วันนี้ (27 พฤศจิกายน) ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท. อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต. สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ผู้ต้องหาข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และสมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน กรณีเงินจำนวน 39 ล้านบาทของ จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย
โดย พล.ต.ท. อัคราเดช กล่าวว่า จากนี้ในคดีทนายตั้มจะขยายผลถึงใครก็เป็นขั้นตอนการทำงานทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวน โดยการดำเนินการจะต้องตรวจสอบว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และรวบรวมพยานหลักฐาน โดยที่ผ่านมาฝ่ายสืบสวนรายงานความคืบหน้ามาที่ตนเองอยู่หลายส่วน
อย่างไรก็ตาม จะต้องพิจารณาว่าข้อมูลเหล่านั้นจะนำเข้าในสำนวนหรือไม่ เป็นประโยชน์หรือสามารถเป็นพยานหลักฐานยืนยันได้หรือไม่
ส่วนกรณี เล็ก คนขับรถของทนายตั้ม ในชั้นนี้ยังถือว่าเป็นพยานอยู่ แต่ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนที่วางแผนในการสอบสวนเอาไว้
เมื่อถามถึงการสอบปากคำของ ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือ ดาว พี่สาวภรรยาทนายตั้ม พล.ต.ท. อัคราเดช กล่าวว่า ตนทราบว่าปิณฑิราให้ความร่วมมือน้อยมาก แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานมากเพียงพออยู่แล้ว เพียงแค่สอบถามว่าจะรับสารภาพหรือไม่เท่านั้น เป็นการให้โอกาสพิสูจน์ความผิด
ส่วนปิณฑิราจะมีความเชื่อมโยงไปถึงใครก็อยู่ระหว่างขยายผลว่าจะมีใครมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะออกหมายจับใครเพิ่มเติม