ้ามีโอกาสผมก็จะมาพบทุกคนบ่อยๆ ให้ได้เลยครับ เพราะมีทุกคน ผมจึงสามารถจัดงานแสดงดีๆ และได้นั่งสัมภาษณ์อยู่แบบนี้ ขอบคุณครับ แล้วเจอกันบ่อยๆ นะครับ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
