ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ออกมาเตือนว่า สถานการณ์ความขัดแย้งกับยูเครนอาจตึงเครียดขึ้นไปอีก สืบเนื่องจากยูเครนประกาศกฎอัยการศึกในประเทศ หลังทหารสองฝ่ายเผชิญหน้ากันบริเวณช่องแคบเคิร์ชที่เชื่อมระหว่างทะเลอะซอฟและทะเลดำ จนนำไปสู่เหตุการณ์ที่รัสเซียใช้กำลังเข้าจับกุมลูกเรือและยึดเรือของยูเครน 3 ลำ ใกล้กับคาบสมุทรไครเมียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างปูตินกับ อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ปูตินได้แสดงความกังวลต่อเหตุกระทบกระทั่งระหว่างทหารรักษาชายฝั่งของรัสเซียกับทหารเรือของยูเครนบริเวณคาบสมุทรไครเมีย พร้อมตำหนิยูเครนว่าจงใจยั่วยุให้เกิดการปะทะกันด้วยเหตุผลทางการเมือง
ท่าทีของรัสเซียมีขึ้นหลังจากรัฐสภายูเครนได้โหวตเห็นชอบให้ใช้กฎอัยการศึกใน 10 แคว้น เป็นเวลา 30 วัน หลังมีการถกอภิปรายในญัตติที่ยื่นเสนอโดยประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก นานถึง 5 ชั่วโมง โดยโปโรเชนโกระบุว่า กฎอัยการศึกเป็นการเตรียมความพร้อมของกองทัพยูเครน เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามจากรัสเซียที่กำลังขยายตัว
ทั้งนี้ กฎอัยการศึกจะครอบคลุมการเคลื่อนกำลังทหารบางส่วน และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนด้วย
สำหรับเรือ 3 ลำของกองทัพเรือยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดนั้น ประกอบด้วยเรือติดอาวุธ Berdyansk และ Nikopol และเรือพ่วง Yana Kapu แต่นอกจากเรือแล้ว รัสเซียยังควบคุมตัวลูกเรือของยูเครน 24 คน โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) ศาลไครเมียได้สั่งจำคุกลูกเรือ 5 คน เป็นเวลา 2 เดือน จากความผิดฐานมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนในวันนี้จะมีลูกเรืออีก 12 คน ขึ้นให้การในชั้นศาล หลังรัสเซียกล่าวหาว่าบุกรุกน่านน้ำอาณาเขตของรัสเซียอย่างผิดกฎหมาย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: