×

เป็นไปไม่ได้ / ทำไม่ได้ / หรือไม่ได้ทำ ก้าวข้ามกำแพงความเชื่อในใจสู่เป้าหมายชีวิตที่ดีขึ้น

06.02.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • หลายครั้งสิ่งที่เราคิดว่าเป็น ‘ความจริง’ บางทีมันเป็นแค่ ‘ความเชื่อ’ ที่สะสมกันมานานจนความเชื่อนี้แข็งแรงและกลายเป็นกำแพงที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
  • ฉลองก็กิน เหนื่อยก็กิน เครียดก็กิน ฯลฯ นั่นคือกำแพงความเชื่อ ‘ถ้าอยากมีความสุขให้กิน’ แม้ในความเป็นจริงจะไม่เป็นอย่างที่เชื่อก็ตาม
  • เมื่อหลักฐานเปลี่ยน ความคิดก็เปลี่ยน เวลาเจอเรื่องยากๆ หรือความท้าทาย อาจจะเป็นเรื่องที่ในอดีตคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือทำไม่ได้ ให้คิดอย่างเดียวเลยว่า ‘เป็นไปไม่ได้  ทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำ’

หนึ่งปีที่ผ่านมานี้เป็นปีที่พิเศษมากๆ สำหรับผม เพราะมันเป็นปีที่ผมได้พิสูจน์ด้วยตัวเองเลยว่า หลายๆ อย่างที่เราเชื่อว่าเป็น ‘ความจริง’ สำหรับเรา แท้จริงนั้นมันไม่จริงเลย

 

หลายครั้งสิ่งที่เราคิดว่าเป็น ‘ความจริง’ บางทีมันเป็นแค่ ‘ความเชื่อ’ ที่สะสมกันมานานจนความเชื่อนี้แข็งแรงและกลายเป็นกำแพงที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ

 

กำแพงแรก ‘ถ้าอยากมีความสุขให้กิน’

ผมมีความเชื่อมาตลอดว่าผมเป็นคนที่ชอบกินมากๆ เชื่อว่าการกินทำให้มีความสุขมากๆ เรื่องกินน่าจะเป็นเรื่องที่ผมใช้เงินมากที่สุดแล้ว

 

เวลาผมเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง ร้านอาหารคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ความพยายามในการจัดทริปของผมจะไปอยู่ที่เรื่องการจองร้านอาหารเยอะ บางทีถึงกับเดินทางไปเมืองนั้นเพียงเพื่อที่จะได้ไปกินอาหารร้านนี้โดยเฉพาะก็มี คนที่สนิทกับผมจะรู้ว่าผมจริงจังกับเรื่องกินมากๆ

 

อีกเรื่องคือผมคิดว่าคนเราต้องกินอาหารครบสามมื้อถึงจะอยู่ได้อย่างมีความสุข และผมก็ดำเนินชีวิตแบบนั้นมาตลอด

 

ฉลองก็กิน เหนื่อยก็กิน เครียดก็กิน ฯลฯ

 

นั่นคือกำแพงความเชื่อของผมครับ ‘ถ้าอยากมีความสุขให้กิน’

 

ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ ว่าการกินนำความสุขมาให้ผมอย่างมาก และเป็นมาตั้งแต่ยังจำความได้

 

จนกระทั่งผมเริ่มมาทำ Intermittent Fasting (IF) หรือการอดอาหารเป็นช่วงๆ

 

เริ่มแรกผมทำเพราะอยากลองทำ Brain Hack อยากให้สมองทำงานดีขึ้น จะได้ทำงานได้เยอะขึ้น

 

แรกเริ่มเดิมที ผมทำแบบที่เรียกว่า 16/8 คือกินอาหาร 8 ชั่วโมง อด 16 ชั่วโมง

 

เห็นผลประมาณหนึ่ง แต่พอผมเปลี่ยนมาทำ 18/6 คือกินอาหาร 6 ชั่วโมง อด 18 ชั่วโมง คราวนี้เริ่มเห็นผลเยอะขึ้น

 

จนวันหนึ่งผมลองอดอาหาร 24 ชั่วโมงเลย ปรากฏว่าทำได้นะ แล้วก็ไม่ได้ทรมานอะไรด้วย

 

วันนั้นเองผมรู้สึกว่าผมได้ก้าวข้ามความเชื่อเดิมๆ ได้ทำลายกำแพงเล็กๆ ในใจของเราลงไป

 

กำแพงที่ว่า ‘ถ้าอยากมีความสุขให้กิน’ มันไม่มีอยู่แล้ว

 

ทุกวันนี้ถ้าได้กินของอร่อยก็ดี ไม่ได้กินก็ไม่เป็นไร แต่ผมไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องอาหารมากมายเหมือนแต่ก่อนแล้ว

 

ตอนที่ผมกำลังเขียนบทความนี้ก็อยู่ในช่วงชั่วโมงที่ 23 ของการทำ IF ของวันนี้ ซึ่งชีวิตก็ปกติดี มีความสุขไม่แพ้ตอนกินแหลก

 

มันทำให้ผมนึกย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดนี้

 

กำแพงที่สอง ‘เครียดต้องดื่ม’

แต่ก่อนผมเคยคิดว่าเวลาเครียดต้องออกไปดื่ม เพราะเวลาเครียดผมก็ออกไปดื่มมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเจอวิธีอื่นได้

 

จนกระทั่งผมเริ่มทนกับชีวิตตัวเองไม่ไหว เลยตัดสินใจลองเลิกดื่มดู ตอนนี้ไม่ได้แตะแอลกอฮอล์มาเกือบปีแล้ว รู้สึกว่าชีวิตเราไม่มีแอลกอฮอล์ก็หายเครียดได้นะ

 

จะว่าไปต้นเหตุของความเครียดนั้นน้อยกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะเรื่องที่ทำให้เครียด หลายๆ ครั้งก็มาจากเรื่องการดื่มนี่แหละครับ

 

มันทำลายกำแพงที่ว่า ‘เครียดต้องดื่ม’ ลงไปอย่างราบคาบ

 

กำแพงที่สาม ‘คนแบบเราไม่มีทางวิ่งมาราธอนจบ’

ผมเคยคิดมาเสมอว่าคนวิ่งมาราธอนจบนี่เป็นคนที่มาจากอีกโลกหนึ่ง และชีวิตคนเราไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องกระเสือกกระสนไปวิ่งมาราธอน ไม่เห็นจะได้อะไรกับชีวิตขึ้นมา

 

ที่สำคัญกว่านั้นคือผมคิดว่าชาตินี้ผมไม่มีทางไปวิ่งมาราธอนเด็ดขาด เพราะมันหนักเกินไปสำหรับชีวิตผม

 

ผมเชื่อแบบนั้นมาตลอด จนกระทั่งวันที่ผมวิ่งมาราธอนจบและผมได้พบกับโลกอีกโลก โลกที่ซึ่งอยู่หลังกิโลเมตรที่ 42.195

 

มันได้พังกำแพงที่ว่า ‘คนแบบเราไม่มีทางวิ่งมาราธอนจบ’ ไปได้

 

ปีนี้ผมอยากลองทำอะไรอีกอย่าง

 

สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ คือผมเป็นคนที่ไม่เก่งด้านเทคนิค ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม

 

ผมเชื่อว่าที่ผมเอ็นทรานซ์ติดคณะวิศวกรรมศาสตร์เพราะคะแนนวิชาภาษาอังกฤษ

 

ตอนสมัยเรียน พวกวิชาเลขหรือวิชาคำนวณที่มันยากๆ ผมมักจะทำไม่ได้ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องการเขียนโค้ด (Code) อันนี้เรียกว่าไปไม่เป็นเลย

 

ผมเชื่อมาตลอดว่าผมสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยทักษะด้านอื่นที่ไม่ใช่ด้านเทคนิค

 

จนกระทั่งผมพบว่าความเชื่อนี้ถูกสั่นคลอนจากการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในยุคหลังๆ อย่างมาก

 

สิ่งที่ผมตัดสินใจทำเพิ่มในปีนี้เลยคือผมจะศึกษางานด้านการตลาดที่เกี่ยวข้องกับสาย Tech แบบลึกซึ้งให้ได้ ตั้งแต่ Automation, Data Analysis ไปจนถึง AI

 

มันคงต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่วันนี้ผมเริ่มแล้ว และจะทำให้ดีที่สุด

 

เดี๋ยวมาติดตามกันว่าผมจะทลายกำแพงความเชื่อว่า ‘เราไม่เก่งทักษะด้านเทคนิค’ ได้ไหม

 

เมื่อหลักฐานเปลี่ยน ความคิดก็เปลี่ยนครับ

 

เดี๋ยวนี้เวลาเจอเรื่องยากๆ หรือความท้าทาย อาจจะเป็นเรื่องที่ในอดีตคิดว่าเป็นไปไม่ได้หรือทำไม่ได้

 

เดี๋ยวนี้คิดอย่างเดียวเลยครับ

 

‘เป็นไปไม่ได้ ทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำ’

 

ภาพประกอบ: Nuttarut B.

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising