×

เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, มาช่า วัฒนพานิช รสชาติความเป็นคนคือการค้นพบด้วยตัวเอง

24.09.2018
  • LOADING...

ถ้าพูดถึงศิลปินนักร้องหญิงแกร่งในวงการเพลงไทย ชื่อของ เสาวลักษณ์ ลีละบุตร และ มาช่า วัฒนพานิช คงเป็นชื่อที่ติดอันดับต้นๆ ทั้งเรื่องความรักระดับตำนาน และเรื่องงานเพลงเศร้าที่ถูกถ่ายทอดเหมือนมานั่งในใจคนกำลังเจ็บปวด

 

ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ และ THE STANDARD ถือโอกาสที่ทั้ง 2 คน ขึ้นคอนเสิร์ตร่วมกันได้พูดคุยซักถามทั้งเรื่องการมองตัวเองในวันนี้และอดีต ประโยชน์ของน้ำตาและความเศร้าในมนุษย์ สิ่งที่ตระหนักรู้ในวัยกลางคน รวมไปถึงนิยามคำว่า ‘แกร่ง’ ที่ทั้งคู่พยายามบอกว่าตนเองไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไร เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงอีกหลายล้านคนบนโลกนี้

 


คนเราเปลี่ยนแปลงทุกปี อย่าเอาวันนี้ไปตัดสินอดีต

มาช่า: ไม่มีอัลบั้มไหนที่เป็นพี่ที่สุดหรอกค่ะ เพราะพี่รู้สึกว่ามันก็สมควรกับเขาแล้วในแต่ละช่วงเวลา เพราะว่า ณ เวลานั้นเขาก็เป็นคนอย่างนั้น และอยากทำอย่างนั้น เมื่อเวลาเปลี่ยนเป็นอัลบั้มอื่น เขาก็เปลี่ยนเป็นอีกอย่าง มันไม่ใช่อัลบั้ม ถามดาว หรือ มายา จะเป็นอัลบั้มที่เป็นพี่ที่สุด แต่เวลานั้นตอนนั้น มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

 

แอม​: คนเราแต่ละปีความคิด ความอ่าน ความชอบ ความรู้สึกก็จะเปลี่ยนไป บางทีเรามองกลับไปแล้วก็รู้สึกว่าตัวเราเองเมื่อปีที่แล้วกับปีนี้การคิด การตัดสินใจ หรือรีแอ็กชันกับสิ่งต่างๆ ยังไม่เหมือนกันเลย ไม่ต้องย้อนถึงอัลบั้มแรกหรอก ซึ่งสุดท้ายมันก็สมควรกับผู้หญิงคนนั้นของปีนั้น เขาก็ทำในสิ่งที่เขาน่าจะเป็น เราไม่เคยขัดใจกับอะไรที่ผ่านมาแล้ว เพราะมันไม่ใช่เราวันนี้ เราเอาวันนี้ไปตัดสินคนนั้นมันคงไม่ค่อยแฟร์เท่าไร

 

มาช่า: และถ้าไม่มีวันนั้นที่เขาเดินก้าวที่หนึ่ง เราจะมีก้าวที่สิบหรือ เราจะเอาก้าวที่สิบไปตัดสินใจก้าวที่หนึ่งคงไม่ใช่ คนเราถ้าไม่เริ่มก้าวแรกมา มันจะมี สอง สาม สี่ ห้า ตามมาได้อย่างไร

 

แอม: ถ้าเราไม่เคยทำอะไรอี๋ๆ เราจะไม่รู้ว่าสิ่งนี้มันอี๋และอย่าทำอีกนะแก

 

น้ำตาคือสิ่งวิเศษของมนุษย์ที่ธรรมชาติให้มา

มาช่า: มนุษย์เราโชคดีตรงที่มีต่อมน้ำตาให้ระบาย ไม่อย่างนั้นทุกอย่างที่เก็บไว้และไม่มีทางระบายออกมันคงอึดอัดมาก คงต้องกรี๊ดหรือต้องทำอะไรสักอย่าง แต่มนุษย์เรามีน้ำตาให้ร้องไห้ และพอได้ร้องออกมาบางครั้งบางคนก็รู้สึกว่าโล่งใจขึ้น บางคนก็อาจจะเปิดเพลงเศร้าเพื่อบิลด์ตัวเอง มันเป็นไปได้ บางทีก็อยากเล่นเอ็มวี

 

แอม: พวกเราเคยร้องไห้ไม่ออกไหมคะ เคยรู้สึกเครียดมากแล้วร้องไห้ไม่ออกไหม มันทรมานนะ บางทีเราต้องการเพลงเศร้าหรืออะไรสักอย่าง เหมือนเราได้เทกระโถน หรือเทขยะ ร้องไห้ไม่ออกมันทารุณค่ะ เราต้องหาเพลงฟังเพื่อให้ร้องให้เสร็จสักคืน พรุ่งนี้จะได้จบและไปทำการทำงานต่อ เพราะไม่อย่างนั้นเราไม่รู้ว่าจะไปน้ำตาแตกต่อหน้าผู้คน หรือในที่ที่ไม่ควรที่จะร้องไห้หรือเปล่า เจอแบบนี้เพลงช่วยได้ในหลายครั้ง

 

พี่พูดเปรียบเทียบทางร่างกายกับทางอารมณ์นะคะ ทางร่างกายถ้าเราปวดอึ ปวดฉี่ เราต้องกลั้น แต่สุดท้ายก็ต้องไปอึ ไปฉี่อยู่ดี คุณจะเก็บไว้ทำไม เพราะนั่นคือการระบายของเสียออกจากร่างกาย ส่วนของเสียทางอารมณ์ ถ้าคุณกำลังระบายออกแล้วมีใครสักคนมาชี้หน้าด่าว่าคุณงอแงหรืออ่อนแอ ขอโทษเถอะค่ะ Fuck You นี่คือสิ่งธรรมชาติให้มา ร้องไห้เถอะค่ะจะเก็บไว้ทำไม แล้วพอร้องไห้ออกไปถึงจุดหนึ่งที่มันโล่ง มันไม่มีใครร้องไห้ไปตลอดตาปีตาชาติหรอก สุดท้ายมันก็ต้องถึงจุดที่ เฮ้ย ปวดหัว ตาตุ่ย ส่องกระจกแล้วตกกะใจตัวเอง มันจะมีจุดของมัน

 

ไม่ใช่แค่เพลงเศร้าแต่เราเรียนรู้ได้จากทุกอย่าง

แอม: พี่คิดว่า จริงๆ แล้วคนเราเรียนรู้อะไร จากอะไรก็ได้ ไม่ใช่ว่าเราตะบี้ตะบันจะฟังแต่เพลงเศร้าแล้วก็มาจ่อมจมอยู่กับมัน เราเรียนรู้จากอะไรก็ได้ทุกอย่างบนโลกนี้ถ้าอยากเรียนและมีปัญญา ถ้าเราไม่ใช้ปัญญากับอะไรเลย ก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ไม่ว่าจะจากเพลงหรือแม้กระทั่งการเดินข้ามถนนหรือซื้อกาแฟสักแก้ว หรือมองคนที่ป้ายรถเมล์ คนที่ไม่คิดอะไรก็คือไม่คิด และไม่เคยได้อะไรเลยตั้งแต่เกิดจนตาย คนที่คิดก็จะได้กำไร หนังเรื่องเดียวกัน คนที่ดูก็ได้อะไรกลับมาไม่เท่ากัน ทั้งๆ ที่ซื้อตั๋วเท่ากัน คนซื้อหนังสือราคาเดียวกันแต่กำไรไม่เท่ากัน

ทุกอย่างที่เราเอาความรู้สึกของเราไปยึดมั่นหรือผูกพัน แล้วเราเรียกมันว่าความรัก เมื่อมันต้องเปลี่ยนแปลง เสื่อมสลาย พลัดพราก ไปตามกฎธรรมชาติ เป็นทุกข์ทั้งนั้น

หากนั่นคือความจริงแท้ท่ีเราต้องรับมัน

แอม: เมื่อเด็กๆ ได้ยินคำสอนที่พระพุทธเจ้าสอนว่า ‘ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์’ พี่รู้สึกคัดค้านเพราะไม่เคยเข้าใจเลยว่ามันจะทุกข์ไปได้อย่างไร ความรักมันออกจะหลั่งสารแห่งความสุข ในสายตาของเด็กหรือวัยรุ่น ความรักมันสวยงามและมองความทุกข์ไม่ออก แต่ถ้าถามพี่วันนี้ นี่คือสิ่งที่พี่เพิ่งจะเข้าใจเมื่อตอนแก่ และพี่เข้าใจมันอย่างถ่องแท้ว่ารักอะไรก็ทุกข์กับสิ่งนั้น พี่ไม่ได้หมายความถึงเฉพาะความรักหนุ่มสาวหรือคู่รัก รักอะไรก็ทุกข์ค่ะ เรามีบ้านบ้านไฟไหม้ก็ทุกข์ มีรถโดนชนหรือพังก็เป็นทุกข์ เลี้ยงหมาแล้วหมาตายเป็นทุกข์ ทุกอย่างที่เราเอาความรู้สึกของเราไปยึดมั่นหรือผูกพัน แล้วเราเรียกมันว่าความรัก เมื่อมันต้องเปลี่ยนแปลง เสื่อมสลาย พลัดพราก ไปตามกฎธรรมชาติ เป็นทุกข์ทั้งนั้นค่ะ แม้ว่าก่อนจะพลัดพรากเราก็รู้สึกเป็นห่วงในสิ่งที่รัก นั่นก็เป็นทุกข์มากพอแล้ว ทุกอย่างที่เราบอกว่านั่นคือของเรา แล้วมันสูญหาย แตกหัก มันเป็นความทุกข์ทั้งสิ้น

 

รสชาติความเป็นคนคือการค้นพบด้วยตัวเอง

แอม: บทเรียนที่ฉมังที่สุดก็คือการพบเจอด้วยตัวเอง คนอื่นสามารถไกด์ได้ หรือเราก็สามารถเรียนรู้จากคนอื่นได้ การฟังในส่วนที่ดีมันดีทั้งนั้น แต่อย่าลืมว่าไอดอลแต่ละคนก็ไม่ใช่ไม่เคยทำอะไรเลวร้าย สิ่งที่เป็นข้อผิดพลาดพวกเราก็มากมาย แล้วแต่ว่าจะหยิบตรงไหนไปใช้

 

มาช่า: จริงๆ ง่ายๆ อย่างที่พี่แอมบอก ไปเรียนรู้เอาเอง เราคงไม่มีอะไรหรอก อยากจะหยิบมุมไหนอะไรไปใช้ก็ตามใจ

 

แอม: บอกแล้วจะเชื่อไหม

 

มาช่า: แล้วอีกอย่าง เราไม่อยากให้ใครรู้สึกว่าเราเป็นฮีโร่ เพราะพี่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่ผ่านร้อนหนาวผิดพลาดกันมา แต่สิ่งที่พี่รู้คือพยายามทำให้ดีที่สุดในแต่ละวัน ก้าวต่อไปข้างหน้า นี่คือทางเลือกของชีวิต

 


Credits

 

Interviewer ท้อฟฟี่ แบรดชอว์

The Guest เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, มาช่า วัฒนพานิช


Show Creator
ภูมิชาย บุญสินสุข

Episode Producer & Editor อธิษฐาน กาญจนะพงศ์

Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ

Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค

Art Director อนงค์นาฏ วิวัฒนานนท์

Photographer อธิษฐาน กาญจนะพงศ์

Proofreader ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจัทร์

Webmaster รพีพรรณ เกตุสมพงษ์

Music Westonemusic.com

  • LOADING...

READ MORE

MOST POPULAR



Close Advertising
X