×

เปิดโจทย์การบ้านจากนายกฯ ถึงทูตไทยทั่วโลก เน้นย้ำเรื่องไหนเป็นพิเศษ?

13.06.2025
  • LOADING...
นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร มอบหมายภารกิจการทูตเชิงรุกแก่ทูตไทยทั่วโลก ระหว่างพิธีปิดการประชุมที่กรุงเทพฯ

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปีนี้ ภายใต้หัวข้อ ‘การทูตเชิงรุกที่ตอบโจทย์ประชาชน: จากนโยบายสู่การปฏิบัติ’ พร้อมมอบโจทย์การบ้าน เพื่อให้ ‘ทีมไทยแลนด์’ เดินหน้าทำงาน โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ

 

โจทย์แรก: สู้เฟกนิวส์ เพื่อขับเคลื่อนผลประโยชน์ประเทศ

 

นายกรัฐมนตรีระบุว่า อยากจะให้ทีมไทยแลนด์ช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้อยู่ในจุดที่เกิด ‘ประโยชน์สูงสุด’  เนื่องจากตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งโครงสร้างทางอำนาจ และระเบียบโลก ไม่ว่าจะเป็นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 

 

พร้อมยกตัวอย่าง การที่คนจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยน้อยลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประเทศจีนเองเดินหน้าโปรโมทเรื่องการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างจริงจัง ในขณะเดียวกันก็เป็นผลมาจากข้อมูลที่ผิดพลาด หรือ ข่าวปลอม (Fake News) 

 

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีระบุว่า แม้เราจะไม่สามารถจัดการหรือหยุด Fake News ได้อย่างเด็ดขาดแบบ 100% แต่ทีมไทยแลนด์สามารถช่วยกันป้อนข้อมูลที่ดี ที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเข้าสู่ระบบในช่องทางต่างๆ ได้ การมีทีมทำงานด้านสื่อโซเชียลที่เข้มแข็ง จะยิ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของรัฐบาลได้อย่างมาก

 

โจทย์สอง: ประสานงานและทำงานเป็นทีม

 

นายกรัฐมนตรีระบุว่า ‘การสื่อสารในทุกระดับ’ มีความสำคัญ ควรประสานกันให้มาก เพื่อให้ความเข้าใจทุกอย่างลงไปถึงประชาชนทุกกลุ่มจริงๆ โดยเฉพาะการเข้าใจผิดเรื่องเฟกนิวส์ต่างๆ  นายกรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายให้ทีมไทยแลนด์รับมือกับประเด็นปัญหานี้ ส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้องให้ทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ 

 

โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับใช้เทคโนโลยีในการทำงาน  พร้อมระบุว่า การบูรณาการ และการทำงานกันอย่างสามัคคี จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น 

 

โจทย์สาม: สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับจุดยืนของไทย

 

นายกรัฐมนตรี ได้ยกตัวอย่าง 3 เรื่อง ที่ยังขาดการชี้แจงที่เหมาะสมให้แก่ประเทศต่างๆ 

 

1. มาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา 

 

ทีมไทยแลนด์สามารถช่วยกันสื่อสารเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาล รวมถึงพัฒนาการต่างๆ ว่าในขณะนี้เดินหน้าถึงไหนแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะทำอะไรบ้าง อยากให้มีการสื่อสารที่ถูกต้องจากกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ  

 

2. สถานการณ์การเมืองในเมียนมา 

 

เพื่อให้นานาประเทศเข้าใจถึงเหตุผลและความจำเป็นในการดำเนินนโยบายของไทย โดยเน้นย้ำว่า จุดยืนของไทยและอาเซียนพร้อมจะเป็น ‘ตัวช่วย’ ที่จะทำให้เกิดความสงบสุขในเมียนมา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไทยสื่อสารโดยตรงกับเมียนมามาโดยตลอด จึงถือเป็นสิ่งที่อยากให้ทีมไทยแลนด์ช่วยสื่อสารในประเด็นนี้

 

3. กรณีข้อพิพาทไทย-กัมพูชา 

 

นายกรัฐมนตรีระบุว่า ทีมไทยแลนด์ทุกคนมีหน้าที่ในการอธิบายเหตุผลให้กับมิตรประเทศเข้าใจถึงความจำเป็นที่ไทยต้องดำเนินมาตรการต่างๆ เหตุผลที่ไทยยึดมั่นในกลไกของ ‘ทวิภาคี’ เป็นเพราะอะไร รวมถึงต้องการให้เน้นย้ำว่า ไทยไม่ได้ต้องการที่จะให้เกิดความรุนแรง เราจะแก้ไขปัญหาด้วยความสันติ และเราคุยกันด้วยเหตุผล

 

พร้อมกับมุ่งหวังว่า การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่จะมีขึ้น 14 มิถุนายนนี้ จะมีส่วนทำให้ทั้งไทยและกัมพูชาเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น

 

ด้านมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ตามโจทย์ที่นายกรัฐมนตรีมอบไว้ใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ การแสวงหาโอกาสจากความท้าทายของบริบทระหว่างประเทศ ทั้งในด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ภูมิเศรษฐศาสตร์ (Geoeconomics) และการปรับกระบวนทัศน์นโยบายการต่างประเทศ และปรับกระบวนยุทธ์ทีมไทยแลนด์ (Repositioning) เพื่อให้ประเทศไทยได้รับผลประโยชน์สูงสุด 

 

โดยการใช้ยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นการลดและกระจายความเสี่ยงในเชิงภูมิศาสตร์ พร้อมรักษาสมดุลระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ไทยจะส่งเสริมบทบาทของตนในห่วงโซ่อุปทานของทั้งสองประเทศ และขยายความร่วมมือกับชาติอื่นๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและโลก เพื่อลดความเสี่ยงและสนับสนุนแผนการพัฒนาประเทศในทุกมิติ เช่น ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม พร้อมกับการสร้างคุณค่าและภาพลักษณ์ใหม่ของไทย (Rebranding) โดยการผลักดันอุตสาหกรรม Soft Power ให้สามารถจับต้องได้จริง เพื่อย้ำภาพลักษณ์ของไทยว่าเป็น ‘มิตรที่ขาดไม่ได้’ ของทุกประเทศทั่วโลก

 

พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อน ‘การทูตเชิงรุก’ (Proactive) โดยเฉพาะการรับมือกับสงครามการค้าและระเบียบโลกใหม่ ทั้งระยะสั้นในการส่งเสริมการส่งออก ท่องเที่ยว และการลงทุน และระยะยาวในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน การเจรจา FTA กับประเทศใหม่และกลุ่มความร่วมมือใหม่ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โลจิสติกส์ และการลงทุนด้านพลังงานสะอาด คาร์บอนเทรดดิ้ง เศรษฐกิจดิจิทัล และความมั่นคงทางไซเบอร์

 

โดยนายกรัฐมนตรียังมีนโยบายที่ต้องการให้การทูตเป็น ‘การทูตเพื่อประชาชน’ อย่างแท้จริง โดยให้มีการติดตามผลการดำเนินงาน และรายงานความคืบหน้าต่อนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising