×

ชมคลิป: ท่าทีวันชัย ส.ว. คนแรกอภิปรายแก้ รธน. ชี้ เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ ส.ว.

โดย THE STANDARD TEAM
23.06.2021
  • LOADING...

วันนี้ (23 มิถุนายน) วันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รายแรกที่อภิปราย กล่าวว่า “การแก้รัฐธรรมนูญก็เพื่อให้ตัวเองหวังเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง นักการเมืองทำเป็นเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ ส.ว.”

 

ส่วนเรื่องปิดสวิตช์ ส.ว. ตนยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าตนสนับสนุนการตัดอำนาจ ส.ว. ในการร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี แต่การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นเรื่องของการเอาชนะทางการเมืองไม่ใช่เรื่องของประชาชนเท่าไหร่ เป้าหมายใหญ่คือการเลือกตั้งในครั้งหน้าโดยมองว่าใครจะได้ ส.ส. มากกว่ากัน ซึ่งในบ้านเมืองนี้พูดกันมาตลอดว่าการเลือกตั้งไม่ว่าจะระดับไหนมีการโกงทุจริตซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันหลายที่มากมายมหาศาล แต่เราไม่เคยคิดแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตได้เลย ไม่พูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ปราบปรามการทุจริตได้เลย

 

“รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง ประชาชนเป็นเจ้าของพรรค มีส่วนร่วมคัดคนลงสมัครรับเลือกตั้ง มีส่วนร่วมในการออกค่าใช้จ่ายของพรรคการเมือง ทุกคะแนนของประชาชนมีความหมายไม่ทิ้งน้ำ แต่ตามที่เสนอแก้รัฐธรรมนูญมานี้ พรรคเล็กพรรคน้อยจะหายไป พรรคใหญ่ทุนหนาจะผงาด ลดบทบาทภาคประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ไปสิ้นซาก นายทุนพรรคจะครอบงำพรรค พรรคการเมืองจะเป็นเหมือนบริษัท ลูกพรรค ส.ส. จะเป็นเหมือนพนักงานบริษัท และธุรกิจการเมืองจะกลับมาอีกแล้ว เพราะเรากำลังปิดสวิตช์คนเล็กๆ ที่จะเข้ามามีบทบาททางการเมือง” วันชัยกล่าว

 

จากนั้น นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ลุกประท้วงว่า มีการอภิปรายเสียดสีเพื่อนสมาชิก พร้อมกล่าวว่าให้ลาออกไปเลยเพราะวันชัยเป็นรอยด่างประชาธิปไตย

 

ขณะที่ คารม พลพรกลาง ส.ส. พรรคก้าวไกล แต่หัวใจภูมิใจไทย ลุกขึ้นประท้วงด้วย บอก “ไม่ใช่มาว่าคนแย่เลวซะหมด อย่าเป็นผู้ใหญ่แต่อายุ ฝึกความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเองด้วย”

 

ขณะที่วันชัยกล่าวต่อไปว่า ตนไม่ได้พูดเสียดสีพาดพิง ส.ส. รายบุคคลคนใด และที่ผ่านมามีการอภิปรายต่อว่า ส.ว. รุนแรงกว่านี้อีก อีกทั้งที่ผ่านมา ส.ว. ก็เลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองที่มี ส.ส. เสียงข้างมาก เพราะถ้าไปเลือกคนอื่น นายกฯ ก็จะอยู่ไม่ได้ ส.ว. ก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นมาตรา 272 ให้อำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ ไม่ได้มีความหมายอะไร เพราะ ส.ส. มีอำนาจในตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ท่านรวมตัวกันไม่ได้เกิน 250 เสียงเท่านั้นเอง เลือกตั้งคราวหน้าลองดูว่าถ้าพรรคการเมืองใดรวม ส.ส. ได้ 250 หรือถึง 300 เสียง พรรคนั้นก็ได้เป็นนายกฯ ได้อยู่แล้ว ส่วนตัวย้ำว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการถอยหลังเข้าคลอง ตัดการมีส่วนร่วมทางการเมืองของภาคประชาชนและตนจะขอพิจารณาโหวตเฉพาะบางเรื่องบางประเด็น

 

ตัดต่อ: รัตนา นิษุณะรัตน์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising