เป็นข่าวที่สร้างความตกใจให้กับแฟนคลับของ Sizzler ตั้งแต่ต้นปี 2568 เมื่อมีการประกาศว่า Sizzler สาขาสยามเซ็นเตอร์ ที่เปิดมานานกว่า 24 ปี กำลังจะปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ โดยทางร้านจะเปิดให้บริการถึงวันที่ 12 มกราคม 2568 เป็นวันสุดท้ายแล้ว
Sizzler ระบุว่า แม้สาขาสยามเซ็นเตอร์จะปิดให้บริการไปแล้ว แต่ลูกค้ายังสามารถไปใช้บริการ Sizzler สาขาใกล้เคียง ได้แก่ MBK Center ชั้น 7, centralwOrld ชั้น 6, One Bangkok ชั้น 5 โซน Parade และ Park Silom ชั้น 2
น่าสนใจว่า ทำไม Sizzler ถึงตัดสินใจปิดร้านที่ถือว่าอยู่ในทำเลทองชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย ซึ่งจากการสอบถาม THE STANDARD WEALTH ได้รับคำตอบเพียงแค่ว่า “เป็นการหมดสัญญาเช่าเท่านั้น” ดังนั้นสิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือจะมีร้านอะไรมาแทนที่ Sizzler
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Exclusive: จากแฟรนไชส์สู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก! ‘ไมเนอร์’ ใช้เงิน 546 ล้านบาท เข้าซื้อเครื่องหมายการค้า Sizzler เล็งขยายตัวในอาเซียนและตะวันออกกลาง
- Sizzler ติดใจอาร์ตทอย สั่งผลิตเพิ่ม 10 เท่า จาก 3,000 ตัวเป็น 30,000 ตัว วางขายช่วงปลายปี ส่วนปีหน้าเห็นโฉมใหม่สลัดบาร์แน่
- ใครก็แทนที่ไม่ได้! Sizzler ปั้นแบรนด์เลิฟผ่าน Mascot Branding ‘น้องชีสโทสต์’ เมนูที่เสิร์ฟมากถึง 9 ล้านชิ้นต่อปี
เพราะสาขาสยามเซ็นเตอร์ถือเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของ Sizzler ด้วยพื้นที่ราว 612 ตารางเมตร รองรับลูกค้า 235 ที่นั่ง มีทราฟฟิกเฉลี่ย 24,000 คนต่อเดือน หรือราว 800 คนต่อวัน
ดังนั้นร้านที่จะมาเปิดต้อง ‘ใจใหญ่’ พอสมควรกับการเทเงินลงทุนเปิดร้านในพื้นที่ขนาดใหญ่ในวันที่เทรนด์ของร้านค้าส่วนใหญ่กำลังลดพื้นที่ลง ไม่ต้องใช้พื้นที่ร้านจำนวนมากอีกแล้ว
สำหรับ Sizzler แม้สาขาแห่งนี้จะไม่ติด Top 5 สาขาที่มียอดขายมากที่สุด ซึ่งได้แก่ Fashion Island, Megabangna, Central Phuket, Future Park Rangsit และ Central Pinklao แต่ก็ถือว่าไม่น้อยหน้า ด้วยยอดใช้จ่ายต่อบิลอยู่ที่ราว 376 บาท
แต่ที่มากไปกว่านั้นด้วยการมีพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้สาขาแห่งนี้มักถูกเลือกให้เป็นสาขาที่จัดกิจกรรมต่างๆ อย่างในเดือนกันยายนที่ผ่านมาก็จัด Cheese Toast Funderland ตลอดทั้งเดือน หรือในเดือนพฤศจิกายนก็จัด Chef’s Table ให้กับลูกค้า Top Spender เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์
ดังนั้นนี่จึงเป็นความท้าทายของ Sizzler ว่าจะใช้สาขาไหนมาจัดกิจกรรมเหล่านี้ต่อไป โดยที่ไม่กระทบผลการดำเนินงานของร้านและยังสร้างประสบการณ์ของแบรนด์ไปในตัว
ปัจจุบัน Sizzler มีอยู่ทั้งสิ้น 65 สาขา โดยในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา ซึ่งนอกจากในประเทศแล้วในปีที่ผ่านมา Sizzler ได้ลองชิมลางไปเปิดยังต่างประเทศแล้วโดยเริ่มที่เวียดนาม และแว่วๆ ว่ามีแผนไปเปิดอีกหลายประเทศ
การบุกต่างประเทศครั้งนี้เปิดผลมาจากการที่ในเดือนมิถุนายน 2566 บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ตัดสินใจซื้อหุ้นทั้งหมดทั่วโลกในแฟรนไชส์แบรนด์ Sizzler นอกเหนือจากในสหรัฐอเมริกา เปอร์โตริโก และกัวเตมาลา ด้วยมูลค่าราว 546 ล้านบาท
ในครั้งนั้น ดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ MINT กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า มีแผนที่จะขยาย Sizzler ไปยังตลาดใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ในภูมิภาคอื่นๆ เช่น ภูมิภาค CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และตะวันออกกลาง ตลาดเหล่านี้มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก ที่สำคัญคือการตั้งเป้าหมายว่าจะขยายสาขาให้มากถึง 200-300 แห่งภายใน 5 ปีต่อจากนี้
ดังนั้นลูกค้า Sizzler สบายใจได้เลยว่านี่ไม่ได้เป็นการปิดกิจการ หากเป็นเพียงการปิดหนึ่งในสาขาที่มีอยู่เท่านั้น และยังมีแผนที่จะแตกกิ่งก้านสาขาเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงต้นปีนี้สิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับ Sizzler คือการยกเครื่อง ‘สลัดบาร์’ ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ที่แบรนด์อื่นก็สู้ไม่ได้ และมีลูกค้ามากถึง 30% ที่เดินเข้ามาเพื่อกินแค่สลัดเพียงอย่างเดียว
แม้ยังไม่แน่ชัดว่าการยกเครื่องครั้งนี้จะมีอะไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ทางผู้บริหารอย่าง อนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็มเอฟ คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองต์ จำกัด หรือ Sizzler เคยกล่าวว่าจะเพิ่มกลุ่ม ‘Superfood’ เพื่อตอบสนองต่อลูกค้าที่รักสุขภาพมากขึ้น