×

DELTA บนมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ซื้ออนาคตล่วงหน้าเกือบ 100 ปี

29.11.2024
  • LOADING...
delta

ไม่บ่อยครั้งที่เราจะเห็นหุ้นที่มีมูลค่า (Market Capitalization) มากที่สุดของแต่ละตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นเท่าตัวในแต่ละปี ซึ่งปีนี้เราก็ได้เห็นบริษัทอย่าง NVIDIA ที่เพิ่มขึ้นกว่า 180% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเองก็มีหุ้นอย่าง บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ที่พุ่งขึ้นกว่า 100% ในวันที่ราคาหุ้นพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 173.50 บาท

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลกำไรของบริษัทเหล่านี้เติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะหลัง และไม่เพียงแค่ต่อเนื่อง แต่ยังเติบโตได้ค่อนข้างโดดเด่นเมื่อเทียบกับภาพรวมของหุ้นอื่นๆ ในตลาด

 

แต่คำถามสำคัญที่ตามมาในมุมของการลงทุนคือ มูลค่าหรือราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงเหมาะสมกับกำไรที่เพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน

 

ในกรณีของ DELTA แม้ว่ากำไรยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง โดย 9 เดือนแรกกำไรเพิ่มขึ้น 22% มาเป็น 16,783 ล้านบาท ในขณะที่มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 1.09 ล้านล้านบาทเมื่อปลายปี 2023 ไปแตะระดับ 2 ล้านล้านบาท ทำให้มาตรวัดมูลค่าหุ้นในมุมของ P/E Ratio พุ่งขึ้นไปสูงถึง 100 เท่า

 

เท่ากับว่าหากกำไรของ DELTA ไม่เติบโตอีกแล้วถัดจากนี้ นักลงทุนจะต้องใช้เวลาถึง 100 ปีจึงจะคืนทุน หากบริษัทนำกำไรที่ทำได้ทั้งหมดมาจ่ายปันผลคืนให้กับผู้ถือหุ้น

 

หากเปรียบเทียบคร่าวๆ กับเฉพาะหุ้นอย่าง NVIDIA ที่มูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว จะเห็นว่ากำไรสุทธิของ NVIDIA ในช่วง 9 เดือนของปี 2024/2025 ก็เพิ่มขึ้น 190% มาเป็น 50,789 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ P/E ของ  NVIDIA ยังอยู่ที่ราว 53 เท่า

 

ความร้อนแรงของ DELTA ที่ดูเหมือนจะเกินกว่าปัจจัยพื้นฐาน ทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศให้ DELTA เป็นหลักทรัพย์เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2024 ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์ไม่สามารถนำหุ้น DELTA มาคำนวณวงเงินซื้อขาย และนักลงทุนต้องซื้อด้วยบัญชี Cash Balance โดยวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ

 

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า ราคาหุ้น DELTA ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเกินปัจจัยพื้นฐาน โดย ณ วันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมาราคาปิดที่ระดับสูงสุด (New All Time High) ที่ 173.50 บาท ด้วย P/E และ P/BV ที่ 100.68 เท่า และ 28.03 เท่า ตามลำดับ ขณะที่มาร์เก็ตแคปเพิ่มขึ้นจากประมาณ 1.38 ล้านล้านบาท เป็นประมาณ 2.16 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังประกาศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาหุ้น DELTA ร่วงลงทันที 26.5 บาท พร้อมมูลค่าที่หายไปกว่า 3 แสนล้านบาท

 

ในมุมมองของนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ 16 แห่งตามข้อมูลใน https://www.settrade.com/ ต่างเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ราคาหุ้นของ DELTA ในปัจจุบันเกินกว่ามูลค่าพื้นฐานไปมาก โดยนักวิเคราะห์ 7 รายแนะนำให้ขาย และอีก 9 รายแนะนำให้ถือ โดยมีนักวิเคราะห์ให้ราคาเหมาะสมไว้สูงสุดที่ 128 บาท ซึ่งยังคงต่ำกว่าราคาปัจจุบันราว 15%

 

ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า การประกาศให้ DELTA เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายเป็นการส่งสัญญาณแตะเบรกความร้อนแรงของตลาดหลักทรัพย์ฯ

 

“ปัจจุบัน Forward P/E ของ DELTA อยู่ที่ 73 เท่า ถือว่าร้อนแรงเกินไป อิงจากกำไรของ DELTA ที่คาดว่าจะเติบโต 15% ในปีหน้า จาก 21,000 ล้านบาท เป็น 24,600 ล้านบาท”

 

หรือหากจะมองในมุม PEG ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ใช้พิจารณาหุ้นเติบโตสูง (Growth) ปัจจุบัน PEG ก็อยู่ที่ระดับ 4.6 เท่า สูงกว่าระดับทั่วไปที่ 1 เท่า

 

“แม้ DELTA จะเป็นหุ้น High Growth และมีธุรกิจดี แต่ราคาแพงมาก” ภาดลกล่าว

 

เชื่อว่าการลงทุนกับหุ้นที่เติบโตเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนมองหา แต่การเติบโตเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะต้องเป็นราคาที่เหมาะสมด้วย อย่างที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวไว้ว่า “It’s far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price.” หรือ “การซื้อบริษัทที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เหมาะสมย่อมดีกว่าการซื้อบริษัทธรรมดาในราคาที่น่าดึงดูดใจ”

 

เพราะหากเราซื้อหุ้นในราคาที่สูงจนเกินไป เมื่อการเติบโตช้าลงราคาหุ้นอาจถล่มลงมาก่อนที่เราจะขยับตัวได้ทัน

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X