สำหรับคนที่กินวิตามินเป็นกำๆ ทุกเช้าอาจต้องชั่งใจไว้หน่อย เพราะประโยชน์ของวิตามินอัดเม็ดเหล่านั้นอาจไม่เป็นอย่างที่คิด หลังมีผลการวิจัยล่าสุดจาก The Johns Hopkins University พบว่า การกินวิตามินรวมไม่สามารถป้องกันโรคหัวใจ หัวใจล้มเหลว หัวใจวาย หรือการเสียชีวิตได้จริง หลังได้เก็บข้อมูลของประชาชนไว้กว่า 2 ล้านคน
ตามที่มีผลการวิจัยหลายชิ้นก่อนหน้านี้ให้ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน เช่น ผลการศึกษาจาก Brigham and Women’s Hospital หลังตามติดคนจำนวน 14,000 คนเป็นเวลา 11 ปี พบว่าการกินวิตามินรวมเป็นประจำทุกวันไม่สามารถป้องกันโรคที่เกิดกับหัวใจได้เลย
อันที่จริงเราไม่เคยมีหลักฐานแน่ชัดอยู่แล้วว่าการกินวิตามินเม็ดจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคร้ายหรือป้องกันสุขภาพได้จริง สมาคมโรคหัวใจอเมริกัน (American Heart Association) เองยังไม่แนะนำ แต่ประชากรทั่วโลกกลับไม่คิดเช่นนั้น ลำพังแค่ในสหรัฐอเมริกาเองยังมีคนกินวิตามินรวมกว่า 30 % (อย่าลืมว่าตลาดอาหารเสริมที่นู่นใหญ่มาก) และวิตามินเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกควบคุมโดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ Food and Drug Administration (FDA) อีกด้วย
สิ่งที่น่ากลัวคือมีงานวิจัยพบว่า กว่า 50% ของวิตามินเหล่านี้ไม่ได้ใส่ส่วนผสมไว้ตามที่ระบุไว้ข้างกระปุก บางอย่างขาด บางอย่างเกิน ปัญหาที่ตามมาคือร่างกายมนุษย์ไม่สามารถกำจัดสารบางตัวที่บริโภคเข้าไปมากเกินพอดี เช่น วิตามินเอ วิตามินอี หรือวิตามินเค เมื่อเอาออกมาไม่ได้ พวกมันเลยไปสะสมไว้ที่ตับ กลายเป็นปัญหาสุขภาพตามมา อีกทั้งวิตามินที่มีอยู่ในแคปซูลก็ไม่ได้มอบผลประโยชน์แบบเดียวกับที่พบในอาหารด้วย
อาหารดี ออกกำลังกาย สองสิ่งนี้อะไรก็แทนไม่ได้
ดังนั้นการที่มีคนบอกคุณว่าไม่ชอบกินผักให้กินกระปุกนี้ ไม่อยากออกกำลังกายให้กินกระปุกนั้น หรือหากอยากผิวสวยต้องแคปซูลเม็ดนี้ จึงไม่ได้ผล 100% เพราะอาหารเสริมเหล่านั้นไม่สามารถทดแทนคุณค่าทางโภชนาการได้เหมือนอาหารจริงๆ ที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุจากผักและผลไม้ รวมถึงไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพอย่างกิจกรรมทางกายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาวิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน
ทางที่ดีลองเริ่มจากการหยุดกินวิตามินหรืออาหารเสริม แล้วเปลี่ยนมาเริ่มกินอาหารให้ครบหมู่ เช่น โปรตีนไม่ติดมัน ธัญพืช ผัก ผลไม้ ฯลฯ ควบคู่กับการออกกำลังกาย แล้วสังเกตตัวเองดูว่าคุณรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมไหม ร่างกายแข็งแรงมีกำลังวังชา ป่วยน้อยลง หรือหน้าใสจนคนร้องทักเลยหรือเปล่า
ในกรณีที่คุณคิดว่าตัวเองขาดวิตามินจริงๆ ลองเช็กในชีวิตประจำวันว่าพลาดอะไรไปหรือเปล่า เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดดมากเกินไป เขี่ยผักในจานออกตลอด เลือกกินมากเกิน หรือไดเอตผิดวิธีจนร่างกายขาดสารอาหาร แนะนำว่าก่อนกินวิตามินหรืออาหารเสริมใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน หากผลตรวจเลือดระบุว่าร่างกายขาดวิตามินตัวนั้นจริง จากนั้นค่อยวางแผนว่าเราสามารถเพิ่มวิตามินที่ขาดหายไปด้วยวิธีไหนได้บ้าง
Cover Photo: Chatchai Choeichit
Photo: Shutterstock
อ้างอิง:
- www.hopkinsmedicine.org/health/healthy_heart/eat_smart/the-truth-about-heart-vitamins-and-supplements
- www.usatoday.com/story/news/nation-now/2018/05/29/vitamins-provide-no-benefit-cardiovascular-health-study/650435002
- www.consumerlab.com/reviews/multivitamin_review_comparisons/multivitamins
- newsroom.heart.org/news/multivitamins-do-not-promote-cardiovascular-health
- www.sciencedaily.com/releases/2017/04/170405144434.htm