×

เศรษฐกิจเวียดนามโต 7.4% ในไตรมาส 3 ร้อนแรงสุดในรอบ 2 ปี

06.10.2024
  • LOADING...
เวียดนาม

เศรษฐกิจ (GDP) ของเวียดนามเติบโตขึ้น 7.4% ในไตรมาส 3 ปี 2024 ตามข้อมูลที่เปิดเผยในวันนี้ GDP สูงกว่าอัตราการเติบโต 6.93% ในไตรมาสก่อนหน้า สวนทางกับการคาดการณ์ของตลาดหลังจากไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปี เข้าถล่มจนทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายส่วนต้องหยุดชะงัก

 

การเติบโตของตัวเลข GDP ดังกล่าว ถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายไตรมาสที่มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2022 ที่ GDP เคยเติบโต 7.99% ซึ่งการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามก่อนการประกาศนี้ค่อนข้างต่ำ โดยธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตเพียง 5.1%

 

การส่งออกเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนการเติบโต โดยเพิ่มขึ้น 15.8% แม้ว่าไต้ฝุ่นยางิจะทำให้ภาคการผลิตในเดือนกันยายนหดตัวเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม ตามข้อมูลของ S&P Global Market Intelligence ส่วนภาคเกษตรกรรมได้รับผลกระทบมากที่สุดจากไต้ฝุ่นดังกล่าว โดยเติบโตเพียง 2.58% เมื่อเทียบกับ 3.34% ในไตรมาสก่อนหน้า

 

ไต้ฝุ่นนี้เข้าถล่มเวียดนามเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2024 ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนและสร้างความเสียหายประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์

 

UOB ระบุว่า “ผลกระทบจะปรากฏในรูปแบบของการสูญเสียผลผลิตและความเสียหายต่อโรงงานในภาคการผลิต การเกษตร และบริการต่างๆ อย่างไรก็ตาม ยกเว้นการหยุดชะงักชั่วคราวนี้ ปัจจัยพื้นฐานระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง”

 

ในระยะยาว สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า GDP เติบโตขึ้น 6.82% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตของเวียดนามก่อนโควิดที่ 7.3%

 

ด้าน VinaCapital มองว่ามีอุปสรรคจากลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามคือสหรัฐฯ โดยระบุว่าการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในเดือนกันยายนบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะยังคงชะลอตัวต่อไป ซึ่งอาจทำให้คำสั่งซื้อจากเวียดนามลดลง

 

“เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวอาจจะลดความต้องการสินค้าที่ผลิตในเวียดนาม เช่น แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ และสินค้าอื่นๆ การเติบโตของ GDP ที่เวียดนามได้รับจากการเติบโตของการส่งออกอาจลดลงในปีหน้า และการตัดสินใจของ Fed เป็นการยืนยันเรื่องนี้”

 

ภาคเทคโนโลยีถือเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเวียดนามในระยะยาว โดยการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์เติบโตขึ้น 20.6% ในไตรมาส 3 ปี 2024 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising