เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐสภาฝรั่งเศสมีมติถอดคำว่า ‘เชื้อชาติ (Race)’ ออกจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ โดยก่อนหน้านี้ฝรั่งเศสประสบความสำเร็จในการแก้ไขคำคำนี้ในกฎหมายทุกๆ ฉบับเรียบร้อยแล้ว โดยพวกเขามองว่า แนวคิดเรื่องเชื้อชาติไม่มีอยู่จริงในประเทศแห่งนี้
คำว่า ‘เชื้อชาติ (Race)’ ปรากฏในรัฐธรรมนูญฝรั่งเศสครั้งแรกในปี 1946 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อแสดงให้ประชาคมโลกเห็นว่า ฝรั่งเศสไม่สนับสนุนและจะไม่อดทนอดกลั้นต่ออุดมการณ์เหยียดเชื้อชาติของกลุ่มนาซีเยอรมัน โดยคำคำนี้ยังคงอยู่ในรัฐธรรมนูญต่อไป แม้จะมีการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งใหญ่เมื่อปี 1958 ก็ตาม
รัฐสภามีมติถอดคำดังกล่าวที่มีอยู่ 1 จุดในรัฐธรรมนูญและแทนที่คำว่า ‘เชื้อชาติ’ ด้วยคำว่า ‘เพศ’ โดยร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ยืนยันว่า พลเมืองของฝรั่งเศสมีความเท่าเทียมกัน ‘โดยไม่คำนึงถึงเพศ แหล่งกำเนิดหรือศาสนา’ ซึ่งกระแสเรียกร้องให้มีการลบคำดังกล่าวออกนั้น เกิดขึ้นทั้งภายในฝรั่งเศสเอง รวมถึงประเทศอาณานิคมและดินแดนในอาณัติต่างๆ โดยเฉพาะในแถบมหาสมุทรอินเดียและทะเลแคริบเบียน
การจัดหมวดหมู่หรือแบ่งแยกเชื้อชาตินี้ถือเป็นสิ่งที่ทำเป็นปกติในประเทศมหาอำนาจอย่างอังกฤษและสหรัฐอเมริกา เช่น การแบ่งแยกคนผิวขาว คนผิวดำ คนเอเชีย คนอาหรับ เป็นต้น ซึ่งฝรั่งเศสเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้ ไม่มีในประเทศแห่งนี้ รวมถึงหลายๆประเทศในยุโรป ซึ่งการจัดหมวดหมู่หรือแบ่งแยกกลุ่มคนจากเชื้อชาติ ล้วนได้รับอิทธิพลมาจากแนวคิดของนาซีเยอรมันแทบทั้งสิ้น โดยการถอดคำว่า ‘เชื้อชาติ’ ออกจากรัฐธรรมนูญ อาจมีส่วนช่วยหลีกเลี่ยงการแบ่งแยกเชื้อชาติ การดูถูกเหยียดหยามและการเลือกปฏิบัติในสังคมไม่มากก็น้อย
อ้างอิง: