ดัชนี SET ของตลาดหุ้นไทย พุ่งแตะ 1,429 จุดในช่วงเช้านี้ เพิ่มขึ้นสูงสุดเกือบ 25 จุด ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันก่อนหน้าที่พุ่งขึ้นมา 38 จุด ส่งผลให้ดัชนี SET กลายเป็นดัชนีที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในบรรดาดัชนีหุ้นหลักทั่วโลกในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Investing.com จากดัชนีที่ปรับตัวขึ้น 10% หรือประมาณ 150 จุด
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนดัชนี SET ให้วิ่งขึ้นต่อเนื่อง ตามความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คือ กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ที่กำลังจะเปิดระดมทุนรอบใหม่ช่วงกลางเดือนนี้ และคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนใหม่เข้ามา 1.5 แสนล้านบาทตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม
สรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ดัชนี SET อ่อนแอกว่าภาพรวมตลาดหุ้นโลกราว 40% แต่หลังจากเทรนด์การลงทุนเปลี่ยนจากหุ้นเติบโต (Growth) มาเป็นหุ้นมูลค่า (Value) ทำให้กระแสเงินลงทุนไหลจากตลาดหุ้นเอเชียเหนือมายังเอเชียใต้ ทั้งไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ขณะเดียวกันกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ที่จะช่วยดึงเงินทุนจากในประเทศเข้ามาลงทุนเพิ่มอีก 1.5 แสนล้านบาท ทำให้นักลงทุนเข้ามาดักซื้อหุ้นไทยไว้ก่อน
ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย และบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดการณ์กลุ่มหุ้นที่น่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง รอบใหม่ โดยหุ้นที่น่าจะเป็นเป้าหมายหลัก เช่น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) และธนาคารกรุงเทพ (BBL)
โดยหนึ่งในเงื่อนไขหลักของการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ที่จะใช้คัดกรองหุ้นรอบนี้น่าจะประกอบด้วย
- เป็นหุ้นที่มี ESG Rating สูง
- เงินปันผลมากกว่า 3%
นอกจาก ADVANC และ BBL ยังมีหุ้นอื่นๆ ที่น่าจะเป็นเป้าหมาย เช่น
ในมุมของ บล.กสิกรไทย AP, BANPU, BCP, CPN, HMPRO, KTB, MAJOR, MEGA, PTTGC, PTTEP, SIRI, TOP, TQM, TTB, TTW, WHA และ WHAUP
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) BJC, EGCO, GPSC, INTUCH, KBANK, LH และ RATCH
สำหรับข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ของกองทุนรวมวายุ ภักษ์ หนึ่ง พบว่าหุ้นที่กองทุนถือครองอยู่มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ปตท. (PTT) สัดส่วน 34.79%, เอสซีบี เอกซ์ (SCB) สัดส่วน 25.32%, ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) สัดส่วน 5.31%, ธนาคารกรุงไทย (KTB) สัดส่วน 3.48% และบางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) สัดส่วน 2.69%
ส่วนผลการดำเนินงานของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ตั้งแต่ปลายปี 2546 จนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 สร้างผลตอบแทน 2.92% ต่อปี ต่ำกว่าดัชนีอ้างอิงที่ให้ผลตอบแทน 3.20% ต่อปี