×

อัพ กุลทรัพย์ แมวดำแห่งวงการ E-Sports ผู้ไม่เคยยอมสยบ แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับระบบจัดการที่ล้มเหลว

25.04.2021
  • LOADING...
อัพ กุลทรัพย์ แมวดำแห่งวงการ E-Sports ผู้ไม่เคยยอมสยบ แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับระบบจัดการที่ล้มเหลว

“เราไม่เคยไลฟ์เลย แม่งสิ้นหวัง เหนื่อยฉิบหาย นี่ไลฟ์เผื่อมีใครเห็นแล้วจะมาช่วย” 

 

ประโยคที่ถึงแม้คนฟังยังไม่ได้ป่วย แต่ได้ยินแล้วเจ็บปวดไปถึงหัวใจ เมื่อ อัพ-กุลทรัพย์ วัฒนผล อดีตนักกีฬา E-Sports และหัวหน้าแคลน VGB (Vagabond Team) ออกมาไลฟ์ผ่าน Facebook ส่วนตัวในวันที่ 20 เมษายน 2564 หลังจากเริ่มรู้สึกป่วยโควิด-19 มาตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2564 แต่ไม่สามารถติดต่อหน่วยงานรัฐหรือโรงพยาบาลเพื่อเข้าถึงการรักษาที่ควรได้รับ 

 

กว่าอัพจะได้รับการตรวจและรักษาก็ปาเข้าไปถึงวันที่ 21 เมษายน วันที่เชื้อโควิด-19 ทำลายปอดเขาไปกว่า 80% ก่อนที่เขาจะทนต่อไปไม่ไหว สิ้นลมหายใจในเวลา 11.26 น. ของวันที่ 24 เมษายน 

 

อัพกักตัวอยู่ที่บ้านด้วยความรับผิดชอบอย่างเคร่งครัด แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับกลายเป็นความตายที่ไม่มีใครรับผิดชอบได้เลย 

 

ข้อความไว้อาลัยด้วยประสบการณ์และความประทับใจจำนวนมากจากผู้คนหลากหลายวงการที่เคยได้สัมผัสกับความรัก ความปรารถนาดีของอัพ เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเขาคือ ‘แมวดำ’ ผู้เป็นที่รัก ขณะเดียวกันการจากไปของเขาก็ช่วยย้ำเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ที่ว่า เพราะเหตุใดอัพ (และผู้ติดเชื้อที่มีอาการจำนวนมาก) ถึงไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที 

 

สุดท้ายแล้วเป็นเพราะเชื้อโควิด-19 หรือการบริหารจัดการวิกฤตที่ล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพกันแน่ ที่ทำให้ชีวิตของเกมเมอร์อย่างอัพเหมือนถูก ‘ตัดออกจากเซิร์ฟ’ โดยไม่มีโอกาสล็อกอินเข้ามาในเกมแห่งชีวิตจริงอีกแล้ว

 

อัพคือผู้บุกเบิกถางทางให้ความชอบของกลุ่มที่ยังไม่แพร่หลายอยู่เสมอ ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ที่เด็กอ่านการ์ตูนมักตกเป็นเป้าของการล้อเลียน ต้องอยู่กันเงียบๆ แบบไม่แสดงออก อัพเป็นคนที่กล้าเปิดเผยความชอบออกมา และค่อยๆ ดึงดูดเพื่อนๆ ที่มีความชอบเหมือนกันเป็นกลุ่มก้อน เปลี่ยนมื้อกลางวันของเด็กที่เงียบเหงาให้กลายเป็นมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยสีสัน เพราะได้แนะนำการ์ตูนเรื่องโปรดให้เพื่อนรู้จักและได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ 

 

หนึ่งในหัวข้อที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ คือความหลงใหลในการ์ตูนเรื่อง Black Cat ที่มีตัวละครเอกชื่อ เทรน ฮาร์ตเนต อดีตผู้พิทักษ์กาลเวลาหมายเลข 13 (XIII) แห่งองค์กรโครนอส ที่ลาออกจากการเป็นนักฆ่าที่เหี้ยมโหดมาเป็น ‘นักกวาดล้าง’ ผู้แสนร่าเริง อ่อนโยน คอยช่วยเหลือคนที่ถูกเอาเปรียบอยู่เสมอ และกลายเป็นที่มาของชื่อ blackcatXIII ที่อัพใช้ในการเล่นเกมและเว็บบอร์ดช่วงแรกๆ 

 

รวมไปถึงวงการคอสเพลย์ที่อัพมักชวนเพื่อนๆ ใช้ห้องวิชางานฝีมือของโรงเรียนเพื่อทำพร็อพไปประกวดตามงานต่างๆ และยังเป็นคนแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จัก Tokimeki Memorial 2 เกมจีบสาวในตำนาน ที่ขยายไปสู่วัฒนธรรมเขียนโดจินมาแบ่งกันอ่านในยุคนั้น 

 

ถึงแม้ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เรารู้สึกว่าลักษณะนิสัยของอัพเข้ากันกับตัวละคร เทรน ฮาร์ตเนต ที่เขาหลงใหลมากที่สุด ถ้าไม่นับฝีมือการยิงปืนที่ไม่มีทางเหมือนกัน อัพและเทรนมีลักษณะเหมือนกันตรงที่ความมุ่งมั่น ใจสู้ คิดหาทางเพื่อทำให้เป้าหมายที่ยากลำบากของตัวเองสำเร็จได้โดยไม่เคยยอมแพ้ แถมยังมีเสน่ห์ เป็นที่รักของคนรอบข้างเช่นเดียวกัน

 

ภาพชัดเจนที่สุดคือย้อนกลับไปเมื่อ 17 ปีก่อน ในวันที่วงการ E-Sports ยังไม่ทันตั้งไข่ หรือจะเรียกให้ถูกยังไม่ทันคลอดออกมาให้คนมองเห็นหน้าตาของไข่ใบนี้ สังคมยังมองว่านักกีฬา E-Sports คือเด็กติดเกมที่ไม่มีอนาคต 

 

ช่วงปี 2547 ยุคที่เกม Need for Speed Underground ครองเมือง อัพคือหนึ่งในจอม ‘Drag’ (นักแข่งรถทางตรง) ฝีมือฉกาจ ต่อมาก็เป็นยอดฝีมือของเกมแนววางแผนการรบ (Real-time Strategy: RTS) อย่าง Warhammer 40,000: Dawn of War ที่เป็นจุดเริ่มต้นแคลน VGB, Company of Heroes และอีกหลายเกมที่อัพไปได้ไกลถึงแชมป์ระดับประเทศ 

 

หลายคนจะรู้จักอัพในฐานะคนดังประจำเว็บบอร์ด Vagabond Team ที่คอยแนะนำเกมใหม่ๆ เทคนิคการเล่น แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเกมเมอร์คนอื่นๆ อยู่เสมอ เมื่อมีงานเกมประจำปีอย่าง Thailand Game Show Big Festival อัพก็จะเป็นแกนนำจัดมีตติ้งให้เพื่อนๆ เกมเมอร์ได้มารู้จักกันจริงๆ มากกว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแค่ตัวอักษร 

 

ไม่ใช่แค่เป็นผู้นำในการเล่นเกม อัพมักจะคอยแนะนำเพื่อนๆ และน้องๆ ให้รู้จักปรัชญาที่แฝงอยู่ในตัวเกมต่างๆ เช่น การนำแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์และกลยุทธ์ตำราพิชัยส่งครามของซุนวูมาประยุกต์ใช้ วางแผนกลยุทธ์ในเกมวางแผน เพื่อยกระดับการเล่นให้ไกลยิ่งขึ้น

 

และเป็นผู้นำแคลน VGB พาสมาชิกที่หลากหลาย ตระเวนแข่งขัน กวาดรางวัล สร้างชื่อตามงาน E-Sports ทุกชนิด ทุกประเภท เรียกได้ว่าคนในวงการเกมยุคนั้นไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ และเป็นความฝันทำให้เกมเมอร์หลายคนฝึกฝน พัฒนาตัวเอง เพื่อได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม และมีคำว่า VGB มานำหน้าชื่อตัวเองเวลาเล่นเกมให้ได้ 

 

เรียกว่าการรวมกลุ่มของ VGB ภายใต้การนำของอัพ ได้กลายเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญที่ทำให้วงการ E-Sports ไทยพัฒนามาได้ถึงตอนนี้ 

 

ไม่ใช่แค่เรื่องการ์ตูนและเกมเท่านั้น หลายคนที่รู้จักอัพเป็นการส่วนตัวล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อัพคือพี่ชายที่แสนดี น้องที่น่ารัก และเพื่อนที่คอยซัพพอร์ตคนอื่นๆ อยู่เสมอ เป็นลูกค้าที่ดี เป็นนักธุรกิจที่ซื่อสัตย์ ไม่ว่าจะเป็นวงการจักรยานเสือหมอบหรือมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ที่อัพมักจะชวนหลายคนออกทริป คอยจัดหาอะไหล่และอุปกรณ์ให้ในราคาถูก และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาหูฟังหลายรุ่นใน Azura Project

 

เวลาใครมีปัญหาเรื่องคอมพิวเตอร์แล้วแก้ไม่ได้ อัพจะใช้ความรู้ความสามารถของตัวเอง Remote (โปรแกรมควบคุมคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นจากทางไกล) มาแก้ไขปัญหาให้อยู่เสมอ 

 

และอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนพูดเหมือนกันคือ เมื่อไรก็ตามที่รู้ว่ามีคนไม่สบายใจ อัพจะเป็นคนแรกๆ ที่ชวนไปกินอาหารอร่อยๆ (โดยเฉพาะบุฟเฟต์) เพื่อปรับทุกข์และผ่อนคลายความรู้สึกอย่างทันท่วงที 

 

ถึงแม้สัมผัสได้ว่าอัพเป็นคนขี้เหงา แต่เขาก็แข็งแกร่งมากพอที่จะพาตัวเองเขาชนะทุกอุปสรรค แม้กระทั่งในช่วงสุดท้ายของชีวิตที่โควิด-19 เริ่มทำร้ายเขามากขึ้น เขาก็ยังพยายามนำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยอารมณ์ขัน 

 

“กักตัวเองมา 5 แล้ว โควตาตรวจแถวบ้านก็ไม่มี (สายด่วนก็โทรไม่ติด) จนจะหายเองแล้ว” 

 

“หนักไม่หนักดูท่อออกซิเจน เกือบไป Isekai (ดินแดนต่างโลก) แล้ว”

 

หรือแม้กระทั่งวันที่ออกมาไลฟ์ อัพอาการหนักถึงขั้นเดินไปเข้าห้องน้ำยังทรมาน แต่เขาก็พยายามเก็บสีหน้า กลั้นเสียงไอเอาไว้ไม่ให้คนเป็นห่วง แถมยังปล่อยมุกตลกตามนิสัยคนมีอารมณ์ขัน ขอความช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ หลังจากติดต่อทุก ‘สายด่วน’ แต่ไร้การตอบรับ โดยไม่กล่าวโทษใครใดๆ ทั้งที่ข้างในร่างกายแทบทนไม่ไหว ก่อนที่สุดท้ายเขาจะทนไม่ไหวและต้องจากโลกนี้ไปจริงๆ 

 

คำถามสำคัญและน่าเศร้าที่ตามมาก็คือ ทำไมเขาถึงต้องทำขนาดนี้? 

 

ทำไมผู้ป่วยที่ทั้งอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและมีอาการถึงไม่มีบริการมาตรวจและรับเขาไปรักษา ที่แย่ที่สุดตามที่อัพบอก คือมีเจ้าหน้าที่รัฐแนะนำให้เขาเดินทางโดยรถสาธารณะเพื่อไปตรวจ ทั้งที่อัพพยายามกักตัวเองอยู่ในบ้านอย่างเคร่งครัดเพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อมาตลอด 

 

ทำไมเกมเมอร์ที่เริ่มต้นตั้งแต่ต้องใช้โทรศัพท์เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเมื่อเกือบ 20 ก่อนถึงยังต้องใช้โทรศัพท์ติดต่อไปที่คอลเซ็นเตอร์ที่ดูเหมือนจะมีมากมาย (บางที่ยังใช้กระดาษบันทึกข้อมูลอยู่ด้วยซ้ำ) แต่ไม่เคยมีคนตอบรับปัญหาของเขา 

 

ทำไมโรงพยาบาลถึงไม่มีที่ว่างให้กับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ในขณะที่ผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการได้รับการรักษาไปก่อนแล้ว แถมก่อนหน้านี้ยังมีคนออกมาบอกว่า ถ้าผู้ป่วยติดเชื้อแต่ไม่มีอาการเลือกกักตัวรักษาตามอาการอยู่ที่บ้านถือว่ามีความผิด!

 

ทำไมกว่าที่อัพจะได้รับการรักษาถึงกินเวลามากกว่า 7 วัน และปอดถูกทำลายไปกว่า 80%

 

ทำไมถึงยังมีคนอีกมากที่อยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกับอัพ

 

ทำไมคนที่ดี เป็นที่รัก มีความรับผิดชอบ คอยช่วยเหลือผู้คน สร้างสรรค์ประโยชน์ ส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนอื่นอย่างอัพต้องพบจุดจบที่ไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ 

 

ทำไมทั้งที่ผ่านมาแล้วมากกว่า 1 ปี แต่ดูเหมือนรัฐบาลจะไม่ได้นำบทเรียนการระบาดรอบก่อนๆ มาออกมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ 

 

ทำไมแฮชแท็ก #ผนงรจมกต ที่ควรจะหายไปได้แล้วถึงได้กลับมาถูกใช้อีกครั้งอย่างน่าเศร้า

 

ทำไมอัพถึงไม่มีโอกาสเฝ้าดูวงการ E-Sports ที่เขารักและปลุกปั้นมาตั้งแต่แรกพัฒนาไปได้ไกลยิ่งกว่านี้ 

 

ทำไมเกมเมอร์อย่างอัพถึงถูกตัดออกจากเซิร์ฟเวอร์ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เป็นเพราะความล้มเหลวในการบริหารเซิร์ฟเวอร์โดย GM เผด็จการที่ไร้ความสามารถ และไม่มีโอกาสได้ล็อกอินเข้าไปอีกแล้ว 

 

แด่…แมวดำผู้เป็นที่รักและไม่เคยยอมแพ้

 

พบกันอีกครั้งที่เซิร์ฟเวอร์ใหม่ ส่วนบอสที่เหลืออยู่และการพัฒนาเซิร์ฟเวอร์นี้ให้ดีขึ้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่พวกเราจัดการเอง 

 

หมายเหตุ: บทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลส่วนใหญ่มาจากข้อความไว้อาลัยโดยเพื่อนๆ ของ อัพ กุลทรัพย์ เป็นหลัก หากมีข้อมูลที่ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนยินดีแก้ไขและขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising