วานนี้ (1 ตุลาคม) ที่ ศาลปกครองจังหวัดสงขลา พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีตรอง ผบ.ตร.) เดินทางมายื่นฟ้อง พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในความผิดฐาน หมิ่นประมาท และ หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีการเผยแพร่ข้อมูลที่อ้างว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตลักข้อสอบคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตนไม่เคยถูกแจ้งข้อกล่าวหาหรือถูกดำเนินคดีอาญาในเรื่องดังกล่าว แต่กลับถูกนำชื่อไปเกี่ยวโยงกับคดีทุจริตข้อสอบของจุฬาฯ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พร้อมเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ ซึ่งแม้จะไม่ระบุชื่อชัดเจน แต่ก็มีลักษณะพาดพิง ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นตน ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง เกียรติยศ และภาพลักษณ์อย่างรุนแรง จึงเป็นเหตุผลที่ต้องใช้สิทธิ์ทางกฎหมายยื่นฟ้องในครั้งนี้
คดีดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นเมื่อเดือนเมษายน 2568 เมื่อกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) ได้รับหนังสือร้องทุกข์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตข้อสอบ คณะนิติศาสตร์ (ภาคค่ำ) โดยพบพฤติการณ์นำข้อสอบออกจากห้องสอบ จัดทำเฉลย และนำกลับมาให้ผู้เข้าสอบ
ต่อมา คณะพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา 1 คน และแจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 3 คน ในความผิดฐานร่วมกันนำเอกสารของผู้อื่นไปโดยประการที่อาจเกิดความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 โดยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 บก.สอท.1 ได้ส่งสำนวนคดีพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้พนักงานอัยการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งการสอบสวนในส่วนนี้ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงการถูกโยงว่า คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0038/1397 ลงวันที่ 8 เมษายน 2568 และคำสั่งที่ 0039/1493 ลงวันที่ 11 เมษายน 2568 ระบุว่า จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา พบข้อมูลสนทนาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ที่บ่งชี้ถึงการแบ่งหน้าที่กันทำงานในการทุจริตข้อสอบ
โดยบางช่วงมีข้อความที่ เชื่อมโยงกับชื่อ ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แม้เอกสารดังกล่าวจะระบุถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ต.ท. ชานนนท์ อ่วมทร, ร.ต.อ. ชัชวาล กุลกำลัง และ ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ หวัดแวว แต่การถูกกล่าวถึงในเชิงพาดพิงอย่างต่อเนื่อง ทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าตนเป็นผู้ต้องหา
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ผมมายื่นฟ้อง ผบ.ตร.ในคดีอาญา 2 ฐานความผิด คือหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เพราะการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเรื่องคดีลักข้อสอบ แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อโดยตรง แต่สำนวนและการให้ข่าวชัดเจนว่าพาดพิงถึงผม
พร้อมกล่าวยืนยันว่า ตนไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ และไม่เคยถูกแจ้งข้อหาเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเลย การถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ทั้งที่พ้นจากราชการไปแล้ว จึงเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบธรรม และทำให้ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นผู้ต้องหาทุจริตข้อสอบ ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่มีการดำเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวน
