×

ก.ล.ต. จ่องัดกฎหมายคุมธุรกรรมจำนำหุ้น เล็งออกเกณฑ์สั่งรายงานข้อมูล คาดได้ข้อสรุปสิ้นปีนี้

12.12.2024
  • LOADING...

เอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการและโฆษก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวในงาน Media Briefing ก.ล.ต. พบสื่อมวลชน ระบุว่า สำหรับความคืบหน้าในกำกับดูแลธุรกิจการจำนำหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีภาพในการดูแลที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยรองเลขาธิการดูแลสายกฎหมายและสายบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ก.ล.ต. อยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาแนวทาง รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นปี 2568 

 

ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีความชัดเจนว่าจะใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในมาตราใดของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อบังคับให้ผู้ที่มีการทำธุรกรรมจำนำหุ้นต้องเปิดข้อมูลกับประชาชนทั่วไปเพื่อให้ทราบข้อมูลหุ้นของ บจ. ที่ถูกนำไปทำธุรกรรมจำนำหุ้นว่าจำนวนมากหรือน้อยอย่างไร ซึ่งหากในกรณีที่หุ้นดังกล่าวถูกบังคับขาย (Forced Sell) ก็จะมีกลไกในการช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถใช้พิจารณาประกอบในการตัดใจลงทุนได้



“เชื่อว่ากรณีการจำนำหุ้นหากทราบว่าใช้กฎหมายมาตราไหนมาจัดการได้ก็จะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในเบื้องต้น เช่น ผู้ที่ทำธุรกรรมจำนำหุ้นมีหน้าที่ต้องรายงานข้อมูลหากไปแตะทริกเกอร์เงื่อนไขที่ต้องรายงาน ซึ่งคงต้องไปดูเกณฑ์รายละเอียดที่จะออกมาว่าจะต้องรายงานจำนำหุ้นที่ระดับไหน รวมถึงความถี่ในการรายงานข้อมูลด้วย ซึ่งต้องบาลานซ์ให้ดีว่าจุดที่เหมาะสมอยู่ตรงไหน ก็พยายามดูประเด็นเรื่องกฎหมายให้รอบคอบ”

 

บรรยากาศงาน Media Briefing ก.ล.ต. พบสื่อมวลชน เดือนธันวาคม 2567

 

เอนกกล่าวต่อว่า วอลุ่มการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ ส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบจากด้านความเชื่อมั่น (Trust & Confidence) จากปัญหาการทุจริตรวมถึงกรณีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดทุนไทย อย่างไรก็ตาม หลังจากปรับกระบวนการบังคับใช้กฎหมายให้สามารถดำเนินการกับผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็วส่งผลให้ความเชื่อมั่นมีทิศทางที่เริ่มดีขึ้น โดยสะท้อนได้จากวอลุ่มการที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาทต่อวัน จากช่วงต้นปี 2567 อยู่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาทต่อวัน

 

ขณะที่ความคืบหน้ากองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) ข้อมูล ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2567 มีกองทุน ThaiESG ทั้งหมด 38 กองทุน มูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากสิ้นปี 2566 จำนวน 16 กองทุน มูลค่าราว 5 พันล้านบาท โดยเป็นกองทุนที่ขอจัดตั้งใหม่ 16 กองทุน นอกจากนี้มี 3 กองทุนเป็นกองทุน ThaiESG เดิมที่ขอแก้ไขโครงการเพื่อเพิ่ม Class ThaiESG 

 

ส่วนประเด็นการบังคับใช้กฎหมายของสำนักงาน ก.ล.ต. จากต้นปี 2567 ถึงวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา พบว่ามีการดำเนินคดีอาญาจากการกระทำอันไม่เป็นธรรมและทุจริตรวม 13 คดี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 8 คดี และมีมาตรการลงโทษทางแพ่ง 10 คดี จำนวนผู้กระทำความผิด 53 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี 7 คดี จำนวนผู้กระทำความผิด 22 ราย โดยมีค่าปรับทางแพ่งและชดใช้เงินเท่าผลประโยชน์ที่ได้รับรวม 696 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 104 ล้านบาท ซึ่งมองว่าการบังคับใช้กฎหมายไปได้ดี ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้แบบนี้เชื่อว่าระยะยาวจะสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนได้

 

เอนกตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่สอบถามถึงกรณี นอท-พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ เจ้าของแพลตฟอร์มลอตเตอรี่พลัส เข้าซื้อหุ้น Big Lot มีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นประธานกรรมการของ บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี หรือ EE โดยมีความเห็นว่า ตามหลักการหาก ก.ล.ต. จะสั่งห้ามหรือแบนบุคคลใดไม่ให้เข้ามารับตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ต้องมีความมั่นใจว่าบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลไม่ดี ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. ตรวจสอบพฤติกรรมแล้วพบการกระทำความผิดจริง เช่น กรณีผู้บริหาร บจ. มีการทุจริต เข้าข่ายลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัทตามประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต.

 

ส่วนในกรณีที่เป็นความผิดอื่นๆ ที่สำนักงาน ก.ล.ต. ไม่ได้ตรวจสอบพบการกระทำเอง จะต้องมีหน่วยงานหรือองค์กรที่มีหน้ามีการตัดสินชี้ขาดว่าบุคคลดังกล่าวมีความผิดจริง ซึ่งหากยังอยู่ระหว่างกระบวนการดำเนินคดีหรือยังไม่ถูกพิพากษาถึงที่สุดทางกฎหมาย ถือว่ายังไม่เข้าข่ายลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหาร บจ.

 

ด้าน จอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า สำนักงาน ก.ล.ต. มีแนวคิดในการพัฒนาระบบนิเวศหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์ (Digital Securities Ecosystem) ของตลาดทุนไทยนั้น คาดว่าการแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับหลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์จะแล้วเสร็จและประกาศใช้บังคับใช้ได้ในช่วงต้นปี 2568 หรือไม่เกินไตรมาส 2/68 โดยการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเรื่องระบบการซื้อขายให้รวดเร็วขึ้น และช่วยลดต้นทุนการดำเนินการ รวมถึงช่วยสร้างให้นักลงทุนโดยเฉพาะรายย่อย ให้มีความมั่นใจว่าหลังชำระเงินไปแล้วจะได้รับหลักทรัพย์ เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนที่มีความปลอดภัยมาใช้ช่วยดำเนินการในการออกและเสนอขายหลักทรัพย์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X