×

West Side Story (2021) โรมิโอ-จูเลียตฉบับใต้ถุนป่าคอนกรีตแห่งศตวรรษที่ 21

17.12.2021
  • LOADING...
West Side Story

HIGHLIGHTS

7 Mins. Read
  • ถึงแม้ว่าชื่อของ Steven Spielberg จะสามารถใช้การันตีคุณภาพของหนัง (แทบ) ทุกเรื่องที่เขาเกี่ยวข้อง กระทั่งกลายเป็นยี่ห้อสินค้าหรือแบรนด์เนมในตัวเอง แต่ข้อที่น่าเชื่อว่าหลายคนนึกสงสัยเหมือนๆ กันในตอนที่รับรู้ข่าวการสร้างหนังเรื่อง West Side Story ก็คือ เขาจะผลิตซ้ำหนังเพลงที่มันวางบนหิ้งอยู่แล้วไปเพื่ออะไร 
  • เรื่องซึ่งต้องเล่าแจ้งแถลงไขก่อนเพื่อนก็คือ West Side Story ของ Spielberg ไม่ใช่การรีเมกหนังเพลงปี 1961 ทว่ามันย้อนกลับไปนำเอาละครเพลงบรอดเวย์ต้นฉบับซึ่งออกแสดงในปี 1957 มาดัดแปลง หรือบางทีเราเรียกว่าเป็นการจินตนาการใหม่อีกครั้งด้วยเนื้อหาที่ซับซ้อนและตัวละครที่ดูมีความเป็นมนุษย์มนามากขึ้น ด้วยความพยายามจะแก้ไขรายละเอียดที่ผิดพลาดให้ใกล้เคียงความเป็นจริง (Authenticity) และเหนืออื่นใด ด้วยจังหวะจะโคนและกลวิธีทางด้านภาพยนตร์ที่เข้ายุคเข้าสมัย สอดคล้องกับจริตและรสนิยมของผู้ชมปัจจุบัน และนั่นทำให้พูดได้เต็มปากว่า นี่คือ ‘West Side Story แห่งศตวรรษที่ 21’ โดยปราศจากข้อโต้แย้งด้วยประการทั้งปวง
  • ในทำนองเดียวกับฉบับปี 1961 หนังของ Spielberg กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของนักแสดงที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์มากหน้าหลายตา สองคนเป็นอย่างน้อยได้แก่ Rachel Zegler ในบทมาเรีย ผู้ซึ่งดูติดดินกว่าฉบับปี 1961 ของ Natalie Wood นอกจากน้ำเสียงอันก้องกังวาน แอ็กติ้งของ Zegler ยังช่วยให้ผู้ชมได้มองเห็นในภาพที่คมชัดว่าสถานการณ์ของเธอช่างเวทนาเพียงใด เมื่อหญิงสาวพยายามประคับประคองความฝันที่ยิ่งเวลาผ่านไป มันดูลมๆ แล้งๆ มากขึ้นทุกที

ถึงแม้ว่าชื่อของ Steven Spielberg จะสามารถใช้การันตีคุณภาพของหนัง (แทบ) ทุกเรื่องที่เขาเกี่ยวข้อง กระทั่งกลายเป็นยี่ห้อสินค้าหรือแบรนด์เนมในตัวเอง แต่ข้อที่น่าเชื่อว่าหลายคนนึกสงสัยเหมือนๆ กันในตอนที่รับรู้ข่าวการสร้างหนังเรื่อง West Side Story ก็คือ เขาจะผลิตซ้ำหนังเพลงที่มันวางบนหิ้งอยู่แล้วไปเพื่ออะไร อีกทั้งแฟนหนังเพลงก็คงช่วยยืนยันได้ว่า West Side Story ฉบับปี 1961 ของ Jerome Robbins และ Robert Wise ซึ่งประสบความสำเร็จล้นหลาม ยังคงเป็นผลงานที่แข็งแกร่งและทนทานต่อการตรวจสอบด้วยกาลเวลา ไม่มีตรงไหนที่ดูตกยุคตกสมัยแม้แต่นิดเดียว หรืออีกนัยหนึ่ง มันดูเหมือนไม่หลงเหลือช่องทางและความเป็นไปได้ที่ใครจะสร้างสรรค์ผลงานให้วิเศษล้ำเลิศไปกว่านั้นได้อีกแล้ว 

 

ไม่มากไม่น้อย นั่นทำให้โอกาสที่หนังเรื่อง West Side Story ของ Spielberg จะลงเอยด้วยการเป็นขบวนรถไฟที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง แล้วแหกโค้งและตกรางก็มีอยู่สูงลิบลิ่ว

 

West Side Story

West Side Story (1961)  

 

West Side Story

 

แต่ก็นั่นแหละ เรื่องเหนือความคาดหมายก็คือ นอกจาก West Side Story ฉบับปี 2021 ไม่ได้เป็นหนังที่สร้างความอับอายขายหน้าให้กับ Spielberg อย่างที่คาดคะเน ยังเป็นผลงานที่ต้องใช้คำว่าอัดแน่นไว้ด้วยประจุไฟฟ้า หรืออีกนัยหนึ่ง เต็มเปี่ยมไปด้วยเลือดเนื้อและความมีชีวิตชีวา ข้อสำคัญ ฉากหลังอาจจะย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1950 ทว่าแก่นสารของหนังยังคงเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับความเป็นไปในโลกปัจจุบันอย่างแบ่งแยกไม่ได้ โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่อคติและการยึดถือก๊กเหล่า พรรคพวก สีผิว และเชื้อชาติ กลายเป็นเชื้อเพลิงที่โหมกระพือความเกลียดชัง

 

โดยปริยาย นั่นทำให้คำถามข้างต้นที่ว่า ด้วยเหตุผลกลใด Spielberg ถึงได้นำเอาผลงานคลาสสิกมาสร้างอีกครั้ง ก็ค่อยๆ มลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

กระนั้นก็ตาม เรื่องซึ่งต้องเล่าแจ้งแถลงไขก่อนเพื่อนก็คือ West Side Story ของ Spielberg ไม่ใช่การรีเมกหนังเพลงปี 1961 ทว่ามันย้อนกลับไปนำเอาละครเพลงบรอดเวย์ต้นฉบับซึ่งออกแสดงในปี 1957 มาดัดแปลง หรือบางทีเราเรียกว่าเป็นการจินตนาการใหม่อีกครั้งด้วยเนื้อหาที่ซับซ้อนและตัวละครที่ดูมีความเป็นมนุษย์มนามากขึ้น ด้วยความพยายามจะแก้ไขรายละเอียดที่ผิดพลาดให้ใกล้เคียงความเป็นจริง (Authenticity) และเหนืออื่นใด ด้วยจังหวะจะโคนและกลวิธีทางด้านภาพยนตร์ที่เข้ายุคเข้าสมัย สอดคล้องกับจริตและรสนิยมของผู้ชมปัจจุบัน และนั่นทำให้พูดได้เต็มปากว่า นี่คือ ‘West Side Story แห่งศตวรรษที่ 21’ โดยปราศจากข้อโต้แย้งด้วยประการทั้งปวง

 

West Side Story

West Side Story

 

แน่นอนว่าในแง่ของกรอบการเล่าเรื่องก็ยังคงคล้ายคลึงกับของเดิม ซึ่งก็อย่างที่รับรู้รับทราบว่ามันปฏิสนธิมาจากบทละครเรื่อง Romeo and Juliet ของ William Shakespeare อีกทอด กระนั้นก็ตาม ความพิเศษและเฉพาะตัวของฉบับปี 2021 ก็เป็นอย่างที่ได้เกริ่นไว้ก่อนหน้า มันสอดแทรกไว้ด้วยรายละเอียดที่จำเพาะเจาะจงมากขึ้น เรื่องราวความรักต่างเชื้อชาติของชายหนุ่มหญิงสาวในท่ามกลางความเป็นปฏิปักษ์ของสองแก๊งอันธพาลข้างถนน กลุ่มหนึ่งเรียกตัวเองว่า เจตส์ วัยรุ่นผิวขาวเหลือขอ ผู้ซึ่งน่าจะเป็นเจเนอเรชันที่ 2 ของผู้อพยพจากยุโรป อีกกลุ่มก็คือ ชาร์คส์ นักเลงหัวไม้เปอร์โตริกัน ผู้ซึ่งยังคงสื่อสารด้วยภาษาบ้านเกิดของตัวเอง และเผชิญความกดดันจากการเป็นประชาชนชั้นสาม

 

ขณะที่ฉากหลังอันได้แก่ทศวรรษ 1950 ก็เล่นบทบาทสำคัญ ย่านเวสต์ไซด์ของเมืองนิวยอร์กในหนังของ Spielberg ดูเสื่อมโทรมและซอมซ่อกว่าฉบับปี 1961 อย่างเทียบไม่ได้ และดูเหมือนว่าไม่ว่ากล้องของ Janusz Kaminski ผู้กำกับภาพของหนังเรื่องนี้หันไปทางไหน เราก็จะได้เห็นแต่ซากปรักหักพังและนั่นไม่ได้ปราศจากคำอธิบาย

 

ว่ากันตามท้องเรื่อง ความบาดหมางระหว่างแก๊งเจตส์กับชาร์คส์ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องยื้อแย่งกันเป็นเจ้าถิ่น หรือที่เรียกว่า Turf War ซึ่งแปลว่าใครกำราบอีกฝ่ายได้ราบคาบ พวกเขาก็จะได้ประกาศความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขตปกครองดังกล่าวอย่างเต็มภาคภูมิ ส่วนที่เย้ยหยันก็คือ ผู้หมวดแชรงค์ นายตำรวจซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมาของทั้งสองแก๊ง บอกให้ผู้ชมรับรู้ว่าเทศบาลเมืองกำลังสังคายนาย่านแออัดดังกล่าวครั้งมโหฬาร หรืออีกนัยหนึ่ง เปลี่ยนสลัมและแหล่งเสื่อมโทรมละแวกนั้นให้เป็นสิ่งปลูกสร้างสำหรับคนมั่งมี อันเป็นที่มาของภาพตึกรามบ้านช่องที่กำลังถูกทุบทำลาย

 

West Side Story

 

นั่นทำให้ไม่มากไม่น้อย การเผชิญหน้าอย่างถมึงทึงแบบตาต่อตาฟันตาฟันระหว่างเจ็ตส์และชาร์คส์ ซึ่งปิดฉากด้วยความบาดเจ็บล้มตายและความฝันอันบริสุทธิ์สดใสของคนหนุ่มสาวที่ถูกบดขยี้ กลายเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี เพราะจนแล้วจนรอด ไม่ว่าใครแพ้ใครชนะ ทั้งหมดก็ต้องระเห็จออกจากย่านพำนักอาศัยดังกล่าววันยังค่ำ และพวกเขามีสองทางเลือก คนจรจัดข้างถนนหรือพนักงานเฝ้าประตูของตึกสูงระฟ้าที่กำลังจะผุดขึ้นในอีกไม่ช้าไม่นาน

 

ขณะที่หากสำรวจลงไปในรายละเอียดของตัวละคร หนังของ Spielberg ส่องให้ผู้ชมได้มองเห็นตื้นลึกหนาบาง ซึ่งมันช่วยให้หนังดูขึงขังจริงจังมากขึ้น ไล่เรียงคร่าวๆ โทนี่ (Ansel Elgort) ตัวเอกของเรื่อง ผู้ซึ่งชีวิตแต่หนหลังอธิบายได้ด้วยประโยคที่เจ้าตัวบอกหญิงสาวคนรัก (ซึ่งกลายเป็นลางบอกเหตุล่วงหน้า) ว่ามันเหมือนยืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกสูงที่สุดในโลกและพร้อมจะร่วงหล่นได้ตลอดเวลา หรือ ริฟฟ์ (Mike Faist) หัวโจกของกลุ่มเจตส์ ผู้ซึ่งบ้านแตกสาแหรกขาดและมีสถานะไม่แตกต่างจากกลุ่ม The Lost Boys ในเทพนิยาย Peter Pan หรือ เบอร์นาโด้ (David Alvarez) ชายหนุ่มผู้ซึ่งรู้สึกตลอดเวลาว่าอเมริกาไม่ใช่ดินแดนของเขา และผู้ชมรู้สึกและสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นและเดือดพล่านตลอดเวลา

 

West Side Story

 

กระนั้นก็ตาม ตัวละครที่ได้รับต่อเติมเสริมแต่งแล้วช่วยให้หนังยิ่งดูมีมิติล้ำลึกก็คือ ชิโน่ (Josh Andrés Rivera) คู่หมั้นคู่หมายของมาเรีย ผู้ซึ่งคาแรกเตอร์ดั้งเดิม เขาเป็นหนึ่งในนักเลงหัวไม้ ทว่าหนังของ Spielberg เปลี่ยนตัวละครนี้เป็นหนุ่มเปอร์โตริกันใส่แว่น ดูงุ่มง่ามและไม่มีพิษมีภัย ความมุ่งหวังของเขาก็คือการได้เป็นนักบัญชี ฉากที่สะท้อนถึงสัมผัสอันอ่อนไหวแบบ Spielberg(และสถานการณ์คล้ายๆ กับฉากหนึ่งใน Saving Private Ryan) ได้แก่ตอนที่โทนี่กับชิโน่ซึ่งเป็นคู่อริกันโดยนิตินัย ช่วยกันออกแรงยกประตูเหล็กของโรงเก็บเกลือซึ่งถูกใช้เป็นสังเวียนเผชิญหน้าระหว่างสองแก๊ง สิ่งที่คลับคล้ายว่าถูกละไว้ฐานเข้าใจก็คือ ในสถานการณ์ที่ไม่เหมือนเดิม พวกเขาอาจเป็นเพื่อนที่คุยถูกคอกันก็ได้ แต่จนแล้วจนรอด ชะตากรรมของชิโน่ก็ไม่ต่างจากของคนอื่น เขาตกเป็นเหยื่อความจงเกลียดจงชังอย่างหน้ามืดตามัว ซึ่งเปรียบไปแล้วความจงเกลียดจงชังในเรื่องนี้ก็เหมือนกับสัตว์ร้ายที่ทุกคนช่วยกันคนละไม้ละมือชุบชีวิตมันขึ้นมา ทว่าสุดท้ายกลับควบคุมให้มันไม่ออกอาละวาดไม่ได้

 

โดยปริยาย West Side Story ของ Spielberg จึงไม่ได้เป็นเพียงโศกนาฏกรรมความรักของโรมิโอกับจูเลียตของการเคหะเมืองนิวยอร์ก แต่ทุกคนล้วนแล้วร่วมแบ่งปันส่วนเสี้ยวของความเจ็บปวดขื่นขมนี้เสมอเหมือนกัน

 

West Side Story

West Side Story

 

ในทำนองเดียวกับฉบับปี 1961 หนังของ Spielberg กลายเป็นเวทีแจ้งเกิดของนักแสดงที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์มากหน้าหลายตา สองคนเป็นอย่างน้อยได้แก่ Rachel Zegler ในบทมาเรีย ผู้ซึ่งดูติดดินกว่าฉบับปี 1961 ของ Natalie Wood นอกจากน้ำเสียงอันก้องกังวาน แอ็กติ้งของ Zegler ยังช่วยให้ผู้ชมได้มองเห็นในภาพที่คมชัดว่าสถานการณ์ของเธอช่างเวทนาเพียงใด เมื่อหญิงสาวพยายามประคับประคองความฝันที่ยิ่งเวลาผ่านไป มันดูลมๆ แล้งๆ มากขึ้นทุกที

 

แต่คนที่เป็นตัวเต็งรางวัลออสการ์สมทบหญิงปีหน้าแน่ๆ ก็คือ Ariana DeBose ในบท แอนิต้า ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยส่งให้ Rita Moreno ชนะรางวัลนี้มาแล้ว นี่เป็นบทที่เปิดให้นักแสดงได้โชว์ศักยภาพทั้งการร้อง เต้น และแสดง และก็อย่างที่ใครๆ พูดกัน DeBose เต้นได้อย่างสุดชีวิตราวกับไม่มีวันพรุ่งนี้ ร้องเพลงได้เพราะพริ้งราวกับไม่เคยมีแบบอย่างเมื่อวันวาน และเหนืออื่นใด ถ่ายทอดบทบาทของหญิงสาวที่สภาวะข้างในของเธอก็พังพินาศย่อยยับไม่แพ้ใครได้อย่างไร้กาลเวลา

 

สุดท้ายและไม่ท้ายสุด การออกแบบฉากร้องรำทำเพลงของ Spielberg ที่ทั้งหลากหลาย แพรวพราว และตอกย้ำว่าเขาไม่ได้มีภาพจำจากหนังปี 1961 ในห้วงคำนึงจริงๆ พูดง่ายๆ เพลงที่ถูกใช้อาจจะเป็นเพลงเดียวกัน แต่ฉากหลังหรือสถานที่เกิดเหตุ ตลอดจนวิธีการนำเสนอกลับเป็นอิสระต่อกันโดยสิ้นเชิง หนึ่งในฉากที่ส่วนตัวคิดว่ามันโดดเด่นมากๆ และสะท้อนวิสัยทัศน์อันปราดเปรื่องของ Spielberg ก็คือเพลงที่ชื่อว่า ‘Cool’ มันคือฉากที่โทนี่พยายามสยบความพลุ่งพล่านของริฟฟ์ ผู้ซึ่งล่าสุดเขาเพิ่งจะได้ปืนพกมาครอบครองและมันไม่ได้อยู่ในกติกาที่เขาและพวกทำข้อตกลงไว้กับชาร์คส์ 

 

ในแง่ของการออกแบบท่าเต้น ฉากนี้ถูกนำเสนอในรูปของการขับเคี่ยวกันระหว่างโทนี่ ผู้ซึ่งเคยลิ้มรสชาติของชีวิตในคุกในตะรางเนื่องจากการตีรันฟันแทงมาแล้ว กับริฟฟ์ ผู้ซึ่งกำลังห้าวเป้งสุดๆ และอะไรก็หยุดยั้งเขาไม่ได้ ประเด็นสำคัญก็คือ กล้องของ Spielberg และ  Kaminski ไม่ได้เฝ้ามองปฏิสัมพันธ์ดังกล่าวอย่างมีระยะห่าง ตรงกันข้าม กลับเข้าไปคลุกคลีตีโมง หรือจริงๆ สายตาของกล้องจับจ้องอยู่ที่ปืนพกซึ่งถูกยื้อแย่งไปมา และมันทำให้สถานการณ์เบื้องหน้ายิ่งดูเข้มข้นและขมึงเกลียวมากขึ้น

 

West Side Story

 

เห็นว่าตอนแรกหนังเรื่อง West Side Story มีกำหนดฉายตั้งแต่ปีที่แล้ว ทว่าเนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาด นำพาให้หนังต้องเลื่อนฉาย 1 ปีเต็มๆ อันส่งผลให้หนังปี 1961 กับปี 2021 เว้นระยะห่างกัน 60 ปีพอดี มองผิวเผินแล้วนี่เหมือนกับเป็นวาระที่ ‘ของเก่าไป ของใหม่มา’ แต่ข้อเท็จจริงก็คือไม่มีการแทนที่แต่อย่างใด หนังเพลงของ Jerome Robbins และ Robert Wise ยังคงเป็นหนึ่งในเสาหลักของหนังเพลงแห่งศตวรรษที่ 20 ไม่เสื่อมคลาย 

 

และการมาถึงของ West Side Story ของ Steven Spielberg ชวนให้สรุปได้ว่า ‘หนังคลาสสิก’ ที่ดัดแปลงจากละครเพลงบรอดเวย์ปี 1957 ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องเดียว

 

West Side Story (2021)

กำกับ: Steven Spielberg, ผู้แสดง: Ansel Elgort, Rachel Zegler, Ariana DeBose, David Alvarez, Mike Faist

 

ภาพ: 20th century studios

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising