วานนี้ (19 กุมภาพันธ์) วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กำกับดูแลการฝึกซ้อมรบนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมีการยิงขีปนาวุธ เช่น ชนิดความเร็วเหนือเสียง และขีปนาวุธร่อน โดยรับชมการฝึกซ้อมใน ‘ศูนย์ด้านสถานการณ์’ ที่ทำเนียบประธานาธิบดี โดยมีประธานาธิบดีของเบลารุสอยู่ด้วย
ทั้งนี้ ทำเนียบประธานาธิบดีให้รายละเอียดในการฝึกซ้อมดังกล่าว เช่น เรือ และเรือดำน้ำจากกองเรือทะเลเหนือและทะเลดำ ได้ยิงขีปนาวุธร่อน และขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่เป้าหมายทางทะเลและทางบก แต่ยืนยันว่าการฝึกซ้อมนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฝึกอบรมตามปกติ และปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งสัญญาณถึงความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่วนกระทรวงกลาโหมของรัสเซียก็แพร่ภาพอากาศยานที่ยิงขีปนาวุธชนิดความเร็วเหนือเสียง และโจมตีเป้าหมายทางพื้นดินเช่นกัน
ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศในกลุ่ม G7 ซึ่งเป็นชาติที่ร่ำรวย อันประกอบด้วย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ระบุว่าพวกเขาไม่เห็นหลักฐานว่ารัสเซียกำลังลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ และยังคง ‘กังวลอย่างยิ่ง’ เกี่ยวกับสถานการณ์ แถลงการณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G7 ยังเรียกร้องให้รัสเซียใช้วิถีทางทางการทูต
ขณะที่ฝรั่งเศสและเยอรมนีเรียกร้องให้พลเมืองบางส่วนหรือทั้งหมดเดินทางออกจากยูเครน หลังจากยูเครนและรัสเซียกล่าวหากันไปมาเกี่ยวกับการยิงปะทะกันครั้งใหม่ใกล้ชายแดน ซึ่งสำนักข่าว Reuters รายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้งในช่วงกลางคืนที่เข้าสู่วันอาทิตย์ ที่ใจกลางพื้นที่โดเนตสก์ซึ่งถูกควบคุมโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ต้นกำเนิดของการระเบิดนั้นไม่ชัดเจน และยังไม่มีความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนหรือทางการยูเครน ส่วนฝั่งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ก็มีการย้ายเจ้าหน้าที่จากกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ไปยังเมืองลวีฟและกรุงบรัสเซลส์เพื่อความปลอดภัย
แต่ทั้งนี้ แม้ว่า เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวจะระบุมุมมองจากฝั่งสหรัฐอเมริกาอีกครั้งว่า ทีมความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ยังคงยืนยันว่ารัสเซียสามารถเริ่มการโจมตียูเครนได้ทุกเมื่อ แต่ อันนาเลนา แบร์บ็อก รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี ออกมาเตือนเมื่อวันเสาร์ต่อการพยายามคาดเดาหรือสันนิษฐานการตัดสินใจของรัสเซียต่อยูเครน และระบุว่า “เรายังไม่ทราบว่ามีการตัดสินใจโจมตีแล้วหรือยัง” แต่ก็ระบุว่า “ภัยคุกคามต่อยูเครนนั้นมีอยู่จริง”
เช่นเดียวกับ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำของยูเครน ก็ระบุในทางปฏิเสธการคาดการณ์ของสหรัฐฯ โดยระบุในการประชุมความมั่นคงระดับนานาชาติที่เมืองมิวนิกของเยอรมนีว่า “เราไม่คิดว่าเราจะต้องตื่นตระหนก” และบอกว่าเป็นการยากที่จะตัดสินหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ แต่เขาเชื่อหน่วยข่าวกรองของยูเครน ผู้ซึ่ง “เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นตามแนวพรมแดนของเรา” เขาระบุ
ภาพ: Alexey Nikolsky / Sputnik / AFP
อ้างอิง: