อย่างน้อย 13 ประเทศพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว ยกระดับมาตรการเข้ม

วันนี้ (29 พฤศจิกายน) หลายประเทศเริ่มทยอยพบผู้ติดโควิดสายพันธ์ุโอไมครอน ซึ่งตรวจพบครั้งแรกบริเวณทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกาแล้วอย่างน้อย 13 ประเทศ หลายประเทศในประชาคมโลกจึงยกระดับมาตรการรับมือโควิดอีกครั้ง โดยเฉพาะคุมเข้มมาตรการเดินทางเข้า-ออกประเทศ รวมถึงระงับเที่ยวบินที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง

หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธ์ุสายพันธุ์โอไมครอน เป็น ‘สายพันธุ์น่ากังวล’ (VOC) ต่อจากสายพันธุ์เดลตา ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเทศที่พบผู้ติดโควิดสายพันธ์ุโอไมครอนแล้วในออสเตรเลีย เบลเยียม บอตสวานา สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก เยอรมนี ฮ่องกง (จีน) อิสราเอล อิตาลี เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส แคนาดา และแอฟริกาใต้

เบื้องต้นแพทย์ชาวแอฟริกาใต้เผยอาการคนติดโควิดสายพันธ์ุโอไมครอนว่า เป็นอาการที่ไม่ปกติแต่ก็ไม่รุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีสุขภาพดี ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยงที่น่าเป็นกังวล โดยผู้ติดเชื้อสามารถรักษาตัวที่บ้านได้ ยังไม่พบรายงานว่ามีการสูญเสียประสาทสัมผัสในการรับรสและดมกลิ่น หรือมีระดับออกซิเจนในเลือดลดต่ำลงอย่างมาก ดังเช่นที่เกิดในผู้ติดโควิดสายพันธุ์เดลตา

โดยทางการเนเธอร์แลนด์ตรวจพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนอย่างน้อย 13 รายในเที่ยวบินที่เดินทางจากแอฟริกาใต้สู่อัมสเตอร์ดัม ขณะที่บอตสวานาที่มีพรมแดนติดกับแอฟริกาใต้ พบผู้ติดเชื้อแล้ว 19 ราย ส่วนอิสราเอลและโมร็อกโกระงับเที่ยวบินที่จะเดินทางเข้าประเทศแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อรับมือกับเชื้อโอไมครอนและป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศ

บทความที่เกี่ยวข้อง: